เรามักมีความรู้สึกนึกคิดว่าคริสตจักรในยุคความทันสมัยมีชีวิตที่ตกต่ำลง
ผมเองได้ยินเสียงบ่นวิจารณ์ถึงคริสตจักรปัจจุบัน เช่น
N “คริสตจักรปัจจุบันนี้ประนีประนอมกับสังคม
และ ดำเนินชีวิตตามกระแสสังคม”
N “คริสตจักรสมัยใหม่เป็นคริสตจักรมุ่งเน้นไปสู่การสร้างความบันเทิงแก่ผู้มานมัสการพระเจ้า”
N “คริสตจักรในยุคนี้ เป็นเรื่องบุคลิกภาพ
หน้าตา มากกว่าเรื่องพระเยซูคริสต์”
N “ปัจจุบันนี้นักเทศน์จะพูดแต่เรื่องที่ถูกใจผู้ฟัง”
N “สมัยนี้เครื่องแต่งตัวของศิษยาภิบาลรุ่นใหม่เป็นแบรนด์ทันสมัยราคาแพง!”
ฯลฯ
บ่อยครั้งเรามักคิดว่า คริสตจักรในสมัยนี้ ในปัจจุบันนี้
ในยุคนี้ “แย่” กว่าคริสตจักรในยุคที่ผ่าน ๆ ม แต่ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์คริสตจักรเราจะพบว่า
คริสตจักรในแต่ละยุคแต่สมัยต่างก็จะมีความผิดพลาด จุดอ่อน ความด่างพร้อยที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่สถานการณ์ในยุคนั้น
ๆ ไม่มีคริสตจักรในสมัยไหน ในยุคไหนที่เป็นคริสตจักรที่ดีพร้อมสมบูรณ์ แม้แต่คริสตจักรในสมัยเริ่มแรกก็ตาม
อย่างประเด็นแรกที่กล่าวถึงขั้นต้นว่า
ปัจจุบันคริสตจักรประนีประนอมกับสังคม และ ดำเนินชีวิตคริสเตียนตามกระแสนิยมของสังคม ใช่คริสตจักรทุกวันนี้เป็นเช่นนั้น
คริสตจักรปัจจุบันนี้นอกจากจะประนีประนอมกับสังคม
และ ดำเนินชีวิตคริสตชนประจำวันตามกระแสนิยมของสังคมแล้ว ความเชื่อยังผิวเผินตื้นเขิน
กลับไปเน้นเรื่องกฎระเบียบปฏิบัติ ใจคับแคบ ไม่ให้อภัย แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในคริสตจักรอดีตที่ผ่านมา
แต่ละยุคแต่ละสมัยต่างก็มีคริสตจักรลักษณะดังกล่าวทั้งสิ้น ต่างกันเพียงเนื้อหา/ประเด็นความอ่อนแอ ผิดพลาด จุดอ่อนในแต่ละเรื่องเท่านั้น
เราต้องยอมรับว่า คริสตจักรทุกยุคทุกสมัยต่างก็มีความผิดพลาด
จุดอ่อน ความคลาดเคลื่อนไปจากสัจจะธรรมของพระคริสต์ ในทุกยุคทุกสมัยต่างก็มีสมาชิกที่ชั่ว
ที่ร้าย “สมาชิกที่เป็นพิษ” ในคริสตจักร แย่กว่านั้น สาวกเองกลับหักหลังขายพระอาจารย์
ในทุกสมัยต่างก็มีผู้รับใช้/ศิษยาภิบาล
ที่รับใช้ตนเองแทนรับใช้พระคริสต์
ถ้าคริสตจักรในสมัยเริ่มแรก คริสตจักรในยุคศตวรรษแรกเป็นคริสตจักรที่ดีพร้อมสมบูรณ์ เราคงไม่มีพระธรรมที่เป็นจดหมายฝากจากอาจารย์เปาโล
และ อัครทูตคนอื่น ๆ ที่เขียนถึงคริสตจักร และคนต่าง ๆ
คริสตจักรกาลาเทียที่ละทิ้ง “พระคุณของพระเจ้า”
กลับไปสู่ความเชื่อแบบธรรมบัญญัติ คริสตจักรเอเฟซัสได้สูญเสียความรักเมตตาที่เขาได้รับจากพระคริสต์
คริสตจักรเลาดีเซียเป็นคริสตจักรที่ไม่ร้อนไม่เย็น เป็นคริสตจักรที่ “อุ่น ๆ” ไม่เอาไหน แล้วคริสตจักรโครินธ์ล่ะ? จะเริ่มพรรณนาจากเรื่องอะไรดี เพราะมีหลายเรื่องเหลือเกิน?
แต่พระเจ้าทรงใช้คน และ คริสตจักรที่ไม่ดีพร้อมสมบูรณ์แต่ยัง
“สัตย์ซื่อต่อพระองค์”
มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน เป็นคนและคริสตจักรที่มีการให้อภัย พระเจ้าทรงใช้คริสตจักรในยุคศตวรรษแรกที่จะ
“พลิกคว่ำ” สังคมโลกในเวลานั้น
และนี่เองมิใช่หรือที่เป็นความหวังของเรา
แล้วมันผิดที่ไหน ที่พระเจ้าจะทรงใช้คริสตจักรที่มีชีวิตผิดพลาด
บกพร่อง
แต่เป็นคริสตจักรที่พระองค์จะทรงใช้ได้?
แน่นอนครับ ในคริสตจักรมีปัญหามากมาย แล้วก็มีตลอดเวลา
อย่าให้เราถอดใจ การกลับใจเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นสำหรับคริสตจักรทุกยุคทุกสมัย แต่ในเวลาเดียวกันคริสตจักรต้องมีการให้อภัย ให้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตที่บริสุทธิ์ถูกต้องใหม่
และเลิกคิดว่า คริสตจักรปัจจุบันไม่มีสมรรถนะที่พระเจ้าจะใช้แล้ว เพราะประวัติศาสตร์พิสูจน์ชัดว่า
พระเจ้าทรงใช้คริสตจักรที่ไม่ดีพร้อมสมบูรณ์ แต่มีใจที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์
นั่นหมายความว่า พระเจ้าสามารถทรงใช้ผม และ
ท่านแม้จะยังเป็นคนที่ไม่ดีพร้อมสมบูรณ์ก็ตาม และพระองค์สามารถใช้คริสตจักรที่มีความด่างพร้อยไม่ถูกต้องสมบูรณ์ด้วย
เรายอมรับว่า คริสตจักรที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ได้เป็น
“คริสตจักรที่ควรจะเป็น” และก็ไม่เคยมีคริสตจักรที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุนี้มิใช่หรือ
พระคริสต์ถึงบอกว่า “เราจะสร้างคริสตจักรของเรา” เพราะพระองค์รู้ชัดว่า
พระองค์ต้องเสริมสร้างชีวิตคริสตจักรไปทีละขั้นตอนจนถึงในเวลาสุดท้าย และขณะนี้ก็ยังอยู่ภายใต้การเสริมสร้างจากพระคริสต์
ทั้งสมาชิกคริสตจักรแต่ละคน และชุมชนทั้งคริสตจักรในองค์รวม
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น