ในชีวิตทุกวันนี้ของเราคริสต์ชนรู้ว่าหลายเรื่องเป็นสิ่งดี
และเป็นสิ่งที่ตนควรกระทำปฏิบัติ
แต่ลำบากใจที่จะปฏิบัติ
หรือไม่อยากปฏิบัติ
หรือไม่สามารถปฏิบัติได้
แต่ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่พระเยซูคริสต์มีพระประสงค์ให้เราปฏิบัติล่ะ เราจะว่าอย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติต่อ “ศัตรู” ของเรา
อย่างที่พระคริสต์ได้สอนและกระทำเป็นแบบอย่างแก่เราแล้ว
ในช่วงเวลาแห่งการรอคอยเตรียมรับพระคริสต์
ซึ่งเป็น “พระวาทะ” ให้มาบังเกิดในชีวิต(“เนื้อหนัง”) ของเรา และอยู่ท่ามกลางชีวิตเรา (ยอห์น 1:14 อมธ.) มีชีวิตเป็นรูปธรรมในตัวตนเรา ให้เราพิจารณาแนวทางเรื่องนี้ที่เราสามารถรอคอยและเตรียมพร้อมฝึกปฏิบัติ
ดังนี้
อธิษฐานเผื่อศัตรูคู่ปรปักษ์ของเรา
สิ่งหนึ่งที่พระคริสต์ทรงกระทำเมื่อดำเนินชีวิตเป็นมนุษย์ในโลกนี้คือ เมื่อถูกตรึงบนกางเขน พระองค์ทูลอธิษฐานต่อพระบิดาว่า “พระบิดา ขอทรงยกโทษให้พวกเขา เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร”
(ลูกา 23:34 อมธ.) ขอให้เราคิดใคร่ครวญดูว่า เราจะอธิษฐานขอพระเจ้าโปรดยกโทษแก่คนที่ข่มเหงเรา
เอาเปรียบเรา ทำร้ายทำลายเรา เหยียดหยามดูหมิ่นชื่อเสียงเกียรติยศของเรา ฯลฯ อย่างที่พระคริสต์อธิษฐานขอพระบิดาโปรดยกโทษแก่พวกฟาริสี ผู้นำศาสนายิว
ประชาชนที่เป็นลิ่วล้อผู้นำศาสนา
และพวกทหารโรมัน บนกางเขนพระคริสต์ได้กระทำสิ่งที่พระองค์สอนให้เห็นชัดเป็นรูปธรรมและแบบอย่างแก่ผู้คน
ตามคำสอนที่ว่า “...จงรักศัตรูของท่านและอธิษฐานเผื่อบรรดาผู้ที่ข่มเหงท่าน”
(มัทธิว 5:44 อมธ.)
รักศัตรูคู่ปรปักษ์ของเรา
ในใจลึก ๆ พวกผู้นำศาสนายิวเกลียดพวกโรมัน พวกกรีก และคนที่ไม่ใช่ยิวเข้ากระดูก และอีกคนหนึ่งที่พวกผู้นำศาสนายิวเกลียดนักเกลียดหนาคือพระเยซู ดังนั้น
พวกเขาถึงแสวงหาโอกาสที่จะฆ่าพระองค์เสีย แน่นอนครับ ไม่มีทางที่พวกผู้นำศาสนายิวจะอธิษฐานเผื่อศัตรูของเขา
แต่พระคริสต์คาดหวังจากสาวกของพระองค์ทุกคนให้มีชีวิตที่ดีกว่าผู้นำศาสนายิวว่า “ท่านทั้งหลายได้ยินคำกล่าวไว้ว่า
‘จงรักเพื่อนบ้านและเกลียดชังศัตรู’ แต่เราบอกท่านว่าจงรักศัตรูของท่าน...”
(มัทธิว 5:43-44 อมธ.) เปาโลบอกเราชัดเจนว่า พระเยซูคริสต์ทรงรักเราและตายเพื่อเรา...ในขณะที่เราเป็นศัตรูกับพระองค์
(โรม 5:10 อมธ.) และนี่คือประสบการณ์ตรงของเปาโลเองบนเส้นทางไปดามัสกัส
กระทำดีต่อศัตรูคู่ปรปักษ์ของเรา
แทนที่จะทูลขอให้พระเจ้าสาปแช่ง หรือ กล่าวโทษคนที่ดูถูก
เหยียดหยาม โจมตี ข่มเหงคะเนงร้ายเรา
แต่สาวกพระคริสต์จะทูลขอพระเจ้าทรงอวยพรศัตรูของเรา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมครับ?
แต่พระคริสต์บอกแก่เราว่า “จงอวยพรคนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเผื่อผู้ที่ทำร้ายท่าน”
(ลูกา 6:28 อมธ.) พระคริสต์คาดหวังสาวกของพระองค์ที่จะอวยพรคนที่แช่งด่าเรา
อธิษฐานเผื่อคนที่ทำร้ายเรา เราไม่สามารถกระทำสิ่งนี้ด้วยกำลังความสามารถของเราเอง
แต่เราทูลขอพระกำลังของพระเจ้าให้ช่วยเหลือเรา
ให้เราทำในสิ่งนี้ได้
เพราะเรามิได้ทำด้วยตัวเราเอง
แต่พระคริสต์ในตัวเราจะเป็นผู้กระทำให้เราสามารถกระทำในสิ่งที่พระองค์คาดหวังได้
ถึงแม้เราไม่อยากจะทำเช่นนั้นต่อศัตรูก็ตาม
แต่นี่คือส่วนหนึ่งในกระบวนการที่พระคริสต์ทรงเปลี่ยนแปลงเสริมสร้างชีวิตสาวกของพระองค์ในชีวิตของเราท่านในวันนี้ได้ และในเวลาเดียวกัน ศัตรูของเราอาจจะเกิดความสับสนว่า เขากระทำร้ายกับเราถึงเพียงนี้แต่ทำไมเราถึงกระทำดีตอบเขา?
ความรักเมตตาของพระคริสต์ที่ผ่านเราไปถึงชีวิตและความรู้สึกของเขา อาจจะเป็นการเปิดให้พระวิญญาณและความรักเมตตาของพระเจ้าจะซึมซาบเข้าไปในหัวใจที่แข็งกระด้างของเขา
และช่วยให้เขาพบกับพระคุณอันน่าอัศจรรย์ของพระคริสต์ในชีวิตของเขาได้
วันนี้ ให้เราแต่ละคนตั้งเป้าชัดถึงผู้ที่เราจะอธิษฐานเผื่อเขา อวยพระพรเขา
กระทำดีต่อเขา แม้คน ๆ นั้นจะคิดร้ายทำลายเรา
หรือเป็นคนที่เราไม่ชอบหน้า หรือที่เรารู้สึกไม่ดีกับเขา แล้วเราเองก็จะสัมผัสกับพระคุณอันน่าอัศจรรย์ของพระคริสต์ด้วยเช่นกันในวันนี้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น