ในยุคของเนหะมีย์ พวกประชาชนมาช่วยกันซ่อมกำแพงเยรูซาเล็ม
พวกศัตรูรอบข้างต่างมาข่มขวัญและหาทางต่อสู้ขัดขวางการซ่อมกำแพงของพวกอิสราเอล ซึ่งศัตรูที่รวมหัวมาขัดขวาง ข่มขู่
และต่อสู้รบกวนอิสราเอลเป็นพวกศัตรูหลายพวกรอบข้างอิสราเอล
“แต่เมื่อสันบาลลัท
โทบียาห์ ชาวอาหรับ ชาวอัมโมน
และชาวอัชโดดได้ยินว่างานซ่อมแซมกำแพงเมืองเยรูซาเล็มคืบหน้าไป
และช่องโหว่ในกำแพงก็ถูกอุดหมดแล้ว พวกเขาก็โกรธจัด พวกเขาคบคิดกันจะยกพวกมาสู้กับเยรูซาเล็มเพื่อก่อความวุ่นวาย”
(ข้อ 7-8
อมธ.)
เมื่ออิสราเอลประชากรของพระเจ้าถูกล้อมด้วยพวกศัตรู พวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร?
เมื่ออิสราเอลถูกท้าทายด้วยสถานการณ์คับขันเช่นนี้ พวกเขาตัดสินใจทำเช่นนี้คือ
แต่เราอธิษฐานต่อพระเจ้าของเรา
และตั้งยามดูแลทั้งวันทั้งคืนเพื่อรับมือกับการคุกคาม
(เนหะมีย์ 4:9 อมธ.)
ในด้านหนึ่งอิสราเอลหันเข้าหาพระเจ้าด้วยการอธิษฐานทูลขอเพื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้า
ในอีกด้านหนึ่ง
พวกเขาจัดตั้งกองกำลังทหารตามศักยภาพที่มีอยู่ขึ้นมาปกป้องการรุกรานจากศัตรู เพื่อคุ้มครองให้การซ่อมแซมกำแพงกรุงเยราเล็มมิให้หยุดชะงัก พวกอิสราเอลได้เรียนรู้ถึงความสมดุลของความเชื่อในการทรงช่วยกู้ของพระเจ้า
และ การใช้ศักยภาพและของประทานในวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น
พวกเขาเรียนรู้ที่จะมีศรัทธาที่พึ่งพาในพระเจ้า
และ การใช้ความสามารถที่พระเจ้าประทานให้อย่างสอดคล้องสมดุลกัน เป็นความสมดุลสอดคล้องกันที่ไว้วางใจในการปกป้องจากพระเจ้า
และ ในเวลาเดียวกันพวกเขาทำงานอย่างชาญฉลาด
เป็นความสมดุลระหว่างการอธิษฐานและการวางแผนการขับเคลื่อนร่วมกันที่สอดคล้องและสมดุล
เราสามารถที่จะเรียนรู้จากเรื่องราวของฮีบรูแม้ว่าเป็นเรื่องในสมัยโบร่ำโบราณก็ตาม บางคนบางกลุ่มในปัจจุบันนี้ที่มุ่งหน้าตั้งตาเอาแต่อธิษฐาน แต่มิได้ทุ่มเทลงมือทำอะไร มิได้ใช้ของประทานอันมีค่าจากพระเจ้าให้เกิดผลตามพระประสงค์ที่ประทานแก่เรา พวกเขาบอกเพียงว่าไว้วางใจในพระเจ้า
และรอว่าเมื่อไหร่พระเจ้าจะลงมาทำอะไรบางอย่าง
ส่วนอีกพวกหนึ่งทุ่มเททำงานหนัก ลงมือพยายามทำอย่างสุดกำลังของตนเอง แต่กลุ่มนี้ไม่ค่อยอธิษฐานทูลขอด้วยความไว้วางใจพระเจ้า และปรึกษากับพระองค์มากสักเท่าใด แต่เมื่อใดก็ตามที่เราอธิษฐานทูลขอและปรึกษาขอการทรงนำและพระกำลังจากพระเจ้าในสิ่งที่เรากระทำ นั่นเป็นการทูลขอให้พระเจ้าทรงอวยพระพรในสิ่งที่เราทุ่มเทลงแรงทำลงไป
ขอพระเจ้าทรงโปรดช่วยเรา ให้เรียนรู้ที่จะมีความเชื่อศรัทธาที่สมดุล ตามที่เนหะมีย์ได้กระทำแล้วเป็นตัวอย่าง อย่าลืมที่เราจะมีเวลาใคร่ครวญว่างานที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้
เรากำลังต่อสู้ขับเคลื่อนด้วยพลังแห่งการอธิษฐาน
หรือมุ่งมั่นมานะในการขับเคลื่อนด้วยพลังความสามารถของมนุษย์
หรือเรามีความสมดุลทั้งสองด้านในความเชื่อศรัทธาที่ปฏิบัติ โปรดตระหนักชัดว่า พระเจ้าทรงครอบครองเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง และ
พระองค์ทรงควบคุมอำนาจชั่วร้ายของเหล่าศัตรูด้วย
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น