สำหรับคริสตชนแล้ว การที่เราต้องทุกข์ยาก
เจ็บปวด หวั่นไหว ตระหนกกลัว เรามิได้ตกอยู่ในภาวะที่ทนทุกข์เช่นนี้เพียงโดดเดี่ยวคนเดียว
แต่เรากำลังเผชิญหน้าและร่วมในความทุกข์ยากกับมนุษยชาติในขณะนี้ด้วยกัน ยิ่งกว่านั้น
พระคริสต์ที่อยู่ในชีวิตของเราก็กำลังทนทุกข์ยากนี้ร่วมกับพวกเราด้วยเช่นกัน
เราเข้าใจ “กางเขน”
อย่างไร? บ่อยครั้งนักที่เรามองกางเขนด้วยจิตใจที่หดหู่ที่ต้องทนทุกข์และต้องพบกับความเจ็บปวดและความตาย
แต่สำหรับคริสตชนแล้วเมื่อเรามุ่งมองที่กางเขนเรามองทะลุไปให้เห็น
“การเป็นขึ้นใหม่จากความตาย”
ดังนั้น ในฐานะสาวกของพระคริสต์อย่าให้เราหลบเลี่ยงหลีกหนีจากการถูกตรึงที่กางเขน
กางเขนคือ “ครู” ของเรา
ให้เรายอมตนอย่างเต็มใจที่จะถูกตรึงบนกางเขนนั้นในช่วงเวลาหนึ่ง เพราะบนกางเขนนั้นเรามิได้สูญเสียชีวิต
แต่เราจะได้รับชีวิตใหม่ที่เป็นชีวิตที่มีคุณภาพยิ่งกว่าเดิม และนี่คือเส้นทางที่คริสตชนจะต้องเดินและเดินอย่างพระคริสต์ไปด้วยกันกับพระองค์
เวลานี้คือช่วงเวลาที่เราจะต้องร่วมในความทุกข์ยาก
เจ็บปวด ในการให้ชีวิตร่วมกัน และนี่เป็นหนทางเดียวที่จะนำเราไปสู่การมีชีวิตใหม่ ชีวิตที่เป็นขึ้นจากความตายที่พระคริสต์ได้ประสบพบเจอมาแล้ว
และนี่คือเส้นทางชีวิตจากเบ็ธเลเฮ็ม สู่ โกละโกธา จากรางหญ้าสู่กางเขน
ในความเจ็บปวด ทุกข์ยาก
และการสูญเสียในภาวะแพร่ระบาดและการคุกคามของไวรัสโควิด 19 เป้าหมายปลายทางที่เรามุ่งมองไปไม่ใช่ใครคือต้นเหตุ
ใครเป็นคนแพร่เชื้อ รัฐบาลไหนที่บริหารล้มเหลว และก็มิใช่เวลาที่เราจะหาทางฉกฉวยแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง
การยึดครองอำนาจทางเศรษฐกิจ ฯลฯ
แต่ในเวลาวิกฤติชีวิตเช่นนี้คือเวลาที่เราจะต้องร่วมกันในการทนทุกข์
ร่วมกันในการให้ชีวิต ร่วมกันในการยอมพลีชีวิต เพื่อที่มนุษยชาติจะได้ชีวิตใหม่ร่วมกัน
และโอกาสในการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งด้วยกัน โอกาสใหม่ที่จะมีชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขเป็นหนึ่งเดียวกัน
พระคริสต์ได้ทนทุกข์ในชีวิตของเรา
ให้เรามีส่วนร่วมในการแบกกางเขนกับพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา แม้ว่าความทุกข์ที่เราร่วมแบกไปกับพระองค์และคนอีกมากมายจะเป็นการแบกความทุกข์ยากลำบากที่ไม่เป็นธรรมในชีวิตสำหรับเราก็ตาม
เพราะกางเขนที่พระคริสต์ต้องแบกไปสู่โกละโกธาก็เป็นความทุกข์ ความเจ็บปวด
และความตายที่ไม่ยุติธรรม และถ้าเราที่เป็นสาวกของพระองค์จะร่วมในความทุกข์ยากดังกล่าว
เราก็ต้องยอมแบกความทุกข์ยากลำบากที่ไม่เป็นธรรมด้วยเช่นกัน
พระคริสต์ที่ทนทุกข์และให้ชีวิตของพระองค์แก่เรา
พระองค์ก็ทนทุกข์และให้ชีวิตแก่คนอื่น ๆ ด้วย การทนทุกข์ร่วมกับพระคริสต์และคนอื่น
ๆ จึงมิใช่เพื่อความยุติธรรม แต่เพื่อให้ได้ชีวิตใหม่ ที่ได้มาเหนือความถูกผิดตามตรรกะมนุษย์เราเท่านั้น
แต่ด้วยความรักเมตตาที่ให้ชีวิตแบบพระคริสต์ต่างหากที่จะได้มาซึ่งชีวิตใหม่ สังคมใหม่
และแผ่นดินโลกใหม่
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น