ผมเชื่อว่า
เราต่างเคยพบกับคนบางคนที่มักถกเถียงถึงขั้นทะเลาะวิวาท(เอาแพ้เอาชนะ) เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนถูกต้อง
ดีกว่าคนอื่น ลึก ๆ ต้องการมีอำนาจเหนือคนอื่น บางคนบางกลุ่มจะทะเลาะถกเถียงตลอดเวลา เพราะภูมิใจว่านั่นเป็นบุคลิกลักษณะของเผ่าพันธุ์ชาตินักรบ?
17...สติปัญญาจากสวรรค์ประการแรกนั้นคือบริสุทธิ์
จากนั้นคือรักสันติ เห็นอกเห็นใจ ยอมเชื่อฟัง เต็มด้วยความเมตตาและผลดี
ไม่ลำเอียงแต่จริงใจ (ยากอบ 3:17 อมธ.)
ผู้ที่มีสติปัญญาจากเบื้องบนนั้นสร้างสัมพันธภาพ สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งพระธรรมยากอบ 3:17
ได้แจงให้เห็นชัดว่า คนกลุ่มใดเผ่าใด
หรือองค์กรใดจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ก็เพราะแต่ละคนในองค์กรนั้น มีจิตใจที่จริงใจ บริสุทธิ์ใจ รักสันติ
เห็นอกเห็นใจ เปี่ยมด้วยความเมตตา
เป็นชีวิตที่ให้ผลดี
ยอมรับฟัง ไม่ลำเอียง และในพระธรรมสุภาษิตกล่าวไว้ด้วยว่า
“...มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ชอบหาเรื่อง”
(สุภาษิต 20:3 อมธ.)
แล้วอะไรล่ะที่เป็นต้นเหตุนำไปสู่การทะเลาะถกเถียงเอาแพ้เอาชนะกัน? มี 3
พฤติกรรมที่พึงตระหนักเพื่อระมัดระวังที่ชีวิตอาจจะถลำเข้าไปแล้วก่อเกิดการทะเลาะถกเถียงเอาแพ้เอาชนะ ที่นำไปสู่การแตกแยก แบ่งขั้ว แบ่งก๊ก
แบ่งพวก
1. การพูดแบบเปรียบเทียบกัน: เราต้องระมัดระวังที่จะไม่พูดในลักษณะเปรียบเทียบเพื่อเหยียดให้คู่สนทนา
ดูอ่อน ด้อย หรือ หรือ เลว
แย่กว่าคนอื่น เช่น
“คุณเป็นเหมือน....”
หรือ “ทำไมเธอไม่ทำเหมือน... (คนนั้น)”
“สมัยที่ผมอายุรุ่นราวคราวเดียวกับคุณ ผม......”
คำพูดลักษณะเช่นนี้รังแต่กระตุ้นให้คู่สนทนาลุกขึ้นปกป้องตนเอง
หรือ ถึงกับลุกขึ้นสู้ให้เห็นดำเห็นแดง
2. ตัดสินกล่าวโทษ
ประนาม ตราหน้า สาดโคลน: เป็นการกล่าวหาคู่สนทนาว่าเป็นคนทำผิด
หรือ ฝ่ายผิด เช่น
“นี่มันความผิดของคุณนะ” “คุณควรอับอายในความผิดที่ทำลงไปบ้าง”
“คุณทำอย่างงี้เสมอ...” “คุณไม่เคยทำอะไรที่... (สร้างสรรค์)... เลย”
“คุณควรจะทำ....” “คุณไม่ควรจะทำ....”
ประโยคในการสนทนา
หรือ
ที่ใช้ในการสื่อสารแบบนี้ไม่ช่วยให้เกิดการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในคริสตจักร
หรือ ในองค์กรเลย
รังแต่ยั่วยุให้คู่สนทนาเกิดอารมณ์เดือดดัน ไม่พอใจ ต้องลุกขึ้นปกป้องตนเอง หรือ “เอาคืน”
3.
การสื่อสารที่เอาตนเองเป็นตัวตั้ง: การสนทนาที่เอากรอบคิดของตนเองเป็นมาตรฐาน
ไม่สนใจ-ใส่ใจถึงความคิดความเข้าใจและความรู้สึกของคู่สนทนา ไม่ยอมที่จะฟังอย่างใส่ใจ
เพื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา
อาการเช่นนี้นำไปสู่การที่ถกเถียงกันถึงทะเลาะเบาะแว้ง การที่จะเอาแพ้เอาชนะคะคานกัน อาการเช่นนี้ตรงกันข้ามกับผู้สร้างสันติแน่!
คนที่โกรธช้า
(ใจเย็น) ก็มีความเข้าใจมาก
แต่คนที่โกรธเร็ว (ในร้อน) ก็ยกย่องความโง่ (สุภาษิต 14:29 มตฐ. ในวงเล็บ
สำนวนแปลของ อมธ.)
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น