ทำไมฉันถึงต้องเจ็บปวดในชีวิตเช่นนี้?
นี่เป็นคำถามที่เราถามบ่อยๆ
ที่เราต้องการเข้าใจในเรื่องพระเจ้ากับความเจ็บปวดในชีวิตของเรา
นี่เป็นคำถามที่ศรีสุดา(นามสมมติ)จะถามบ่อยๆ เธอพยายามที่จะเข้าใจการที่เธอต้องถูกทำร้ายร่างกาย
และถูกทำร้ายทางเพศจากคนในสายเลือดเดียวกัน และเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ เป็นเวลานานหลายปีที่เธอมีความรู้สึกว่าพระเจ้าเกลียดเธอ
เธอพยายามที่จะกลบเกลื่อนบาดแผลและความเจ็บปวดในชีวิตของเธอไว้ภายในส่วนลึกของชีวิต ภาพลักษณ์พระเจ้าของศรีสุดาเป็นเหมือนพ่อที่อารมณ์ร้าย ชอบทำร้าย
น่ากลัว มักใช้กำลังข่มขืนคนอื่น เป็นคนที่มักเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
ศรีสุดา
เคยเล่าให้ผู้เขียนบทความท่านหนึ่งว่า “ฉันมีความสัมพันธ์แบบ ‘รักเจือเกลียด’ ต่อพระเจ้า” “ฉันต้องการให้พระองค์ช่วยฉัน แต่ภาพของพระเจ้าที่ฉันเห็นกลับเป็นคนที่ใจร้าย โหดร้าย
ดูถูกเหยียดหยามฉันพร้อมกับชี้นิ้วตราหน้าฉัน และฉันก็โกรธอย่างมากเช่นกัน
สิ่งที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าดูเป็นคนละเรื่องกับภาพพระเจ้าที่ฉันพบในชีวิตประจำวัน”
ในที่สุด ศรีสุดายอมรับว่า
“ฉันต้องเชื่อในพระเจ้าที่แตกต่างจากพระเจ้าที่ฉันเชื่อว่าน่าจะเป็น
ฉันเชื่อว่าพระเจ้าที่แสนดีนั้นเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้มีจริง แต่พระเจ้าที่เลวร้ายกลับเป็นพระเจ้าที่ฉันเห็นโทนโท่ในชีวิตประจำวัน”
จากหนังสือเรื่อง When a Women Overcomes Life’s Hurt (ขออนุญาตแปลเล่นๆ ว่า
“เมื่อแม่หญิงเอาชนะความเจ็บปวดในชีวิต”) ของ Cindi McMenamin เป็นหนังสือที่นำเสนอเกี่ยวกับการเยียวยาภายในชีวิตและการเสริมสร้างชีวิตที่ครบบริบูรณ์ หนังสือได้เสนอขั้นตอนต่างๆ เพื่อนำไปสู่
“การซ่อมแซมแก้ไขความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้า”
ไว้อย่างน่าสนใจ เพราะพระเจ้ามิได้เป็นอย่างที่เธอเคยประสบพบมาในอดีต ขอเลือกบางขั้นตอนมาพูดคุยกัน
ท่านสามารถเปลี่ยนภาพของพระเจ้าที่ท่านมีอยู่ใหม่ได้ด้วยการศึกษาเจาะลึกลงในพระวจนะของพระเจ้าและค้นพบภาพที่เป็นสัจจะความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า อย่างที่ศรีสุดาได้ทำและประสบพบเจอมาแล้ว
·
พระเจ้ามิใช่พระเจ้าที่มีภาพ “เลว”
ในจินตภาพของเรา แต่เป็นพระเจ้าที่ตรัสกับเราว่า...
“เรารักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์...ด้วยความรักและเอ็นดู”
(เยเรมีย์ 31:3 อมตธรรม)
· พระองค์มิใช่พระเจ้าที่ดูน่ากลัวและชี้นิ้วใส่หน้าเรา และตั้งหน้าตั้งตารอที่จะลงโทษเรา
แต่พระองค์กลับเป็นพระเจ้าที่ประกาศในพระวจนะว่า
“เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้สำหรับเจ้า
เป็นแผนการเพื่อทำให้เจ้ารุ่งเรือง
ไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า
เป็นแผนการเพื่อให้ความหวังและอนาคตแก่เจ้า”
(เยเรมีย์ 29:11 อมตธรรม)
·
พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่ปรารถนาจะลงโทษเรา แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่...
“...ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่”
(2เปโตร
3:9 อมตธรรม)
·
พระเจ้ามิใช่ผู้ที่หยุดที่จะรักเราเมื่อเรากระทำบางสิ่งบางอย่างที่พระองค์ไม่ชอบ พระวจนะของพระเจ้าบอกอย่างชัดเจนว่า
ไม่มีสิ่งใดที่จะ...
“...พรากเราไปจากความรักของพระเจ้า...ของเราได้” (โรม 8:39 อมตธรรม)
เป็นไปได้ว่า จากบาดแผลและความเจ็บปวดในชีวิต
และความโศกเศร้าว้าวุ่นใจอาจทำให้ภาพของพระเจ้าที่เรารู้แตกต่างไปอย่างมากจากสภาพที่เป็นอยู่จริงของพระเจ้า แน่นอนครับ
มิใช่ความตั้งใจของท่านที่ต้องการให้เกิดเป็นเช่นนี้
บางครั้งบางท่านอาจจะเป็นเหมือนศรีสุดาที่เธอเอาภาพของคนที่ทำให้เธอเจ็บปวดในชีวิตที่เธอประสบพบเจอใส่ลงในภาพของพระเจ้า
มีสตรีหลายคนที่เป็นเหมือนศรีสุดา
ที่ทำให้ตนเองเชื่อว่าพระเจ้าเป็นเหมือนพ่อของเธอ ดังนั้นเมื่อเธอมีพ่อที่อารมณ์ร้าย ทำร้ายผู้อื่น
แสดงความไม่พอใจ วางตัวออกห่าง...
พวกเธอย่อมจะเห็นภาพของพระเจ้าในลักษณะที่เธอพบเห็นพ่อ มีทางเดียวเท่านั้น
เราต้องยอมที่จะให้พระเจ้าเยียวยารักษาจิตใจที่เจ็บปวดในชีวิตของเรา เราจะต้องมีประสบการณ์กับพระเจ้าโดยตรงเพื่อที่เราจะเข้าใจและรู้จักพระองค์อย่างที่พระองค์เป็นอยู่จริงๆ
อย่างที่พระวจนะของพระเจ้าได้บอกถึงพระลักษณะที่แท้จริงของพระองค์
เมื่อศรีสุดาได้เรียนรู้ถึงสัจจะความจริงว่าพระเจ้าเป็นใคร มีลักษณะที่แท้จริงอย่างไร ศรีสุดารู้ว่า เธอสามารถไว้วางใจในพระเจ้าได้
และพระองค์สามารถที่จะเยียวยารักษาบาดแผลในชีวิตจิตใจของเธอได้อย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าบาดแผลในชีวิตของท่านอาจจะไม่รุนแรงสาหัสเฉกเช่นของศรีสุดาก็ตาม
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ท่านได้รับความเจ็บปวดในชีวิตน้อยไปกว่าศรีสุดา ดังนั้น ผมใคร่ให้กำลังใจท่านว่าลองพิจารณาขั้นตอนที่ศรีสุดาใช้จนเธอได้พบกับความรักที่ทรงเอาใจใส่และความเมตตาของพระเจ้า ทำให้เธอเกิดความพอใจ สุขใจ
และอิ่มใจ
จากเดิมที่มีแต่ความเจ็บปวดและความวุ่นวายสับสนในชีวิต และนี่คือการที่ได้รับการทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตจากพระเจ้าอย่างแท้จริง ท่านพร้อมที่จะทูลขอต่อพระเจ้าหรือว่า
“...พระเจ้า...ข้าพระองค์วางใจในพระองค์และเชื่อว่าพระองค์จะทรงสร้างข้าพระองค์ให้เป็นคนที่พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์เป็น...”
ศรีสุดาได้ผ่านกระบวนการรับการทรงเยียวยาจากพระเจ้าดังนี้...
1. เขียนสิ่งที่ยังค้างคาใจภายในชีวิตของท่านออกมา
ศรีสุดาเริ่มเขียนเหตุการณ์ต่างๆ
ที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของเธอตามความทรงจำที่ยังสร้างความเจ็บปวดในชีวิตของเธอลงในสมุดบันทึกส่วนตัวของเธอ เป็นการเขียนระบายสิ่งต่างๆ เหล่านี้ออกมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในชีวิต มิใช่การที่พยายามเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
เพียงต้องการที่จะขุดเขียนสิ่งเหล่านั้นให้ออกจากชีวิตของเธอ การที่เธอเขียนสิ่งต่างๆ เหล่านั้นลงบนหน้ากระดาษบันทึกส่วนตัว เป็นเหมือนพระเจ้าทรง “เด็ดความเจ็บปวด”
ออกจากชีวิตจิตใจของเธอ
และในเวลาเดียวกันพระองค์ทรงใส่สิ่งใหม่ลงในชีวิตจิตใจของเธอ
นี่เป็นขั้นตอนที่ท่านสามารถนำไปทำได้ เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา ท่านอาจจะทำเช่นนี้ทุกเช้า
นั่งลงเขียนบันทึกชีวิตของท่านด้วยการทรงนำของพระเจ้า เขียนความทรงจำที่ยังรบกวนชีวิตจิตใจของท่าน ความทรงจำที่ผลุบๆ โผล่ๆ ทำให้เกิดความขุ่นเคืองไม่พอใจ ความทรงจำที่ท่านต้องการที่จะลืม
แต่ดูเหมือนไม่สามารถกำจัดมันออกไปจากชีวิตของท่านได้ เมื่อท่านเขียนสิ่งเหล่านั้นลงในสมุดบันทึก ให้ท่านทูลต่อพระเจ้าด้วยว่า ท่านต้องการให้สิ่งเหล่านี้ออกไปจากชีวิตจิตใจ ความทรงจำ และความนึกคิดของท่าน แม้ว่าจะมีพลังอำนาจใดจากความทรงจำเหล่านี้ในตัวท่าน
ให้ท่าน “ปล่อย”
ไม่ต้องไปสู้รบปรบมือกับมัน
แต่จงเชื่อและวางใจในฤทธานุภาพของพระเจ้าที่จะค่อยๆ ขจัดสิ่งเหล่านั้นออกจากชีวิตของท่าน แล้วทรงใส่สิ่งดีใหม่ๆ ลงในพื้นที่ชีวิตของท่าน
2. จงมุ่งมองไปที่พระวจนะของพระเจ้าเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าในท่านใหม่
มีสิ่งใดบ้างไหมในความเชื่อเรื่องพระเจ้าของท่านที่ไม่ถูกต้อง?
ท่านเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่ทรงลงโทษท่านด้วยการให้ท่านต้องมีชีวิตจิตใจที่เจ็บปวดหรือไม่? ท่านเชื่อว่าพระเจ้าคือผู้ที่พิพากษาชีวิตของท่านแล้วทำให้ท่านมีชีวิตที่ยุ่งเหยิง? ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงอยู่ห่างไกลและไม่สนใจชีวิตของท่านใช่ไหม? หรือท่านเชื่ออย่างมั่นใจว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ท่านสามารถอยู่ใกล้ชิดและทรงรู้ในทุกแง่มุมชีวิตของท่าน พระองค์ทรงรักท่านเหนือเหตุผล?
จงอ่านพระวจนะของพระเจ้าด้วยชีวิตจิตใจที่เปิดออก
เปิดรับสัจจะความจริงที่บอกท่านว่าแท้จริงแล้วพระเจ้ามีลักษณะใดกันแน่ เมื่อท่านเปิดรับพระวจนะของพระเจ้าเข้าในชีวิต
ท่านก็สามารถที่จะมีชีวิตและสัมพันธ์กับพระเจ้าตามพระลักษณะจริงของพระองค์ พระธรรมที่ท่านจะเริ่มอ่านศึกษาได้ดีคือพระธรรมสดุดี
ซึ่งเป็นบทประพันธ์จากประสบการณ์และความเชื่อศรัทธาของหลากหลายบุคคล ที่เคยผ่านพบประสบการณ์และมีความรู้สึกในชีวิตเช่นเดียวกับท่าน
3. ให้พระเจ้าทรงตรวจสอบชิวิตจิตใจท่าน
และสำแดงให้ท่านท่านรู้ว่าควรจะดำเนินชีวิตไปทางใด
ศรีสุดาเล่าว่า ก่อนที่จะเขียนความทรงจำลงในสมุดบันทึก
“สิ่งต่างๆ ในชีวิตของฉันมีแต่ความอ้างว้างว่างเปล่า และพระเจ้าทรงสร้างผู้หญิงคนนี้ขึ้นใหม่” แต่เธอกล่าวต่อไปว่า “ในเวลาเช่นนั้นเอง ฉันเกิดความรู้สึกชื่นชมยินดีมีพลังใจมากกว่าสิ่งอื่นใด ในเวลาที่ฉันบอกกับพระเจ้าว่า “พระเจ้า
ขอเพียงพระองค์ทรงกระทำงานในชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่ต้องการคนใดในชีวิตของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่ต้องการการอวยพระพรใดๆ ข้าพระองค์ต้องการให้พระองค์ชำระข้าพระองค์ให้สะอาด”
ในกระบวนการเยียวยารักษาส่วนใหญ่ของศรีสุดาใช้การอธิษฐานต่อพระเจ้า
และทูลขอพระองค์โปรดเยียวยารักษาเธอในทุกทาง โดยใช้ พระธรรมสดุดี 139:23-24 เป็นตัวชี้นำ
“ข้าแต่พระเจ้า
ขอทรงตรวจตราดูเถิด
และทรงทราบจิตใจของข้าพระองค์
ขอทรงตรวจสอบและทรงประจักษ์แจ้งความคิดกระวนกระวายของข้าพระองค์
โปรดดูว่ามีสิ่งใดบ้างในตัวข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัย
และขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีนิรันดร์”
(อมตธรรม)
เธอกล่าวว่า “เป้าหมายของฉันคือขอให้พระเจ้าทรงค้นหา และทรงเปิดทุกสิ่งที่ไม่ดีในชีวิตของฉันออก ทั้งที่พังเสียหาย ที่เป็นบาดแผล...”
ชีวิตของศรีสุดาในวันนี้เป็นชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า
และ เป็นชีวิตที่ได้รับการสร้างใหม่จากพระองค์
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเธอแสวงหาพระเจ้าที่เที่ยงแท้ในพระวจนะ และทูลขอพระองค์ทรงชำระชีวิตของเธอด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวจนะของพระเจ้า
เธอมิได้วางเป้าคาดหวังว่าเธอจะได้รับการฟื้นฟูเสริมสร้างใหม่ให้มีชีวิตที่ดีที่เธอจะสามารถขับเคลื่อนชีวิตตัวเธอเอง
เธอเพียงต้องการเป็นคนที่ดีพรั่งพร้อมในสายพระเนตรของพระเจ้า
ศรีสุดายืนยันว่า “ที่ฉันยังมีชีวิตทุกวันนี้
ยังหายใจได้อยู่จนถึงขณะนี้
เพราะในทุกหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตฉันทูลขอพระเจ้าทรงกระทำให้ฉันดีพร้อม ถ้าฉันไม่มีชีวิตที่ดีขึ้น ชีวิตของฉันก็ไม่สามารถที่จะดลใจคนอื่น อภิบาลคนอื่น หรือ ช่วยคนอื่นได้”
ให้เรามุ่งมองเจาะลึกลงในพระวจนะของพระเจ้า
เพื่อที่จะพบว่าพระองค์คือผู้ใดและมีพระลักษณะใดกันแน่? แล้วท่านอาจจะพบว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิดความแตกต่างในชีวิตและในโลก เมื่อพระเจ้าทรงเยียวยารักษา และฟื้นฟูสภาพชีวิตใหม่ของเรา เราจะสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงและการเสริมสร้างชีวิตของเราขึ้นใหม่ให้สมบูรณ์พูนครบในพระองค์
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499