16 เนื่องจากพระองค์นี้เอง
ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ
ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว
ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก …(เอเฟซัส 4:16
ฉบับมาตรฐาน)
3…อย่าคิดถือตัวเกินที่ตนควรจะคิดนั้น
แต่จงคิดอย่างสุขุมสมกับขนาดความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่ท่าน
4 เพราะว่าในร่างกายเดียวนั้น เรามีอวัยวะหลายอย่าง
และอวัยวะนั้นๆ มีหน้าที่ต่างกันอย่างไร 5
เราผู้เป็นหลายคนยังเป็นกายเดียวในพระคริสต์และเป็นอวัยวะแก่กันและกันอย่างนั้น
6 และเราทุกคนมีของประทานต่างกัน
ตามพระคุณที่ประทานแก่เรา...คือ
ถ้าของประทานเป็นการเผยพระวจนะ
ก็จงเผยตามกำลังของความเชื่อ
ถ้าเป็นการปรนนิบัติก็จงปรนนิบัติ
ถ้าเป็นผู้สั่งสอนก็จงสั่งสอน
ถ้าเป็นผู้เตือนสติก็จงเตือนสติ
ผู้ที่ให้
ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง
ผู้ที่ครอบครอง
ก็จงครอบครองด้วยเอาใจใส่
ผู้ที่แสดงความเมตตา
ก็จงแสดงด้วยใจยินดี (โรม 5:3-6)
ปัญหาของคริสตชนบางคนบางกลุ่มคือ มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน มีความตั้งใจเกินร้อย มีความปรารถนาที่จะทำทุกบทบาทหน้าที่
ทุกภารกิจที่พระกายของพระคริสต์(ชุมชนคริสตจักร)ต้องทำ จนบางครั้งถูกมองว่า เขาไม่ไว้วางใจว่าคนอื่นในคริสตจักรที่มีหน้าที่และจะมีความสามารถร่วมรับผิดชอบทำในพระราชกิจของพระเจ้า เหมือนกับไม่เคารพนับถือในความสามารถ และ
ความรับผิดชอบของผู้อื่นในคริสตจักร
ยิ่งกว่านั้น
เขายังทุ่มเททำในส่วนที่เป็น “ความเป็นพระเจ้า” ของพระคริสต์ทรงกระทำด้วย เราพูดได้ไหมว่า คริสตชนคนนั้นทำ “เกิน”
กำลังแห่งของประทานที่พระเจ้าทรงให้แก่เขารับผิดชอบและทำเกินจนถึงขนาดจะไปทำแทนในพระราชกิจความเป็นพระเจ้าของพระคริสต์ต้องกระทำด้วย
เมื่อเราพิจารณาพระราชกิจของพระเจ้า เพื่อความเข้าใจชัดเจนละเอียดยิ่งขึ้น จึงขออนุญาตอธิบายให้เห็นเป็นส่วนๆ
แต่ในความจริงแล้วทุกส่วนแห่งพระราชกิจของพระเจ้าเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งพิจารณารายละเอียดเป็นส่วนๆ ได้ดังนี้
- พระราชกิจแห่งการทรงสร้างของพระบิดา มนุษย์เราไม่สามารถทำพระราชกิจนี้แทนพระเจ้าได้ แต่เราแต่ละคนสามารถมีส่วนในพระราชกิจแห่งการทรงสร้างของพระองค์ ตามของประทานที่พระเจ้าให้แก่แต่ละคนในชีวิต
- พระราชกิจแห่งการทรงกอบกู้และการทรงไถ่ของพระเจ้า พระบิดาทรงมอบหมายให้พระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์เป็นผู้ทรงรับผิดชอบพระราชกิจนี้ และเป็นพระราชกิจที่พระคริสต์ได้เทชีวิตทั้งชีวิตเพื่อเป็นตัวเชื่อมสร้างให้มนุษย์ได้เกิดการคืนดีกับพระเจ้า ดังนั้น เราต้องระมัดระวังที่อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนคิดจะทำหน้าที่แทนพระเยซูคริสต์ ซึ่งเราไม่สามารถจะกระทำได้ เพราะเราไม่ใช่พระเจ้า
- พระราชกิจของพระเจ้าในพระคริสต์ในความเป็นมนุษย์ คือแบบอย่างชีวิตของพระเยซูคริสต์ในส่วนความเป็นมนุษย์ของพระองค์ ที่ทรงสำแดงให้เราเห็นชัดเจนว่า พระเจ้ามีพระประสงค์เช่นไรต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา และพระเยซูคริสต์ชี้ชัดว่า ที่พระองค์เป็นแบบอย่างชีวิตมนุษย์ตามพระประสงค์ของพระเจ้าได้เช่นนั้น เพราะพระคริสต์ดำเนินชีวิตความเป็นมนุษย์ของพระองค์ด้วยพระกำลังจากพระวิญญาณ เพื่อให้ชีวิตได้เป็นไปตามที่พระเจ้าประสงค์ และนี่คือส่วนที่คริสตชนแต่ละคนที่จะต้องได้รับการเสริมสร้างให้มีชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์ คือชีวิตส่วนนี้ที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแบบอย่างแก่เรา และคาดหวังให้เราเติบโตขึ้นเป็นเหมือนพระองค์มากยิ่งขึ้นทุกวัน แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องตระหนักชัดในตนเองเสมอคือ ที่เราสามารถมีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวันได้นั้นเพราะเราได้รับพระกำลังหนุนเสริมเพิ่มพลังแก่เราในแต่ละวันจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
- พระราชกิจของพระเจ้าที่ทรงกระทำผ่านชีวิตชุมชนคริสตจักร เมื่อพระคริสต์ทรงเรียกแต่ละคนให้มาเป็นสาวกของพระองค์ พระเยซูคริสต์ทรงคาดหวังว่า คริสตชนแต่ละคนจะแสวงหาและพัฒนา “ของประทาน” ในชีวิตที่ได้รับจากพระเจ้าใช้ในการดำเนินชีวิต และ ร่วมในพระราชกิจต่างๆ ของพระองค์ตามของประทาน ความสามารถที่แต่ละคนมีในชีวิต และมีส่วนร่วมในพระราชกิจเสริมหนุนกันและกันแก่คนอื่นๆ ในชุมชนคริสตจักร ทั้งนี้เป็นการร่วมทำพระราชกิจที่มีเป้าประสงค์ของพระเจ้าเป็นเป้าหมายปลายทาง ดังนั้น เราแต่ละคนต้องตระหนักชัดเช่นกันว่า เราไม่ได้ทำกิจกรรมต่างที่เราอยากทำ หรือ ที่เราทำได้ แต่สิ่งที่เราทำนั้นเป็นพระราชกิจของพระเจ้า ที่มีพระประสงค์ของพระองค์เป็นตัวกำกับการทำพันธกิจด้านต่างๆ ในคริสตจักร
บางครั้ง เราคิดทำพันธกิจ “เกินที่ตนควรจะคิด...” มิได้คิดอย่างสุขุมกับขนาดความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่เราหรือไม่? ในชีวิตการทำงาน ผมได้พบเพื่อนหลายคนที่ทุ่มเททำงานพันธกิจ หรือนักกิจกรรมที่ทำงานเพื่อสังคม เรียกว่า “ทุ่มทั้งชีวิต”
สำหรับงานที่เขาทำ และต้องยอมรับว่า
ทำเกินตัว ทำเกินความสามารถ
และสิ่งที่พบเห็นในที่สุดบ่อยครั้งจะตกลงในสภาพ “เหนื่อยอ่อน หมดแรง
หมดไฟ” บ้างถึงกับท้อแท้ผิดหวัง ผมมีเพื่อนใกล้ชิดคนหนึ่งเขาทุ่มเทสุดตัว แต่ผลที่ได้รับสังคมชุมชนไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิดเขาคาด เสียใจ
จนเป็นโรคประสาท ต้องส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลประสาท ใช้เวลาแรมปีในการรักษา
ผู้คนกลุ่มนี้ไม่มีปัญหาเรื่องการอุทิศทุ่มเทชีวิตเพื่องานของพระเจ้า เพื่อสังคมที่ดีกว่านี้
คนกลุ่มนี้เอาใจใส่ต่อพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์
ด้วยจิตใจที่รักเมตตาที่กระตุ้นจูงใจให้เขาตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงเสริมสร้างสังคมชุมชนและโลกขึ้นใหม่
เขาเอาทั้งชีวิตเข้ารองรับภาระโลกอันหนักอึ้งที่เกินกำลังชีวิตที่เขาได้รับจากพระเจ้า
ไหล่ของเราเล็กเกินไปสำหรับภาระที่ใหญ่โตหนักอึ้งนั้น!
เราคงต้องตระหนักว่า เราเป็นสาวกของพระคริสต์ ที่ถวายทั้งชีวิตรับใช้พระประสงค์ของพระองค์ผ่านการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ด้วยของประทาน และ
พระกำลังตามที่พระเจ้าประทานแก่เราผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราต้องบอกกับตนเองว่า “เราไม่ใช่พระคริสต์
พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า”
เราจึงไม่ได้รับการทรงมอบหมายพระราชกิจแห่งการกอบกู้ เปลี่ยนแปลง
ไถ่ถอนให้โลกหลุดรอดออกจากใต้อำนาจแห่งความบาปชั่วในรูปแบบต่างๆ สิ่งนี้เราต้องพึ่งพระราชกิจของพระคริสต์!
และมีพันธกิจในบางส่วนที่พระเจ้าทรงมอบให้เรากระทำประสานกับคริสตชนคนอื่นในชุมชนคริสตจักรท้องถิ่น
และ คริสตจักรสากล
แท้จริงแล้วเราเป็นพระคริสต์องค์เล็กๆ ที่สำแดงชีวิตการเป็นคนของพระคริสต์ เรามิใช่พระคริสต์!
17 พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนทุกสิ่ง
และทุกสิ่งถูกยึดเข้าด้วยกันโดยพระองค์... 20 และโดยพระองค์
พระเจ้าทรงให้ทุกสิ่งคืนดีกับพระองค์เอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะอยู่บนแผ่นดินโลกหรืออยู่บนสวรรค์
โดยทรงทำให้เกิดสันติภาพโดยพระโลหิตแห่งกางเขนของพระองค์ (โคโลสี 1:17, 20)
เมื่อคริสตชนแต่ละคนมีชีวิตที่เติบโต พัฒนา แข็งแรง และ เกิดผลอย่างพระคริสต์ ความเป็น “พระคริสต์องค์น้อยๆ”
ที่คนทั่วไปสามารถเห็นได้นั้น เกิดจาก DNA แบบพระเยซูคริสต์ หรือ
ต้นกำเนิดที่ถ่ายทอดพันธุกรรมพระคริสต์ในชีวิตจิตวิญญาณของเรา เมื่อคริสตชนแต่ละคนมีพันธุกรรมต้นกำเนิดจากพระคริสต์แหล่งเดียวกัน
ย่อมทำให้เราทำงานรับใช้ในชีวิตที่ประสานกลมกลืน เสริมหนุนกันและกัน และที่สำคัญคือทุกคนทุกพันธกิจต่างกระทำที่มุ่งไปสู่ทิศทางเป้าหมายเดียวกันคือ
พระประสงค์ของพระเจ้าในพระเยซูคริสต์
เราต้องตระหนักชัดเจนว่า พระเยซูคริสต์ประสงค์ให้เราคริสตชนกระทำหน้าที่ตามส่วนที่เราเป็นเรามี
ที่เราได้รับของประทานและความสามารถจากพระเจ้า
อย่างประสานกลมกลืนกัน
ไปสู่พระองค์ผู้ทรงเป็นศีรษะแห่งพระกาย
พระองค์ไม่มีพระประสงค์ให้ใครทำหน้าที่เป็นศีรษะแห่งพระกายนี้แทนพระองค์ครับ!
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499