ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุปกรณ์ เครื่องมือ และทรัพยากรต่าง ๆ สำหรับศิษยาภิบาลที่ใช้ในการทำพันธกิจได้แพร่หลายมากมายขึ้น เมื่อทำการวิจัยชีวิตคริสตจักร การวิจัยมักให้ความสนใจมุ่งไปที่ศิษยาภิบาล เมื่อผมมองดูชั้นหนังสือในสำนักงาน มีหนังสือหลายเล่มสำหรับการเป็นผู้นำของผู้อภิบาล การฝึกอบรม การสัมมนา หลักสูตรในพระคริสต์ธรรม และหน่วยงานเสริมพันธกิจคริสตจักรต่างพุ่งเป้าไปที่ศิษยาภิบาลเพื่อการพัฒนาความเป็นผู้นำ แต่ทั้งสิ้นเหล่านี้ไม่สามารถแทนที่การให้คำปรึกษาจากพี่เลี้ยงผู้อภิบาล และ การโค้ชชิ่งการอภิบาลได้ และแนวโน้มความต้องการพัฒนาการรับใช้ของผู้ปกครองคริสตจักร
ท่านอดีตศิษยาภิบาลมากมายหลายท่าน ถ้าเป็นทหารก็เป็นทหารผ่านศึกของพระคริสต์ ท่านเหล่านี้เป็นศิษยาภิบาลที่คร่ำหวอดโชกโชนด้วยประสบการณ์การอภิบาลชีวิตผู้คนผ่านมาเป็นเวลาหลายสิบปี มีประสบการณ์ บทเรียนรู้ องค์ความรู้การอภิบาลที่สั่งสมไว้มากมาย ทำอย่างไรถึงจะได้ใช้ในการแบ่งปัน สะท้อนคิดกับศิษยาภิบาลรุ่นใหม่ ศิษยาภิบาลมือใหม่ในปัจจุบัน เพื่อศิษยาภิบาลรุ่นใหม่จะได้นำไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องตอบสนองต่อสถานการณ์จริงที่พวกเขาประสบพบเจอ
ศิษยาภิบาลรุ่นน้อง รุ่นลูก หรือ แม้แต่รุ่นหลานจะเรียนรู้อะไรได้บ้างในงานพันธกิจการอภิบาลชีวิตจากผู้อาวุโสที่คร่ำหวอดในงานพันธกิจการอภิบาลชีวิตของผู้คน? ศิษยาภิบาลอาวุโสจะเป็นพี่เลี้ยงของศิษยาภิบาลรุ่นน้อง รุ่นลูก และรุ่นหลานได้อย่างไรที่จะก่อเกิดประโยชน์ล้ำค่ามากมายแก่ชีวิตและการรับใช้ในงานพันธกิจคริสตจักร?
[1] ศิษยาภิบาลอาวุโสสำแดงชีวิตที่มีเกียรติ “น่ายกย่องนับถือ” แก่ศิษยาภิบาลรุ่นต่อๆ มา
เมื่อศิษยาภิบาลรุ่นต่อ ๆ มา “ปรารถนา” ที่จะเป็นศิษยาภิบาล พวกเขาปรารถนาบางสิ่งที่ “มีเกียรติ” ตาม 1 ทิโมธี บทที่ 3 พระธรรมตอนนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า พฤติกรรมที่บ่งชี้พิสูจน์ถึงชีวิตที่ “มีเกียรติ” เป็นชีวิตที่ควบคุมตนเอง รู้จักประมาณตน น่านับถือ มีน้ำใจรับรองแขก สามารถที่จะสอนคนอื่นได้ ไม่ดื่มสุราเมามาย ไม่ก้าวร้าวแต่สุภาพอ่อนโยน ไม่ชอบทะเลาะวิวาท ไม่เป็นคนรักเงิน สามารถดูแลจัดการครอบครัวของตนเองได้อย่างดี อบรมสั่งสอนลูกหลานของตนเองให้เคารพเชื่อฟังตนได้
ศิษยาภิบาลที่รับใช้ในคริสตจักรมาหลายสิบปี จะมีประสบการณ์กับวันอันมืดมัวในชีวิตการทำงานพันธกิจคริสตจักรที่ตนรับผิดชอบมากมายหลายครั้ง ศิษยาภิบาลรุ่นใหม่ต่อ ๆ มาก็จะประสบพบเจอปัญหาของตนเองขณะรับใช้เช่นกัน ศิษยาภิบาลที่มีอาวุโสมากกว่าสามารถเดินเคียงข้างไปกับศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์และเตือนพวกเขาว่า แม้ชีวิตของเราต้องเดินเข้าไปในหุบเขาเงาแห่งความมืดมิด เราก็ยังจะมั่นคงในคำสัญญาที่เราให้กับพระเจ้า และเรายังจะจงรักภักดีต่อพระองค์เสมอไป
[2] ศิษยาภิบาลที่มีอาวุโสกว่าสามารถชี้นำศิษยาภิบาลรุ่นต่อ ๆ มาให้ก้าวย่างผ่านสิ่งที่เขาไม่รู้
ผมสังเกตเห็นว่า ศิษยาภิบาลมือใหม่ หรือ รุ่นต่อ ๆ มาเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่เขาไม่รู้จะทำอย่างไร จะทำให้พวกเขาต้องชะงักหยุดนิ่ง ใช่ครับ เมื่อเราต้องพบกับสิ่งที่เราไม่รู้ หรือ ไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งนั้น หรือเหตุการณ์นั้น ๆ จะทำให้เราเกิดความลังเล ศิษยาภิบาลอาวุโสสามารถชวนศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์ร่วมกันสำรวจสิ่งที่เขาไม่รู้จักนั้น ซึ่งในหลาย ๆ กรณี ศิษยาภิบาลที่มีอาวุโสกว่า อาจจะเคยผ่านและพบกับสิ่งนั้นมาก่อนแล้ว แต่จะไม่รีบ “ใส่ประสบการณ์ และ ความคิด” ที่เราได้รับลงในศิษยาภิบาลปัจจุบัน แต่จะชวนคิดชวนคุย “จะถาม” เพื่อกระตุ้นให้ ศบ.ปัจจุบัน ได้คิด ค้นหา ใคร่ครวญ
แต่ในที่นี้ขอย้ำว่า บทบาทก้าวแรกในเรื่องนี้ของศิษยาภิบาลที่มีอาวุโสกว่าชวนศิษยาภิบาลมือใหม่ หรือ รุ่นเยาว์กว่าให้ร่วมกันสำรวจ และชวนคิดพิจารณาต่อไปว่า ตามกำลังความสามารถของเขาคิดว่าน่าจะรับมือหรือจัดการได้อย่างไรบ้าง ในที่นี้ศิษยาภิบาลที่อาวุโสกว่าต้องไม่ใจอ่อนลงไปทำแทนศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์กว่า หรือเสนอวิธีการที่ตนเคยใช้ทำและประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุผลคือ สถานการณ์ที่เราประสบในอดีตอาจจะแตกต่างจากสถานการณ์ในตอนนี้ ประการที่สอง เรากำลังหนุนเสริมให้ศิษยาภิบาลที่รุ่นเยาว์กว่าให้กล้าและสามารถจัดการด้วยตนเองภายใต้การทรงนำของพระเจ้า
[3] ศิษยาภิบาลที่มีอาวุโสมากกว่าควรแสดงให้ศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์กว่าได้เห็นถึงความรับผิดชอบที่แท้จริงของศิษยาภิบาลที่ตนจะต้องมี
ชื่อเสียงที่ดีได้รับหลังจากที่ได้ทำงานหนัก ศิษยาภิบาลที่อาวุโสกว่าที่ซื่อสัตย์รู้ว่าชื่อเสียงที่ดีจะไม่คงอยู่ตลอดไปหากปราศจากความเต็มใจที่จะรับผิดชอบ ศิษยาภิบาลที่มีอายุมากกว่าสามารถให้คำปรึกษาแก่ศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์โดยแสดงให้เห็นว่าความเต็มใจที่จะรับผิดชอบนั้นเป็นอย่างไร
การเป็นพี่เลี้ยงและให้การปรึกษา
และ การโค้ชชิ่ง ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ การให้การปรึกษาไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมที่เป็นทางการ หรือต้องมีเวลากำหนดพบปะกันที่ตายตัว การให้การปรึกษาศิษยาภิบาลที่อาวุโสมากกว่าสามารถใช้ทุกโอกาสที่มีเป็นแบบอย่างพฤติกรรมสำหรับศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์กว่า
ศิษยาภิบาลที่อาวุโสน้อยกว่าจำเป็นที่จะต้องได้ยินได้ฟังเรื่องราวบาดแผลที่ได้รับของศิษยาภิบาลที่อาวุโสกว่า
ศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์กว่าจำเป็นที่ต้องเห็นถึงการเสียสละของศิษยาภิบาลที่อาวุโสมากกว่า
ศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์กว่าจำเป็นต้องเรียนรู้ความคิดริเริ่มจากศิษยาภิบาลที่อาวุโสมากกว่า
และศิษยาภิบาลรุ่นเยาว์กว่า จะไม่เรียนรู้ความรับผิดชอบที่แท้จริงเว้นแต่ศิษยาภิบาลที่อาวุโสกว่าจะดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่าง
เอมมาอูส