“...เรารู้ว่าในทุก ๆ
สิ่งพระเจ้าทรงทำให้เกิดผลดีแก่บรรดาผู้ที่รักพระองค์ แก่บรรดาผู้ที่ได้ทรงเรียกตามพระประสงค์ของพระองค์”
(โรม 8:29
อมธ.)
เมื่อหลายปีก่อนเหตุการณ์จริงนี้ได้เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน ชายหนุ่มที่มีของประทานได้เตรียมตัวที่จะทำพันธกิจรับใช้พระเจ้า เขามอบกายถวายชีวิตของตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และต้องการให้พระองค์ใช้ชีวิตของเขา เขาเป็นนักศึกษาที่ฉลาดหลักแหลม จบการศึกษาพระคริสต์ธรรมด้วยคะแนนเกียรตินิยม
ก่อนที่เขาจะเป็นศิษยาภิบาล/ศาสนาจารย์ เขาจะต้องผ่านการสอบการเทศนาในเชิงปฏิบัติต่อหน้าคณะกรรมการศาสนาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ สถานการณ์นี้กดดันจนทำให้เขาเกิดความวิตกกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นคู่หมั้นของตนนั่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟังด้วย เพราะความวิตกกังวลอย่างรุนแรงนี้ ทำให้เขาลืมกระบวนเนื้อหาที่เขาเตรียมอย่างดีสำหรับการเทศนาครั้งนี้ กลายเป็นความคิดที่สับสน การเทศนาของเขาดำเนินไปอย่างสับสนไม่เป็นกระบวนคิด กระท่อนกระแท่น ผลที่ได้รับคือ เขาเทศนาไม่ผ่านที่จะรับการสถาปนาเป็นศาสนาจารย์
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดและผิดหวังท้อแท้เสียใจอย่างมาก ยิ่งเสียใจมากขึ้นเมื่อคู่หมั้นของเขาถอนหมั้นเพราะการเทศนาของเขาที่ไม่เอาไหน ภายหลังสองสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ เขาต้องสู้กับภาวะซึมเศร้าและแสวงหาความสงบในชีวิต หลังจากนั้นหลายสัปดาห์
เขาระบายความรู้สึกของเขาทั้งสิ้นต่อพระเจ้า พระเจ้าได้เตือนเขาด้วยพระธรรม โรม
8:28 “ในทุก
ๆ สิ่งพระเจ้าทรงทำให้เกิดผลดีแก่บรรดาผู้ที่รักพระองค์...” หลังจากนั้นเขาสัมผัสกับประสบการณ์ความสงบสันติในจิตใจจิตวิญญาณของเขาอย่างประหลาด
เมื่อถึงโอกาสที่เขาจะสอบการเทศนาในครั้งใหม่ ชายหนุ่มคนนี้ได้เทศนาอย่างมีพลัง
และคณะกรรมการมีมติให้เขาได้รับการสถาปนาเป็นศาสนาจารย์ ตั้งแต่นั้นมาการเทศนาของชายหนุ่มคนนี้คือ จี. แคมป์แบล
มอร์แกน (G. Campbell
Morgan) ได้สร้างผลกระทบอย่างสร้างสรรค์ต่อผู้คนจำนวนมาก เขาเป็นผู้ที่เขียนอรรถาธิบายพระคัมภีร์จำนวนมากมายและเขียนหนังสือคริสต์ศาสนศาสตร์ 60 เล่ม มอร์แกน
ได้ฝากมรดกอันมีค่าสำหรับผู้รับใช้และผู้เชื่อจำนวนมากมายที่ยังมีพลังจนทุกวันนี้ เพราะประสบการณ์ที่เขาต้องเผชิญกับวิกฤติชีวิต
และ การเอาชนะวิกฤตินั้นด้วยการทรงช่วยเหลือของพระเจ้า ซึ่งเราเห็นแล้วว่า
พระราชกิจของพระเจ้าที่ทำงานในชีวิตของมอร์แกนเกิดผลมหาศาลต่อผู้คน/ผู้รับใช้กระทั่งทุกวันนี้
ความล้มเหลวเป็นโอกาสที่เราจะทูลขอพระเจ้าให้เข้ามาในชีวิตของเรา ส่วนมากในภาวะเช่นนั้นเราไม่สามารถที่จะมองเห็นภาพใหญ่ของสถานการณ์นั้น ถึงแม้เราไม่สามารถเห็น เมื่อพระเจ้าเข้ามาในชีวิตของเรา พระองค์จะทำพระราชกิจของพระองค์ตามที่พระองค์ประสงค์ และบางครั้งการทำพระราชกิจของพระองค์เป็นการกระทำ
“หลังฉากสถานการณ์ในเวลานั้น”
ถ้าท่านเป็นผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้าคนหนึ่งที่ประสบพบเจอกับความล้มเหลวในชีวิต อย่าท้อแท้ ท้อถอย อย่ายอมแพ้ พระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ความล้มเหลวในชีวิตของเราเพื่อเสริมสร้างความสำเร็จเกิดผลในชีวิตของเรา แล้วเป็นพระพรในชีวิตของท่าน ตามพระสัญญาของพระองค์ ยิ่งกว่านั้นยังสร้างผลกระทบสร้างสรรค์แก่คนอื่นมากมายอีกด้วย
ในความล้มเหลว สิ้นหวังในชีวิต ทูลขอพระเจ้าใช้ความล้มเหลวเพื่อก่อเกิดชัยชนะ ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระสัญญาของพระองค์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น