บ่อยครั้งที่เราหันหน้าเข้าหาพระเจ้า ทูลขอต่อพระองค์ในสิ่งที่เราไม่มี
สิ่งที่เราต้องการ ปัญหาที่เราเผชิญ ความทุกข์ยากที่ต้องการหลุดพ้น การเยียวยารักษาในความป่วยไข้
ฯลฯ
แต่เราพบบทเรียนที่ล้ำค่าจากพระคัมภีร์ พระเจ้าถามกลับเราว่า
“แล้วตอนนี้เจ้ามีอะไรอยู่...มีทุนชีวิตอะไรบ้างที่ท่านมีอยู่ พระเจ้าต้องการให้เราค้นหา
“สิ่งที่เรามีอยู่” และเริ่มใช้สิ่งที่มีอยู่ลงมือทำให้เกิดสิ่งที่เราต้องการ เพื่อบรรลุเป้าหมายชีวิตในเวลานั้น
ๆ ตัวอย่างเช่น
เมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้โมเสส ไปปลดปล่อยประชากรอิสราเอลของพระองค์ออกจากการเป็นทาสในอียิปต์
โมเสสบอกพระเจ้าว่าเขาทำไม่ได้ บ่ายเบี่ยงทุกหนทาง จนในที่สุดพระเจ้าถามว่า
“อะไรอยู่ในมือของเจ้า?” สิ่งที่โมเสสมีในเวลานั้นคือ ไม้เท้าในฐานะคนเลี้ยงแกะ และจากไม้เท้านี้เองคือจุดเริ่มต้นของพระราชกิจแห่งการกอบกู้ของพระเจ้าที่มีต่อชนชาติอิสราเอล
(อพยพ 4:1-5)
เมื่อหญิงหม้ายบอกกับเอลียาห์ว่า เธอไม่มีอะไรเหลือในชีวิตแล้ว
เธอและลูกของเธอจะเอาแป้งและน้ำมันที่เหลือเพียงน้อยนิดทำขนมปังมื้อสุดท้าย แล้วรอความตายที่จะมาถึงชีวิตของนางและลูก
แต่เอลียาห์ให้เริ่มต้นจากสิ่งที่เธอเหลือ แต่ให้ไปขอยืมไหใส่น้ำมันจากเพื่อนบ้านมาเท่าที่เธอจะหาได้
แล้วให้เทน้ำมันที่เหลือน้อยนิดนั้นใส่ภาชนะเปล่าที่เธอไปขอยืมจากเพื่อนบ้าน ปรากฏว่า
เธอเทน้ำมันลงในภาชนะทุกชิ้นจนมีน้ำมันเต็มเปี่ยมทุกใบ สิ่งที่หญิงหม้ายมีคือ น้ำมันก้นไห ความสัมพันธ์ที่เธอมีกับเพื่อนบ้านสามารถยืมไหเปล่ามาได้
ความเชื่อฟังทำตามเอลียาห์บอกให้ทำ (2พงศ์กษัตริย์ 4:1-7)
เมื่อเดวิดเผชิญหน้ากับโกลิอัท ที่เป็น “มวยคนละชั้น”
เดวิดใช้สลิงคู่ชีพของเขา แล้วไปเลือกเก็บก้อนหินที่เหมาะกับสลิงจากลำธาร พร้อมกับทักษะในการเหวี่ยงสลิงที่พระเจ้าให้เขาสะสมจากประสบการณ์ที่ยาวนานต่อเนื่องจากการเลี้ยงและป้องกันฝูงแกะ
ที่เอาชนะล้มยักษ์ใหญ่หน้าคว่ำลงได้ สิ่งที่ดาวิดมีคือ สลิง ก้อนหิน ประสบการณ์ ทักษะ
และความมั่นใจในพระเจ้า (1ซามูเอล 17:20-50) ใช้ “นักมวยคนละชั้น” ลงอย่างน่าตกตะลึง
เมื่อพระเยซูบอกให้สาวกเลี้ยงดูฝูงชนประมาณ 5,000 คน สาวกตอบพระเยซูว่า เงินเท่าไหร่ที่จะพอซื้ออาหารเลี้ยงฝูงชนเหล่านี้ สาวกมองไปที่ปัญหา
และ ความไม่มีของตนเองและพวกเขา
แต่พระเยซูคริสต์สอนเขาให้ “มองใหม่” ในพวกท่านใครมีอาหารอะไรบ้างไหม? พวกเขาเริ่มค้นหา
และพบว่า ในฝูงชนนั้นมีเด็กคนหนึ่งมีขนมปัง 5 ก้อนกับปลา 2 ตัว เขานำเด็กคนนั้นพร้อมอาหารมาหาพระเยซู พระองค์ขอบพระคุณพระเจ้า แล้วแบ่งปลาและขนมปังที่มีออกแบ่งให้ทุกคนได้รับประทาน
และยังเหลืออีก สิ่งที่ในฝูงชนมีคือมีบางคนที่อาหาร(มากน้อยไม่สำคัญ) ความเชื่อของพระเยซู
การบริหารจัดการของพระเยซูคริสต์ การบริการรับใช้ของสาวก เหล่านี้เป็นสิ่งที่พระเยซูคริสต์และสาวกมี พระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ผ่านสิ่งที่เขามี
กลายเป็นคำตอบที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ (มาระโก 6:30-44)
การทำพันธกิจในชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ในชีวิตประจำวันของเรา
ไม่ใช่อธิษฐานขอสิ่งที่เราไม่มี สิ่งที่เราต้องการ ขอพระเจ้าช่วยแก้ปัญหาที่เราเผชิญ
แล้วก็รอว่าพระเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของเราอย่างไร แต่เราเรียนรู้จากพระคัมภีร์ว่า พระเจ้าให้เราค้นหาให้พบ
“สิ่งที่เรามีในชีวิต” “ทุนชีวิตของเรา” สิ่งที่มีในชุมชนและคริสตจักร แล้วให้เราเริ่มลงมือใช้สิ่งเรามีในการทำพันธกิจของพระองค์
และเมื่อเราทำพันธกิจนั้นเป็นการสานต่อพระราชกิจของพระเจ้าที่ได้เริ่มต้นไว้แล้ว เราก็จะพบกับพระองค์
และพบว่า พระองค์ทำพระราชกิจของพระองค์ในงานนั้นที่เรารับใช้อยู่ ถ้าเช่นนั้นเราจะขาดแคลนอะไรอีก?
ท่านมีอะไรอยู่ในมือของท่านขณะนี้ จงเริ่มใช้สิ่งเหล่านั้นในชีวิตประจำวันทำพันธกิจรับใช้พระคริสต์ในวันนี้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น