หูมีไว้ฟัง... เราท่านต่างเห็นด้วย
และยุคนี้เราจะสอนผู้คนว่าจะต้องเป็นผู้ฟังที่ดี
และคุณสมบัติประการหนึ่งของผู้นำที่มีประสิทธิภาพคือ เป็นผู้ฟังที่ใส่ใจ
แต่ผมเองต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ตัวว่า ผมเองมิใช่ผู้ฟังที่ดี ผมมักสนใจ ใส่ใจแต่สิ่งที่ผมกำลังทำ ผมจะพูด พูด พูด ในสิ่งที่ผมต้องการพูด ทำให้ผมไม่ได้ยินเสียงสำคัญ ๆ ที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือที่อยู่รอบข้างผม เพราะผมไม่สนใจและใส่ใจต่อเสียงร้องขอเหล่านั้น ผมสนใจใส่ใจแต่สิ่งที่ผมกำลังทำ ผมสนใจแต่(จะตะเบ็ง)เสียงของตนเอง!
แต่พระเยซูคริสต์แตกต่างจากผมอย่างสิ้นเชิง
พระองค์ได้ยินเสียงร้องของคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
เสียงร้องของคนที่ชีวิตกำลังรับความเจ็บปวด พระองค์ได้ยินเสียงของคนเล็กน้อยที่กำลังถูกกีดกัน
และ ถูกตีตราให้ไร้ค่า
ถึงแม้พวกสาวกพยายาม
“กลบเสียงร้อง” ของคนเล็กน้อยที่ตาบอดทั้งสอง
ถึงแม้คนใกล้ชิดพระเยซูพยายามกันพวกนี้ไม่ให้เข้ามาถึงตัวของพระเยซูคริสต์ แต่...
พระเยซูทรงหยุดและตรัสสั่งให้คนพาเขา(คนตาบอด)มาหาพระองค์
เมื่อเขาเข้ามาใกล้พระเยซูตรัสถามว่า “ท่านต้องการให้เราทำอะไรให้?”
เขาทูลว่า
“พระองค์เจ้าข้า ข้าพระองค์อยากมองเห็น” (ลูกา 18:40-41 อมธ.)
พระเยซูทรงสงสารเขาและทรงแตะตาของเขา
ทันใดนั้นทั้งสองก็มองเห็นและตามพระองค์ไป (มัทธิว 20:29-34 อมธ.)
วันนี้กรุณาอย่าใช้แต่ปากและเสียงพูดมากเกินไปครับ แต่ใช้หูให้มากเพื่อท่านจะมีหู และ ใช้หูของท่านอย่างมีประสิทธิภาพแบบหูของพระเยซูคริสต์ครับ!
ในวันนี้ให้เราทูลขอพระเจ้าโปรดเมตตาที่จะรักษาหูของเราให้ได้ยินเสียงของผู้เจ็บปวด
และ สิ้นหวังในชีวิต ฟังเสียงของคนรอบตัวของเราที่ถูกกีดกัน
และไล่ให้ออกห่างจากเรา เพื่อเราจะตอบสนองต่อเสียงเหล่านั้นอย่างพระคริสต์ทรงตอบสนอง
วันนี้ให้เราทูลขอพระเจ้าโปรดประทานหูที่ได้ยินถึงเสียงของพระองค์ผ่านเสียงแห่งชีวิตของผู้บาดเจ็บ
สิ้นหวัง ต้องการความช่วยเหลือ
และโปรดประทานจิตใจเมตตาที่ไร้เงื่อนไขแบบพระคริสต์ และขอประทานพระกำลังที่เราจะใช้ตอบสนองเสียงของพระเจ้าที่ดังผ่านผู้เล็กน้อยเหล่านั้นเยี่ยงพระคริสต์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น