25 มีนาคม 2562

ระวัง...อย่าเข้าใจและใช้พระคัมภีร์บางข้อผิดๆ! (1)

อย่าตัดสิน(พิพากษา)คนอื่น?

  1“อย่าตัดสิน มิฉะนั้นท่านเองจะถูกตัดสินด้วย 
  2เพราะท่านตัดสินผู้อื่นอย่างไร ท่านจะถูกตัดสินอย่างนั้น...” (มัทธิว 7:1-2 อมธ.)

เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่อยากให้ใครมาตัดสินเรา เราก็อย่าไปตัดสินคนอื่น  จึงมีหลายท่านที่อ่านพระคัมภีร์ข้อนี้แล้วเข้าใจว่า “ดังนั้น เราจึงไม่ควรไปพิพากษา หรือ ตัดสินคนอื่น เพื่อคนอื่นจะได้ไม่มาพิพากษา หรือ ตัดสินเรา” การคิดการเชื่อแบบนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นสาวกของพระคริสต์ก็มีวินัยชีวิตแบบนี้ได้ การตีความพระคัมภีร์ข้อนี้แบบนี้ เป็นการตีความพระคัมภีร์ตามใจนึก เป็นการตีความพระคัมภีร์ที่ไม่ใส่ใจถึงบริบทของข้อพระคัมภีร์ตอนนี้

ความเป็นจริงในชีวิตของเราคือ ทุกวันเราต้องตัดสินเสมอ ตั้งแต่เช้านี้เราจะใส่เสื้อตัวไหนไปทำงาน   จนถึงวันนี้จะซื้อกับข้าวอะไรไปกินเป็นอาหารเย็น

ภาษาฮีบรูที่พระเยซูคริสต์ใช้ในคำว่า “ตัดสิน” คือว่า “krinō” หมายถึง “การแยก กระจายออก การเลือก...” ดังนั้น เราต้องระวังไม่ไปเข้าใจคำนี้ตามใจนึกคิดของเราเอง เราต้องใส่ใจว่า คำตรัสของพระเยซูคริสต์นี้ตรัสในบริบทอะไร และจริง ๆ แล้วพระองค์หมายถึงอะไรกันแน่ ที่สำคัญคือเราต้องศึกษาเรื่องราวทั้งเรื่องของคำกล่าวประโยคนี้

ถ้าเราจะเข้าใจคำกล่าวพระคัมภีร์ข้อนี้ (ข้อ 1) เราต้องอ่านตลอดไปจนถึงข้อ 5

“...เหตุใดท่านมองดูผงขี้เลื่อยในตาของพี่น้อง แต่ไม่ใส่ใจกับไม้ทั้งท่อนในตาของท่านเอง? 4ท่านพูดกับพี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ให้เราเขี่ยผงออกจากตาของท่านเถิด’ ในเมื่อตลอดเวลานั้นท่านเองมีไม้ทั้งท่อนอยู่ในตา? 5เจ้าคนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาเจ้าเองก่อน แล้วเจ้าจะเห็นชัดเพื่อจะเขี่ยผงออกจากตาของพี่น้องได้” (ข้อ 3-5)

ในเมื่อเรามีความผิดความบาปที่ใหญ่ยิ่งไปกว่าความบาปผิดของพี่น้องที่เราไปตัดสิน หรือ ตั้งคำถามการกระทำของเขา เราแน่ใจนะว่าเรามิใช่พวกหน้าซื้อใจคดอย่างฟาริสีที่พระเยซูคริสต์บริภาษ พระเยซูคริสต์มิได้พูดว่า ไม่ให้ตัดสิน แต่ก่อนอื่นใดต้องพิจารณาตนเองก่อนว่า ไม้ทั้งท่อนในตาแห่งชีวิตของเราเอาออกมาแล้วหรือยัง เพื่อเราจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน แล้วค่อยไปช่วยเอาผงแห่งความบาปผิดออกจากตาแห่งชีวิตของพี่น้องคนอื่น 

พระเยซูคริสต์มิได้สอนว่า ไม่ให้ตัดสิน หรือ พิพากษา แต่พระเยซูคริสต์ทรงสอนใน ยอห์น 7:24 ว่า “24จงเลิกตัดสินตามที่เห็นเพียงภายนอก แต่จงตัดสินให้ถูกต้องตามความเป็นจริง”


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499

04 มีนาคม 2562

จะอธิษฐานเผื่อนักการเมือง และ ผู้นำประเทศของเราอย่างไรดี?

ท่านเคยอธิษฐานเพื่อผู้ปกครองประเทศ   ทั้งองค์พระมหากษัตริย์  นายกรัฐมนตรี  คณะรัฐมนตรี  สภานิติบัญญัติ  ตลอดจนผู้ปกครองท้องถิ่นอย่าง นายก อบต. หรือ เทศบาล  และ สมาชิก อบต. หรือ เทศบาลหรือไม่?   ทำไมท่านถึงอธิษฐานเผื่อผู้นำเหล่านี้?   เมื่อท่านอธิษฐานเผื่อผู้นำเหล่านี้ท่านอธิษฐานเผื่อเขาในเรื่องอะไรบ้าง?   และถ้าผู้นำประเทศ หรือ ผู้ปกครองประเทศและท้องถิ่น ที่ท่านไม่ไว้ใจ  ไม่เห็นด้วย  หรือคนที่ท่านไม่ยอมรับ   ท่านจะอธิษฐานเผื่อเขาหรือไม่?   ทำไม?

เรื่องการเมืองระดับประเทศ และ การเมืองท้องถิ่น เคยเป็นสาเหตุที่ทำให้คริสตจักรเกิดการแตกแยกมาแล้วในอดีตที่ผ่านมา   เมื่อพรรคการเมืองสีหนึ่งชนะเลือกตั้ง   ในการนมัสการพระเจ้าในวันอาทิตย์ศิษยาภิบาลได้ขอให้คริสตจักรอธิษฐานเผื่อนายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรีสีที่ชนะเลือกตั้ง   หลังการนมัสการมีผู้ปกครองคริสตจักรคนหนึ่งซึ่งเป็นที่นับถือของสมาชิกคริสตจักรได้มาหาศิษยาภิบาลและบอกศิษยาภิบาลว่า   อาจารย์ไม่สมควรอธิษฐานเผื่อผู้นำประเทศคนนี้   แต่ศิษยาภิบาลยังคงให้มีการอธิษฐานเผื่อผู้บริหารประเทศชุดนี้  ปรากฏว่าผู้ปกครองคริสตจักรท่านนั้นออกจากคริสตจักรเพราะรับไม่ได้ที่ศิษยาภิบาลดื้อรั้นยังอธิษฐานเผื่อนายกรัฐมนตรีที่เขาเกลียดเข้ากระดูกดำ  

ถ้าท่านเป็นศิษยาภิบาลท่านนี้ท่านจะทำอย่างไร?  ทำไมท่านถึงทำเช่นนั้น?

เปาโลเขียนจดหมายฝากไปถึงศิษยาภิบาลหนุ่มทิโมธี  ตอนหนึ่งท่านแนะนำ ศบ. หนุ่มว่า...

1ฉะนั้นก่อนอื่นข้าพเจ้าขอกำชับท่านให้ทูลขอ อธิษฐาน วิงวอน และขอบพระคุณพระเจ้าเพื่อทุกคน 2เพื่อเหล่ากษัตริย์และผู้มีอำนาจทั้งปวง   เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างสงบและมีสันติในทางพระเจ้า และเป็นที่นับถือ  (1ทิโมธี 2:1-2 อมธ.  ตัวเอน มตฐ.)

ที่เปาโลเขียนเช่นนี้ถึงทิโมธี มิใช่เพราะท่านนิยมชื่นชอบการปกครองของจักรพรรดิในเวลานั้นคือ กษัตริย์เนโร (Nero  ในภาษากรีกมีความหมายว่าสีดำ)  กษัตริย์องค์นี้ได้สั่งฆ่าพวกคริสต์ชนในยุคคริสต์ศตวรรษแรกอย่างเลือดเย็นและบ้าคลั่ง   เป็นจักรพรรดิที่โหดร้าย  เป็นผู้ปกครองเผด็จการ   ดังนั้น  ที่เปาโลแนะนำให้ทิโมธีอธิษฐานเผื่อผู้ปกครองประเทศมิใช่เพราะเขานิยมชมชอบแน่   ตรงกันข้ามเป็นที่น่าเกลียดน่ากลัวของเปาโลต่างหาก   แต่เปาโลบอกแก่ทิโมธีและเราว่า  ให้อธิษฐานเผื่อผู้ปกครองประเทศ

หลังการเลือกตั้งในประเทศไทยครั้งนี้   ไม่ว่าพรรคไหน พวกไหน หรือ คนไหนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี   คริสต์ชนจะต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าเผื่อพวกเขา   เพื่อขอพระเจ้าโปรด “ทรงชี้นำ และ ทรงนำผู้นำประเทศคนนั้นและคณะรัฐมนตรีคณะนั้น”  และเราคงไม่อธิษฐานทูลขอพระเจ้าให้ชี้นำนายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรีตามความคิดเห็นความต้องการของเรา   แต่ตามการทรงนำของพระเจ้า   เพราะผมเชื่อและไว้วางใจว่าพระเจ้ารู้ว่า  ควรบริหารประเทศไทยไปในทางไหนที่เป็นหนทางที่ดีที่สุด มากกว่าความคิดความต้องการของผม

ส่วนผู้นำเหล่านั้นจะยอมน้อมรับการทรงชี้นำของพระเจ้า หรือ เขาเลือกที่จะไปตามการครอบงำของอำนาจชั่ว   เขาต้องตัดสินใจ  และเขาจะต้องรับผลจากการตัดสินใจของเขาเอง

ส่วนเราต้องอย่าทะนง  แต่ต้องใส่ใจอธิษฐานและฟังการทรงชี้นำจากองค์พระผู้เป็นเจ้า   และยอมทำตาม  เปลี่ยนแปลง  และพัฒนาชีวิตตามการทรงนำจากเบื้องบน

เพื่อเราจะได้ดำเนินชีวิตอย่างสงบ   มีสันติในทางพระเจ้า และเป็นที่นับถือ 

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499