ศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตจักร มีความสำคัญต่อชีวิตและการทำพันธกิจของคริสตจักร
สิ่งสำคัญยิ่งประการหนึ่งคือ ศิษยาภิบาล และ
ผู้นำคริสตจักร รู้เท่าทันเกี่ยวกับความเป็นจริงในชีวิตและความเชื่อของสมาชิกฆราวาสในคริสตจักรของตนลุ่มลึกมากน้อยเพียงไรย่อมมีผลต่อการบริหารจัดการความสัมพันธ์
การอภิบาล และการทำพันธกิจในชีวิตคริสตจักรมากเท่านั้น
จากประสบการณ์และข้อมูลที่ได้จากการพูดคุย/สัมภาษณ์
ช่วยให้ผมได้รับข้อสรุป-บทเรียนรู้ความจริงที่สำคัญเชิงลึกเกี่ยวกับสมาชิกฆราวาสในคริสตจักร
ถ้าศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตจักรมองข้าม หรือ มองไม่เห็นความจริงเหล่านี้ของสมาชิกฆราวาสในคริสตจักร
จะมีผลต่อการอภิบาลชีวิตและการทำพันธกิจของศิษยาภิบาล และผู้นำคริสตจักรอย่างมีนัยสำคัญ
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเชิงลึก 9 ประการ
1. สมาชิกฆราวาสบางคนยังไม่มีความเชื่อศรัทธา การที่ศิษยาภิบาลจะต้องเข้าใจเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก
เราคงต้องพูดความจริงตรงไปตรงมาแต่แรกว่า เมื่อพระเยซูคริสต์มีสาวก 12 คน หนึ่งในสาวกเป็น “สาวกเทียม” “สาวกปลอม” เราคงไม่สามารถทำต่อสมาชิกประเภทนี้ในคริสตจักรของเราได้ดีไปกว่าพระเยซูคริสต์ได้กระทำมาแล้ว
2. สมาชิกฆราวาสส่วนใหญ่ในคริสตจักรรักองค์พระผู้เป็นเจ้า ยกเว้นสมาชิกฆราวาสในข้อ ที่
1
ตลอดเวลาที่ผ่านเราพบว่า
สมาชิกฆราวาสส่วนใหญ่(จำนวนมาก)ในคริสตจักรที่รักองค์พระผู้เป็นเจ้า
พวกเขาบางคนอาจจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากในการติดตามพระคริสต์ แต่นั่นมิใช่เพราะว่าพวกเขาไม่รักพระองค์
(โปรดดูในประเด็นต่อไป)
3. สมาชิกฆราวาสส่วนมากมิได้เป็น
“สาวกพระคริสต์” ที่ดีมีคุณภาพ หลายคนเป็นสมาชิกในคริสตจักรโดยไม่เคยผ่านการสอน
และ เสริมสร้างให้มีชีวิตประจำวันที่เป็นสาวกของพระคริสต์ ผลที่เกิดขึ้นคือ
ชีวิตประจำวันต้องประสบกับความล้มเหลว พ่ายแพ้ แล้วคนกลุ่มนี้บางคนก็มีตำแหน่งผู้นำในคริสตจักรทั้ง
ๆ ที่มิได้รับการเตรียมความพร้อมทางจิตวิญญาณ เราท่านคงต้องยอมรับว่า ตัวเราเองอาจจะเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ในอดีตมาแล้ว
4. สมาชิกฆราวาสจำนวนมากยังมีความเชื่อศรัทธาที่อ่อนหัด ถ้าผู้เชื่อไม่มีความตั้งใจที่จะมีชีวิตการเป็นสาวกของพระคริสต์
การเติบโตในชีวิตจิตวิญญาณของเขาจะหยุดชะงัก และแคระแกร็น และนี่เป็นความผิดพลาดของชุมชนคริสตจักรที่ไม่ใส่ใจ/สอนและเสริมสร้างให้สมาชิกฆราวาสทุกคนเป็นสาวกพระคริสต์
ปัญหาที่ตามมาก็คือ ผู้นำคริสตจักรจะเกิดความผิดหวัง คับข้องใจกับสมาชิกกลุ่มนี้ เพราะศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตจักรคาดหวังว่า
ผู้เชื่อเหล่านี้ควรจะมีชีวิตประจำวันที่แสดงออกถึงผู้เชื่อที่มีวุฒิภาวะ ที่เติบโตในความเชื่อของเขา
5. สมาชิกฆราวาสจำนวนมากที่มี
“ของประทาน” มากกว่าศิษยาภิบาลในบางด้าน นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะเห็นคริสตจักรเป็นพระกายเดียวกันของพระคริสต์อย่างชัดเจนตามที่เขียนใน
1โครินธ์ บทที่ 12
ที่แต่ละคนในคริสตจักรใช้ของประทานที่ตนได้รับในการรับใช้และหนุนเสริมกันและกัน แต่ถ้าเวลาใดที่ศิษยาภิบาลเลือกที่จะทำสิ่งต่าง
ๆ ในคริสตจักรด้วยตนเอง ศิษยาภิบาลกำลัง “บูชาตนเอง” ตนเองกลายเป็นรูปเคารพที่ตนกำลังกราบไหว้บูชา
6. สมาชิกเกือบทุกคนต้องการรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าในคริสตจักร
และ ผ่านคริสตจักร อย่างไรก็ตาม การที่สมาชิกฆราวาสแต่ละคนต้องการที่จะรับใช้แต่กลับไม่ได้รับใช้
ทั้งนี้เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไร จะเริ่มต้นที่ไหนดี
บางคนเคยได้รับ “ความเจ็บปวดผิดหวัง” จากการรับใช้มาก่อน ดังนั้น
จึงกลัวที่จะรับใช้ ถึงแม้จิตใจของเขาต้องการที่จะสัตย์ซื่อในการรับใช้ก็ตาม
7. สมาชิกฆราวาสส่วนใหญ่รักศิษยาภิบาลของเขา จากประสบการณ์การเป็นศิษยาภิบาลของผม
ผมไม่เคยพบว่ามีสมาชิกฆราวาสคนไหนที่ไม่รักผม มีบ้างบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมในบางเรื่อง
และมีบ้างที่โกรธไม่พอใจผมที่ผมลาออกจากคริสตจักร แต่ผมไม่เคยสงสัยเลยว่าเขารักผมหรือไม่
8. สมาชิกฆราวาสหลายคนที่ต้องปล้ำสู้กับความบาปที่ซ่อนเร้น สมาชิกฆราวาสหลายคนที่รู้สึกว่า
“ไม่มีใครที่ปลอดภัยพอที่ตนจะบอกหรือปรึกษาเรื่องบาปที่ซ่อนเร้นของตนได้” บางคนไม่มีสัมพันธภาพกับใครในคริสตจักรที่เขาจะปรึกษาเรื่องนี้
วันอาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่าเขาต้อง “ปล้ำสู้” กับความผิดบาปในชีวิตจิตวิญญาณของเขา และไม่รู้ไม่เข้าใจเลยว่าจะเอาชนะสงครามจิตวิญญาณภายในชีวิตของเขาดังกล่าวอย่างไรดี
9. สมาชิกฆราวาสที่สร้างความยุ่งเหยิง
ลำบากใจแก่/ในคริสตจักร
อย่างที่เคยเกิดขึ้นในคริสตจักรสมัยเริ่มแรกที่เราพบในพระธรรมพันธสัญญาใหม่ ถ้าเราอ่านในพระธรรม 1โครินธ์ เราจะพบว่า
คริสตจักรในสมัยเริ่มแรกในพันธสัญญาใหม่ก็ต้องพบกับคนที่เป็นตัวปัญหาในคริสตจักร แต่ข่าวดีก็คือว่า
ทุกวันนี้เรารับใช้พระเจ้าองค์เดียวกันกับคริสตจักรในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าที่ทรงรักคริสตจักรของพระองค์ถึงแม้จะเป็นคริสตจักรที่มีปัญหายุ่งเหยิงเพียงใดก็ตาม
ข้อมูลเชิงลึกของสมาชิกคริสตจักรทั้ง 9 ประการนี้ ศิษยาภิบาลจะต้องรู้เท่าทันชัดเจน และอธิษฐานขอการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะช่วยศิษยาภิบาลในการอภิบาลสมาชิกตามบริบทและสภาพความเป็นจริงในชีวิตของสมาชิกแต่ละคน
เพื่อเสริมสร้างสมาชิกแต่ละคนให้มีชีวิตที่เป็นสาวกพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน และเราสามารถแบ่งปันประสบการณ์จากการอภิบาลสมาชิกที่มีสภาพชีวิตดังกล่าวข้างต้นแก่กันและกันต่อไป
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น