สิ่งที่ทำให้พ่อแม่ของแซมสันทุกข์อกทุกข์ใจคือ แซมสันทำผิดกฎของการมีชีวิตที่เป็น
“นาศีร์สำหรับพระเจ้า” น่าสังเกตว่าเขาไม่สนใจแผนการของพระเจ้า เขาสนใจแต่ความต้องการของตนเองความปรารถนาของตนเอง เขากินน้ำผึ้ง(ซึ่งต้องห้ามสำหรับนาศีร์) (14:6) ฆ่าคน 30
คนด้วยอารมณ์โกรธพวกฟีลิสเตีย อย่างร้อนแรง (14:19)
ฆ่าคนพันคนด้วยกระดูกขากรรไกรลา (15:15)
เพราะพฤติกรรมที่โหดร้ายรุนแรงของแซมสัน
ภรรยาและครอบครัวของนางถูกพวกฟีลิสเตียเผาทำลาย (15:6)
แม้แต่คนอิสราเอลก็ยังเอือมระอากับพฤติกรรมที่ต่ำทรามเลวร้ายของแซมสัน
จนต้องจับแซมสันส่งให้พวกฟีลิสเตีย (15:10-13)
ถ้าท่านเป็นพ่อแม่ของแซมสันท่านจะรู้สึก
และ จะทำอย่างไร?
แซมสันเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว
และ ผู้เป็นแม่เองก็เป็นหมัน และเกิดมาด้วยพระประสงค์ของพระเจ้าที่พระองค์จะทรงใช้ลูกชายคนนี้ของเธอ
และพ่อแม่ก็ตั้งอกตั้งใจที่จะทุ่มเทเลี้ยงดูลูกคนนี้ให้ดีที่สุด แต่เมื่อแซมสันโตขึ้น
กลับมีพฤติกรรมชีวิตที่ไปคนละทิศคนละทางกับที่พ่อแม่คาดคิด เขาทั้งสองคงรู้สึกสิ้นหวัง
เสียใจ และอับอายด้วย เขาคงสงสัยว่าเขาเลี้ยงลูกผิดพลาดอย่างไร แต่พระคัมภีร์กลับยืนยันว่าพระเจ้าทรงใช้แซมสัน
(รายละเอียดสามารถอ่านได้ในข้อเขียนตอนก่อน)
ในพระธรรมฮีบรู
มีชื่อของแซมสัน เป็นคนหนึ่งในบรรดาบรรพบุรุษที่เป็นแบบอย่างแห่งความเชื่อ (ฮีบรู 11) แซมสันได้เป็นผู้วินิจฉัยในชุมชนอิสราเอลเป็นเวลา
20 ปีในยุคที่ฟีลิสเตียมีอำนาจ และตอนช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาได้ทูลขอกำลังจากพระเจ้าเพื่อที่จะเอาชนะพวกฟีลิสเตีย
และพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานทูลขอของเขา(15:18)
แต่ที่เขาทำเพราะต้องการแก้แค้นพวกฟีลิสเตีย
เรามักพบว่าพระเจ้าทรงใช้คนที่ถ่อมใจ
และ ติดตามพระองค์ด้วยอุทิศตน คนที่มีชีวิตที่สำแดงออกถึงผลของพระวิญญาณ หรือ
มีชีวิตตามแบบอย่างชีวิตพระคริสต์ บุคคลเหล่านี้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่รักและสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า
แต่ในบางครั้งพระเจ้าทรงใช้คนที่อ่อนแอและมีปัญหาที่จะทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ คนที่มุทะลุดุดัน หุนหันพลันแล่น
คนที่ตัดสินใจเลือกในการดำเนินชีวิตที่ผิดพลาด
ชีวิตของแซมสันไม่ได้ใสสะอาดและเป็นชีวิตที่น่ายกย่องนับถือ แต่เรารู้ว่าพระเจ้าทรงใช้เขา หลายครั้งที่พระวิญญาณของพระเจ้าอยู่เหนือเขา (14:6, 19; 15:14)
พระเจ้าทรงใช้เราทุกคนเมื่อเราอ่อนแอ
ชีวิตแปดเปื้อนด้วยความบาป
และประสบความล้มเหลว
ถึงแม้ชีวิตที่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าก็ตาม
แซมสันเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงใช้เขาแม้ชีวิตของเขาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และในพระธรรมฮีบรู บทที่ 11 บรรพบุรุษแห่งความเชื่อเหล่านั้นก็มิใช่ผู้ที่ไม่มีความบาป
พระธรรมฮีบรูเขียนถึงบุคคลแห่งความเชื่อมิใช่เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้ทำบาป
แต่เพราะคนเหล่านี้มีความเชื่อวางใจในพระเจ้า
คุณความดีและความชอบธรรมในชีวิตของเรามิใช่สิ่งที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัย แต่ความเชื่อศรัทธาของเราต่างหากที่เป็นที่พอพระทัย
ชีวิตของแซมสันมิใช่ชีวิตที่เหมาะเป็นแบบอย่าง
แต่ชีวิตของเขาแสดงให้เราเห็นว่าพระเจ้าทรงใช้คนที่เชื่อศรัทธาในพระองค์ ดังนั้น
แม้ชีวิตของลูก ๆ ของเราจะเป็นคนหันออกไปจากทางที่เราคาดหวัง ผิดพลาด
ออกนอกเส้นทางของพระเจ้าที่เราคาดคิด
เขาดำเนินชีวิตตามที่เขาปรารถนาต้องการ
ตามใจของเขา
อย่าเพิ่งสิ้นหวังครับ การทำงานของพระเจ้าในชีวิตของเขายังไม่จบสิ้นครับ
พระเจ้าอาจจะใช้คนที่มีชีวิตที่เราท่านอาจจะมองว่า พระองค์ไม่น่าจะใช้ เพื่อที่จะทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในบางประการก็ได้
พ่อแม่ที่มีลูกที่มีชีวิตออกนอกลู่นอกทางอย่าเพิ่ง
“ใจสลาย” อย่าเพิ่งสิ้นหวัง อย่ามัวนั่งกล่าวโทษตนเอง และอย่าไปฝังใจและรู้สึกผิดที่ลูกเป็นคนที่ไม่เอาไหน
รุนแรง หุนหันพลันแล่น ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองว่า สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะการบ่มเพาะเลี้ยงดูของเรา
เมื่อพระเจ้ายังไม่เสร็จสิ้นพระราชกิจในชีวิตลูกของเรา
ก็ให้เรากระตุ้นหนุนเสริมให้เขามีชีวิตที่มีวินัย (ฮีบรู 12:5-11) ย้ำเตือนและให้กำลังใจลูกเสมอว่า
ให้ไว้วางใจในพระเจ้า และ เมื่อเขาสิ้นทางเลือกให้ลูกเรียกหาพระองค์ และ ให้เขาระลึกเสมอว่า ความล้มเหลวในชีวิตไม่สามารถขัดขวาง หรือ
ลบล้างความรักอันมั่นคงสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่มีต่อเขาในชีวิต
เหนือสิ่งอื่นใดครับ
จงมอบและวางใจพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องของลูก อย่าลืมนะครับว่า
พระเจ้าทำงานเสริมสร้างในชีวิตลูกของเรายังไม่เสร็จและจบสิ้นครับ พระองค์ยังคงทำงานในชีวิตลูกอยู่ และพระเจ้าจะไม่เคยทอดทิ้งลูกของเราครับ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น