อ่าน
ฟิลิปปี 3:10-14
เราเคยนั่งลงตรึกตรอง ทบทวนตนเองบ้างไหมว่า... เราไปคริสตจักรในวันอาทิตย์ทำไมกัน?
แต่ก่อนที่จะถามคำถามข้างต้นนี้ เราน่าจะถามตนเองก่อนว่า เราแต่ละคนมีนิมิต มีวิสัยทัศน์อย่างไรบ้างเกี่ยวกับคริสตจักรที่เราไปร่วมในวันอาทิตย์?
สำหรับผมส่วนตัว ผมไม่มีวิสัยทัศน์แบบต้องการเห็นคริสตจักรมีที่นั่งจำนวนมากสำหรับคนที่มาในวันอาทิตย์
และก็ไม่ใช่อยากจะเห็นคนมาล้นโบสถ์จนที่นั่งไม่พอสำหรับคนที่มา ไม่ใช่คริสตจักรของเรามีเครื่องอำนวยความสะดวกทันสมัย
ติดแอร์ มีโปรเจคเตอร์ที่ทันสมัย มีชุดเครื่องดนตรีที่ราคาแพง
มีที่จอดรถกว้างขวาง มีสุสานฝังศพของคริสตจักรเอง ฯลฯ
สิ่งข้างต้นเหล่านี้ ไม่ใช่วิสัยทัศน์ หรือ
นิมิต คริสตจักรในวันอาทิตย์ของผม!
แต่...ผมมีนิมิต/วิสัยทัศน์ว่า...
คริสตจักรของเรามีชีวิตอยู่เพื่อช่วยผู้คนให้...
รู้จักพระเจ้า
พบความเป็นไท/เสรีในชีวิต
ค้นพบพระประสงค์ในชีวิตของตน
และ
มีชีวิตที่แตกต่างจากเดิมเพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
คริสตจักรของเรามิได้มีชีวิตอยู่เพื่อมีคริสตจักรที่สวยงาม
หรือ ใหญ่โตขึ้น แต่เป็นคริสตจักรที่เติบโต
แข็งแรงขึ้นด้วยการมุ่งเน้นเสริมสร้างสมาชิกแต่ละคนในคริสตจักรให้เติบโต แข็งแรง
และมีสุขภาพทุกมิติที่สมบูรณ์ ด้วยการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเหล่านี้ให้เกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมในชีวิตประจำวันของสมาชิกแต่ละคน
เมื่อผู้คนมาร่วมในคริสตจักรในวันอาทิตย์ สิ่งที่เราคาดหวังจากการทำพันธกิจของคริสตจักรคือ
- รู้จักพระเจ้า: เสริมสร้างการนมัสการพระเจ้าที่ทำให้ผู้เข้าร่วมมีประสบการณ์ตรงที่ได้รับการสัมผัสจากพระเจ้า และต้องการเข้ามาร่วมในการนมัสการพระเจ้าอีก อีกทั้งเชิญชวนคนใหม่เข้ามาร่วมเพิ่ม เพื่อให้คนใหม่มีประสบการณ์ตรงถึงพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ในชีวิตของตน และ ชีวิตที่ร่วมกัน
- พบกับเสรีในชีวิตประจำวัน: คริสตจักรช่วยให้ทุกคนที่เข้ามาร่วมในคริสตจักรได้มีโอกาสเข้าร่วมในกลุ่มเล็ก เพื่อเป็นที่ที่จะช่วยแต่ละคนให้มีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน เติบโตในชีวิตที่เป็นไทจากอำนาจแห่งความบาปชั่ว และ ความฉีกขาดแตกหักในชีวิตของแต่ละคน ไปสู่ชีวิตใหม่ใต้ร่มพระคุณของพระคริสต์
- ค้นพบเป้าหมายในชีวิตของตน: นอกจากการเสริมสร้างให้ผู้คนมีชีวิตที่เป็นสาวกของพระคริสต์แล้ว คริสตจักรยังต้องมีการติดตาม หนุนเสริม ให้การดำเนินชีวิตประจำวันของแต่ละคนได้มุ่งสู่เป้าหมายชีวิตของตนตามพระประสงค์ของพระเจ้า ซึ่งนำไปสู่การเติบโตในชีวิตการเป็นสาวกพระคริสต์ขั้นต่อ ๆ ไป
- เกิดความแตกต่างในชีวิตจากเดิม: คริสตจักรเสริมสร้างแต่ละคนให้ร่วมรับใช้ในทีมงานต่าง ๆ ของคริสตจักร ตามความสามารถ ของประทานที่มีในชีวิตแต่ละคน และคริสตจักร “ส่ง” ทุกคนออกไปให้ดำเนินชีวิตในชีวิตประจำวัน ด้วยการสานต่อพระราชกิจต่อจากพระคริสต์ในพื้นที่ชีวิตของตน
- เพื่อถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า: การดำเนินชีวิตประจำวันของสมาชิกแต่ละคนมุ่งมั่นที่จะถวายพระเกียรติทั้งสิ้นแด่พระเจ้า และในวันอาทิตย์เป็นโอกาสที่แต่ละคนจะเข้ามาในคริสตจักรที่จะขอบพระคุณ และ ถวายพระเกียรติในพระราชกิจที่พระเจ้าได้ทำในชีวิตและผ่านชีวิตของสมาชิกคริสตจักรแต่ละคน
ดังนั้น
บทบาทในฐานะศิษยาภิบาล จึงเป็นทั้ง “ผู้นำและผู้เลี้ยง” เป็นผู้ดูแล กำกับ จัดการชีวิตคริสตจักรที่พระคริสต์ทรงมอบหมายให้ศิษยาภิบาล
เลี้ยงดู และรับผิดชอบ บ่มเพาะและขยายนิมิต/วิสัยทัศน์ และเป็นผู้ริเริ่มหนุนเสริมให้สมาชิกแต่ละคนขับเคลื่อนตามย่างก้าวตามนิมิต/วิสัยทัศน์ที่กำหนดให้บรรลุสำเร็จ
ด้วยการเสริมสร้างสมาชิกคริสตจักรแต่ละคนให้มีชีวิตที่เติบโตขึ้นในพระคริสต์ แล้วเสริมสร้างให้เรียนรู้และมีทักษะความสามารถในการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ในโลกนี้
ทีมงาน คณะธรรมกิจ ทีมผู้นำผู้รับใช้จะร่วมการบริหารจัดการขั้นตอนก้าวเดินมุ่งสู่ความสำเร็จตามนิมิตหมายตามที่ได้ร่วมกันกำหนด
พวกเขามิเพียงทำพันธกิจร่วมกันเท่านั้น แต่ทุกคนในทีมงานร่วมกันเสริมสร้าง และ
หนุนเสริมทุกคนในคริสตจักรรักกันและกัน และขับเคลื่อนพระราชกิจของพระคริสต์อย่างรับผิดชอบตามแผนงานพันธกิจที่ได้กำหนดร่วมกัน
คริสตจักรจะเติบโต เข้มแข็ง และ เกิดผลในชีวิต ก็ต่อเมื่อ...
สมาชิกคริสตจักรแต่ละคนเติบโต
เข้มแข็ง และ เกิดผลในชีวิต และ
สมาชิกเป็นผู้ขับเคลื่อนชีวิตและพันธกิจคริสตจักรไปสู่นิมิตที่ชัดเจนเดียวกัน
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น