พระเจ้ามีพระประสงค์ในชีวิตของเราแต่ละคน
แต่เราจำเป็นที่จะต้องมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิตของเรา
“เพราะเราทั้งหลายเป็นผลงานของพระเจ้าซึ่งทรงสร้างในพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทำการดีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าให้เราทำ”
(เอเฟซัส 2:10 อมธ.)
ขอยกตัวอย่างชัด ๆ จากปฐมกาลบทที่
24 ซึ่งเป็นเรื่องของคนใช้ที่สัตย์ซื่อและไว้ใจได้ของอับราฮัม
ที่อับราฮัมใช้เขาไปหาหญิงที่เป็นเชื้อชาติเดียวกันในหมู่ญาติในดินแดนบ้านเกิดให้มาเป็นภรรยาของอิสอัคบุตรชายของอับราฮัม
จากเรื่องนี้เราเรียนรู้ว่า คนใช้ของอับราฮัมมีเป้าหมายที่ชัดเจน ตระหนักชัดว่า
ความสำเร็จของตนต้องพึ่งในการชี้นำของพระเจ้า และมั่นใจว่าจะทำสำเร็จตามเป้าหมาย
เขามีแผน กำหนดแนวทางปฏิบัติ กำหนดเวลาการดำเนินการที่ชัดเจน
1) รู้ถึงเป้าหมายอย่างชัดเจน
เจ้านายของคนใช้คือ อับราฮัม
ได้กำหนดจุดประสงค์ของตนที่ชัดเจนคือ ให้คนใช้ของตนไปหาหญิงที่มีเชื้อชาติเดียวกัน
ในหมู่ญาติของอับราฮัมเพื่อให้มาเป็นภรรยาของอิสอัคบุตรชายของตน
อับราฮามให้เป้าหมายแก่คนใช้ของตนอย่างชัดเจน
และคนใช้ของอับราฮัมมุ่งทำให้สำเร็จตามเป้าหมายนั้น
ด้วยเชื่อและไว้วางใจในการทรงนำของพระเจ้า
2) แยกแยะให้ชัดเจนถึงสิ่งที่ต้องพึ่งการทรงกระทำของพระเจ้าเท่านั้น
คนใช้ของอับราฮัมอธิษฐานขอการทรงชี้นำจากพระเจ้า
2 เรื่องที่เขาทำเองไม่ได้
1) พระองค์จะทรงเลือกหญิงคนใดให้เป็นภรรยาของอิสอัค
2) ขอพระเจ้าทรงนำให้หญิงคนนั้นยอมไปกับตนยังเมืองที่อับราฮัมอาศัยอยู่
บ่อยครั้งเรามักจะวางแผนขั้นตอนต่าง
ๆ ในสิ่งที่เราจะทำได้เท่านั้น
แต่ไม่ให้ความสำคัญและสนใจในสิ่งที่เราทำเองไม่ได้แต่ต้องพึ่งในการทรงนำและกระทำของพระเจ้าเท่านั้น
3) เชื่ออย่างมั่นใจว่าเราจะทำสำเร็จได้โดยทางของพระเจ้า
เรามุ่งมองอนาคตด้วยความเชื่ออย่างมั่นใจว่าในกระบวนเหตุการณ์ที่จะคลี่คลายในข้างหน้านั้นพระเจ้าอยู่ด้วยกับเรา
พระองค์อยู่ในชีวิตของเรา พระองค์ทรงมีสิ่งต่าง ๆ อย่างเพียบพร้อมที่จะทำพระราชกิจในชีวิตเรา
(ฟีลิปปี 4:19) และ
พระองค์ทรงกระทำตามพระสัญญาของพระองค์ (2โครินธ์ 4:19)
4) มีความตั้งใจและปรารถนาที่จะทำให้สำเร็จตามแผนการของพระเจ้า
คนใช้ของอับราฮัมมุ่งที่จะทำให้เป้าหมายที่อับราฮัมกำหนดแก่ตนให้สำเร็จ
โดยมีการเตรียมการล่วงหน้า มุ่งทำตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่วอกแวกแวะทำสิ่งอื่น
มุ่งทำตามแผนให้จุดประสงค์ของเจ้านายบรรลุความสำเร็จ
5) กำหนดแนวทางปฏิบัติ
อย่างที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า
ในการทำแผนงานพันธกิจนั้นแตกต่างจากแผนงานอื่น ๆ โดยทั่วไป
แผนงานพันธกิจต้องคำนึงถึงสิ่งที่เราจัดการเองไม่ได้แต่ต้องพึ่งในการทรงนำและการกระทำของพระเจ้าในเหตุการณ์เฉพาะต่าง
ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถกำหนดแผนการล่วงหน้าอย่างกับสิ่งที่เราจะสามารถทำเองได้
ดังนั้น ขณะที่เราพบกับเหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์เราต้องขอการทรงนำของพระเจ้า และ
เราต้องการทำตามพระประสงค์ของพระองค์มิใช่ตามความต้องการหรือที่เราคาดคิดเอาเอง
เช่น ในกรณีขอหมายสำคัญว่าพระเจ้าทรงเลือกหญิงคนไหน หรือ ในกรณีเรื่องการต่อรองเรื่องเวลาออกจากบ้านของครอบครัวเรเบคาห์
เป็นต้น
6) มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน
พี่ชายและญาติของเรเบคาห์ต้องการให้เรเบคาห์อยู่ที่บ้านอย่างน้อย
10 วันก่อนจะเดินทางไปกับคนใช้ของอับราฮัม
แต่คนใช้ของอับราฮัมรักษาตารางเวลาในแผนการ
และที่สุดเรเบคาห์ตัดสินใจไปกับคนใช้ของอับราฮัมในวันต่อมา
ท่านได้ขับเคลื่อนชีวิตของท่านไปทีละก้าวมุ่งสู่พระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่?
แต่ถ้าท่านไม่แน่ใจว่าพระเจ้ามีพระประสงค์อะไรในชีวิตของท่าน
ท่านทูลขอเบื้องบนขอประทานพระปัญญาและการทรงนำแก่ท่านได้
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย
สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น