ถ้าท่านไม่รู้ว่า
ตนเองเป็นใคร? ท่านจะพบกับคนประเภทต่าง ๆ
มากมาย
ที่จะพยายามบอกท่านว่าจะมีความสุขได้อย่างไร จะต้องมีชีวิตแบบไหน
ในยุคนี้
คนรอบข้างในสังคมพยายามที่จะหล่อหลอมบ่มเพาะท่านไปในรูปแบบชีวิตต่าง ๆ ตามที่เขาคิดว่าดีในสายตาของเขา
ดีสำหรับเขา
เริ่มตั้งแต่พ่อแม่เป็นเบ้าหลอมบ่มเพาะแรก ๆ ในชีวิตของท่าน
เขาพยายามบ่มเพาะและหล่อหลอมชีวิตท่านให้เป็นคนที่เขาคิดว่าท่านควรจะเป็น เมื่อท่านเติบโตขึ้นอีกหน่อยหนึ่งเพื่อนฝูงรายล้อมตัวท่านก็พยายามทำให้ท่านเป็นคนอย่างที่เขาคิดว่าอยากให้ท่านเป็น อิทธิพลขั้นต่อมาคือคู่ชีวิตของท่าน พร้อม ๆ กับอีกกลุ่มหนึ่งคือ เพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมงาน พวกเขาต่างมีความคิดของเขาว่า
ท่านควรเป็นคนแบบไหน
แล้วอย่างนี้จะไม่ทำให้ท่านมึน
ท่านเครียด หรือ กดดันท่านได้อย่างไร?
การที่เราไม่รู้ว่า
เราคือใคร?
แล้วปล่อยให้คนรอบข้างหล่อหลอม-ดัดแต่งเราตามลักษณะที่เขาแต่ละคนคิด (ซึ่งแต่ละคนแต่ละกลุ่มก็คิดไม่เหมือนกัน) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อเกิด “ความเครียดกดดัน”
ของคนจำนวนมหาศาลในยุคนี้
พระเยซูคริสต์เป็นแบบอย่างชีวิตแก่เรา พระองค์ได้เปิดเผยให้เราเห็นว่า ความชัดเจนในตนเอง
เป็นหลักการแรกของการรับมือและบริหารจัดการความเครียดที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตของพระเยซูคริสต์
พระเยซูคริสต์ไม่มีความสงสัยในอัตลักษณ์ของพระองค์เอง แต่พระองค์ได้ชี้ชัดบอกกับเราว่าพระองค์เป็นอะไรถึง
18
ครั้งในพระคัมภีร์ ทุกครั้งเมื่อพระองค์บอกถึงอัตลักษณ์ว่าพระองค์เป็นอะไร
คือใคร
พระองค์จะตามด้วยสัจจะความจริงในสิ่งที่พระองค์เป็น ว่าหมายความว่าอย่างไร และพระองค์จะมีชีวิตอย่างไร
พระเยซูคริสต์บอกว่า
“เราเป็นความจริง เราเป็นทางนั้น เราเป็นชีวิต
พระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้า
พระบิดาทรงส่งพระองค์เข้ามาในสังคมโลกนี้
พระองค์เป็นประตู
พระองค์เป็นอาหารแห่งชีวิต
พระองค์เป็นน้ำแห่งชีวิต”
พระเยซูคริสต์รู้ชัดว่าพระองค์เป็นใคร
เราก็จำเป็นที่จะต้องรู้ชัดเจนว่า
เราเป็นใคร อะไรคืออัตลักษณ์ในตัวตนของเราเอง
เราต้องรู้ว่าพระเจ้าทรงสร้างชีวิตของเรามาให้เป็นใคร เป็นคนแบบไหน พระเจ้าทรงใส่อัตลักษณ์อะไรในตัวตนของเรา
ถ้าเราท่านไม่รู้ชัดถึงอัตลักษณ์ของตนเองว่า จริง ๆ แล้วเราคือใคร เราก็จะตกเป็น “เหยื่อของคนรอบข้าง”
ที่มาบอกท่านว่า ท่านควรจะเป็นใคร ท่านควรจะเป็นคนแบบไหน โอกาสที่ท่านจะคล้อยตามความคิดเห็นของคนรอบข้างต่อ
“ความเป็นตัวตนของเรา” มากขึ้น
เราต้องรับความคิดเห็นสารพัดจากคนรอบข้าง
จนบางครั้งสับสน มึนงง และต้องพบกับความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันของคนต่าง
ๆ ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร ก่อเกิดความเครียดกดดันในชีวิต
ความเครียดกดดันเกิดขึ้นเมื่อเราพยายามที่จะเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา เรามักตั้งใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง ต้องการเป็นคนอย่างที่พระเจ้าทรงสร้าง แต่เราไม่รู้ว่าเราคือใคร พระเจ้าประสงค์สร้างเราให้มาเป็นคนแบบไหน แล้วมักจบลงด้วยการไป
“ลอกเลียนแบบชีวิตของคนอื่น” ที่เราอยากจะเป็นเหมือนเขา ต้นเหตุก็เพราะเราไม่รู้ชัดแน่ใจว่าเราเป็นใคร
แต่เมื่อใดก็ตามที่ท่านได้เรียนรู้ว่า
ท่านเป็นใคร ท่านก็จะพึ่งการยอมรับจากคนรอบข้างน้อยลง ท่านก็ตกในภาวะความเครียดกดดันน้อยลงด้วย ท่านจะทนทานต่อความเครียดและการกดดันได้มากขึ้น
พระกิตติคุณยอห์น
14:6 พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น
เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา...” (อมธ.) พระเยซูคริสต์ไม่จำเป็นที่จะต้องมีใครมาช่วยบอกให้พระองค์รู้ว่า พระองค์คือใครกันแน่
และท่านก็ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาบอกว่าท่านเป็นใครเช่นกัน
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น