มีคนถามว่า
ลดหรือขจัดความขัดแย้งโดยเริ่มต้นที่ตัวเรานั้นเป็นอย่างไร?
ท่านจะได้รับความสำเร็จจากการทำงานและพันธกิจเพราะมีคนมากมายที่มีส่วนร่วมช่วยในการทำพันธกิจนั้น
พระเจ้าไม่เคยมีพระประสงค์ให้ท่านรับผิดชอบพันธกิจทั้งหมดด้วยตัวของท่านเองคนเดียว
แต่นั่นหมายความว่าเราจะต้องทำงานพันธกิจร่วมกับคนอื่นในคริสตจักร
ในองค์กรของเราโดยปลอดความขัดแย้งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต่อไปนี้เป็น 5
แนวทางในการเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง
ที่เปาโลได้เสนอใน ฟีลิปปีบทที่ 2
1. ขจัดการแข่งขันแย่งชิงความเหนือกว่า
“อย่าทำสิ่งใดด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างเห็นแก่ตัว...” (ฟิลิปปี 2:3ก. อมธ.)
เมื่อความจำเป็นต้องการของฉันต้องขัดแย้งกับความจำเป็นต้องการของเธอ เราเริ่มมีปัญหาต่อกัน เรามีชีวิตในสังคมโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเอาชนะคะคานกัน
บ่อยครั้งใช่ไหมที่เราแข่งกับคนที่ทำพันธกิจด้วยกัน เราแข่งขันเอาแพ้เอาชนะกันกับคนที่เสนอตัวต้องการรับใช้พระเจ้า(ในตำแหน่ง)
ที่เหมือนกับเรา
แทนที่เราจะหนุนเสริมกันและกันเพื่อให้ทำพันธกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ที่แข่งขันเพื่อแย่งชิงความเหนือกว่าในหมู่วงญาติพี่น้องของตนในครอบครัว และเราก็ทำในทำนองเดียวกันนี้เมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า?
เราต้องตระหนักชัดว่า คนที่เรารับใช้ในคริสตจักร ในองค์กรของเรา ในชุมชนของเรามิใช่คู่แข่งของเรา พวกเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวใหญ่ของเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นสมาชิกคริสตจักร ทีมงานพันธกิจ หรือ แม้แต่ผู้อภิบาลในคริสตจักร หรือ
คนข้างถนน หรือ คนในชุมชนที่เรารับใช้
2. กำจัดการหยิ่งถือดี
“อย่าทำสิ่งใดด้วย...ด้วยความถือดี” (ฟิลิปปี 2:3ข. อมธ.) การที่จะลดความขัดแย้งในงาน ในพันธกิจ
และในชีวิตของเรา ให้เรากำจัดความหยิ่งยโส
การถือดีของตนเอง
อย่ากระทำสิ่งใดๆเพื่อจะโอ้อวดตนเอง
ทำตนเองให้สำคัญขึ้น หรือ เพื่อรับคำยกยอสรรเสริญจากคนอื่น
คนที่หยิ่งยโสจะเป็นผู้ที่มีความชำนาญในการเน้นที่ “ตัวฉัน” สิ่งที่เขามุ่งมอง และ มองเห็นคือ
ตัวเขาเอง พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า
“ความหยิ่งยโสนำหน้าความฉิบหาย การทำลาย” และนั่นเป็นเหมือนคนตัวใหญ่ที่พยายามใส่กางเกงขนาดเล็ก กางเกงย่อมฉีกขาดในที่สุด
3. หยุดการวิพากษ์วิจารณ์ “ยกตนข่มท่าน”
“แต่จงทำด้วยความถ่อมใจ ถือว่าคนอื่นดีกว่าตน” (ฟิลิปปี 2:3ค. อมธ.) เปาโลหมายความว่า เราควรกระทำต่อผู้อื่นแบบ
“ให้คุณค่าในตัวของคนๆนั้นและกระทำต่อเขาด้วยความเคารพ” อย่าเหยียดคุณค่าในตัวคนอื่น
ให้กระทำต่อคนอื่นดีกว่าที่เรากระทำต่อตนเอง
เมื่อเราวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นด้วยทัศนคติแบบพิพากษาตัดสิน ทำให้เรารู้สึก “อยู่เหนือ” คนๆนั้น
นั่นเป็นการที่เรากำลังยกตนเองให้สูงขึ้นเพื่อข่มให้คนอื่นให้ต่ำลง แต่พระคัมภีร์สอนไปทางตรงกันข้าม
ถ้าเราต้องการกำจัดความขัดแย้งในชีวิตในความสัมพันธ์ของเรา ให้เราลดการวิพากษ์วิจารณ์ตัดสินพิพากษาคนอื่น
4. เลิกการมุ่งมองหาผลประโยชน์แก่ตนเอง
“แต่ละคนไม่ควรมุ่งหาประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่ควรคิดถึงประโยชน์ของคนอื่นด้วย”
(ฟิลิปปี 2:4 อมธ.)
การมุ่งหาประโยชน์ควรเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่น ใส่ใจคนอื่น
ถ้าเราไม่ทำเช่นนั้น แน่นอนว่าการบริหาร
การทำพันธกิจของเราในคริสตจักรก็จะต้องพบกับความขัดแย้ง
ถ้าเป็นในครอบครัวเราก็คงต้องขัดแย้งกับคู่ชีวิตของเรา ลูกของเรา
หรือไม่ก็ขัดแย้งกับเพื่อนบ้านข้างเรือนเคียงของเรา
5. มีชีวิตที่เป็นเหมือนพระคริสต์
“ท่านควรมีท่าทีแบบเดียวกับพระเยซูคริสต์” (ฟีลิปปี 2:5 อมธ.)
พระเยซูคริสต์ทรงเป็นแม่แบบในความสัมพันธ์แก่เรา
การที่เราเข้าไปติดต่อเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้คน ถ้าเราต้องการรู้วิธีที่จะพบปะสัมพันธ์กับผู้คน แม้แต่คนที่คบยากสัมพันธ์ลำบาก
ให้เรามุ่งมองไปที่แบบอย่างชีวิตของพระเยซูคริสต์ นำเอาทัศนคติ
ท่าทีการดำเนินชีวิตของพระคริสต์เป็นทัศนคติและท่าทีชีวิตของเราแต่ละคน แม่แบบที่ว่านี้คือ...
- ข้อที่ 6: พระองค์มิได้ยึดถือเอาสิทธิของพระองค์เป็นตัวตั้ง แต่กลับยอมเสียสละสิทธิแห่งตนที่มีอยู่
- ข้อที่ 7: พระองค์มีเจตคติหรือท่าทีแห่งการรับใช้ผู้อื่น (มารับสภาพทาส)
- ข้อที่ 8: พระองค์ยอมเสียสละตนเองเพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์ของผู้อื่น
ให้เรามีชีวิตที่มีพระคริสต์ในชีวิตของเรา และให้พระคริสต์สำแดงพระองค์ผ่านชีวิตประจำวันของเรา เมื่อพระคริสต์มีชีวิตในชีวิตของผม และ
ชีวิตของท่าน
ความสัมพันธ์ของเราก็จะเคลื่อนไปเหนือความขัดแย้ง เมื่อใดก็ตามที่เกิดความขัดแย้งความแตกแยก
อำนาจของความบาปก็สำแดงตนที่นั่น
นี่แสดงว่ามีคนบางคนที่มิได้มีชีวิตอย่างพระเยซูคริสต์!
ที่กล่าวมานี้เพื่อชี้แจงว่า การลด การป้องกัน หรือ ขจัดความขัดแย้ง
“เริ่มต้นที่ตัวเราก่อน”
การเริ่มต้นที่ชีวิตของเราต้องเลียนตามแบบอย่างของพระคริสต์ในชีวิตประจำวัน
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น