ท่านเคยประสบพบเจอกับ
“สงครามในอาชีพการงานที่ทำ” ไหม? ผมพบอยู่บ่อยครับ!
ในฐานะคริสตชนคนทำงานเราเชื่อว่า
“สงครามในอาชีพการงาน” มันไม่ใช่การสู้รบปรบมือระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงาน
หรือ คนในทีมงานเท่านั้น แต่เรามองลึกถึงผู้ที่ “ชักใย”
อยู่เบื้องหลังในความขัดแย้งหรือสงครามนั้นคือใครกันแน่?
ซาตาน
คือคนชักใยเบื้องหลังที่สำคัญ ที่ว่าสำคัญเพราะมันไม่ได้ลงมือจัดการหรือปรากฏตัวของมันชัดเจน
แต่มันคือผู้สร้างความขัดแย้งตัวจริง สร้างความท้อแท้ หมดกำลังใจ จนถึงกับยอมแพ้ มารทำงานของมันผ่านผู้คนรอบข้างในชีวิตของเรา
ทำให้เรามองเป็นว่า เรากำลังขัดแย้งกับบางคนที่ทำงานด้วยกัน เช่น
กับเจ้านายกับลูกน้อง...
ซาตานมันทำงานผ่านคนต่าง ๆ โดยใช้ความอ่อนด้อย ความเห็นแก่ตัว การเอารัดเอาเปรียบ
และ ฯลฯ ของผู้คนเหล่านั้น เพื่อทำให้เราสิ้นหวัง หมดกำลังใจในชีวิตการงานของเรา
ดังนั้น เราจำเป็นจะต้องรู้เท่าทัน
และ ตระหนักชัดถึงความจริงของสงครามทางจิตวิญญาณในอาชีพการงานของเรา ให้เราถอดบทเรียนรู้จากเรื่องราวของโยบในพระคัมภีร์
ซึ่งมีบทเรียนรู้สำคัญในเรื่องนี้ 7 ประการด้วยกันคือ ...
1.
การครอบครองของพระเจ้ามีอำนาจเหนือกว่ามารซาตานในสงครามทางจิตวิญญาณ
ในเรื่องนี้ ผู้ที่นำเรื่องของโยบขึ้นมาคือพระเจ้ามิใช่ซาตาน
พระเจ้าผู้ทรงไว้ซึ่งพระปัญญา พระองค์จะต้องมีเหตุผลที่นำเรื่องนี้สู่ความขัดแย้ง
2.
แม้แต่คนชอบธรรมก็ยังต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ (สงคราม) ที่น่ากลัว
ปัจจุบันนี้หลายธรรมมาสน์เทศนาที่ปฏิเสธสัจจะประการนี้
พระคัมภีร์มิได้เปิดเผยความจริงเบื้องหลังที่พระเจ้ายอมให้ซาตานกระหน่ำโจมตีคนของพระองค์จนต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างมากในชีวิต
เพียงกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของโยบเท่านั้น
3.
ซาตานลงมือทำร้ายทำลายอย่างล้างผลาญ
เราเห็นสิ่งนี้ในบทนำของเรื่อง
ซาตานทำลายล้างฝูงสัตว์ทั้งสิ้นของโยบ ทำลายคนรับใช้ของโยบ และคนในครอบครัวของโยบ ซาตานทำการทำลายล้างทุกอย่าง
4.
ซาตานสามารถทำได้แค่ในขอบเขตที่พระเจ้าอนุญาตเท่านั้น
ซึ่งถ้าพระเจ้ายอมให้ซาตานเอาชีวิตของโยบ
มันก็คงฆ่าทำลายชีวิตของโยบอย่างแน่นอน แต่ซาตานไม่สามารถทำนอกขอบเขตที่พระเจ้าได้จำกัดไว้
5.
ซาตานรู้ถึงความจำกัดของมันเอง
ซาตานรู้ว่ามันไม่สามารถที่จะทำนอกเหนือที่พระเจ้ายอมให้มันทำ
มันรู้เขตแดนกำหนดว่ามันทำได้แค่ไหน
“พระองค์ทรงล้อมรั้วป้องกันเขา(โยบ)และครอบครัวกับทรัพย์สินทุกอย่างของเขาไม่ใช่หรือ? (โยบ 1:10 อมธ.)
6.
ซาตานท้าทายในเรื่องการรู้ลึกซึ้งถึงจิตใจของมนุษย์ของพระเจ้า
เมื่อพระเจ้าพูดถึงโยบว่า
“ทั่วโลกนี้ไม่มีใครเหมือนเขา(โยบ) เขาเป็นคนดีเพียบพร้อม เที่ยงธรรม
ยำเกรงพระเจ้า และหลีกห่างจากความชั่ว” (1:8 อมธ.) ซาตานพูดย้อนกลับพระเจ้าว่า
“โยบยำเกรงพระเจ้าโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไรเลยหรือ?” (ข้อ
9) “พระองค์ทรงล้อมรั้วป้องกันเขาและครอบครัวกับทรัพย์สินทุกอย่างของเขาไม่ใช่หรือ?
พระองค์ทรงอวยพรกิจการทุกอย่างที่เขาทำ
ดังนั้นฝูงสัตว์ทั้งหลายของเขาจึงขยายทั่วแผ่นดิน ลองพระองค์ยื่นพระหัตถ์ออกทำลายทรัพย์สินทุกอย่างของเขาสิ
รับรองว่าเขาจะแช่งด่าพระองค์ต่อหน้าเลยทีเดียว” (ข้อ 10-11) ซาตานมันท้าทายพระเจ้าว่า
พระเจ้าไม่รู้ถึงก้นบึ้งแห่งจิตใจที่แท้จริงของโยบ แต่มันรู้ได้อย่างลุ่มลึกกว่าพระเจ้า
7.
ซาตานทำงานของมันผ่านคนอื่นที่พยายามทำให้คนที่สัตย์ซื่อของพระเจ้าท้อแท้ ผิดหวัง
หมดกำลังใจ จนยอมพ่ายแพ้
ในเรื่องราวของโยบ บุคคลแรกที่ซาตานทำงานของมันคือทำผ่านภรรยาของโยบ
ภรรยาของโยบกล่าวกับโยบว่า “ท่านยังจะซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้าอยู่อีกหรือ? จงแช่งด่าพระเจ้าแล้วก็ตายเสียเถอะ!” (2:9 อมธ.) จากนั้น
ซาตานก็ทำงานผ่านกลุ่มเพื่อนที่มีปัญหา(ที่ภายนอกมีภาพลักษณ์ว่ามีปัญญา)ของโยบ
บางทีประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับเราท่านทุกคน
ชัยชนะในสงครามทางจิตวิญญาณไม่สามารถที่จะปฏิเสธ “ความเจ็บปวด”
ในชีวิตจากการทำสงครามการงาน แต่ความเจ็บปวดในชีวิตดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการยกย่อง
สรรเสริญ และนมัสการพระเจ้า เป็นการที่เราไว้วางใจในพระเจ้าทุกหนทางอย่างไร้เงื่อนไขท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
จงสรรเสริญพระเจ้าทั้งในยามทุกข์ทรมานที่ได้รับจากการต่อสู้ และ
ปฏิเสธที่จะกล่าวร้ายต่อพระเจ้า “ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้
โยบไม่ได้ทำบาปโดยกล่าวโทษพระเจ้าเลย” (1:22)
ให้เรารู้เท่าทันว่า องค์สูงสุดที่ยอมให้ศัตรูจู่โจมทำร้ายเรา
พระองค์คือองค์สูงสุดที่สู้ร่วมกับเรา จงไว้วางใจและเชื่อฟังพระองค์ จงก้าวทุกย่างก้าวในการต่อสู้ศัตรู
ที่ต้องการทำให้เราสิ้นหวัง หมดกำลังใจในชีวิต จนต้องพ่ายแพ้ในชีวิต แล้วยุให้เราหันกลับไปต่อสู้กับพระผู้ทรงสร้างเราในที่สุด
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น