31 ตุลาคม 2555

ความเจ็บปวดในชีวิต (2) ปรับเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ของท่านในเรื่องพระเจ้า


ทำไมฉันถึงต้องเจ็บปวดในชีวิตเช่นนี้?

นี่เป็นคำถามที่เราถามบ่อยๆ ที่เราต้องการเข้าใจในเรื่องพระเจ้ากับความเจ็บปวดในชีวิตของเรา

นี่เป็นคำถามที่ศรีสุดา(นามสมมติ)จะถามบ่อยๆ   เธอพยายามที่จะเข้าใจการที่เธอต้องถูกทำร้ายร่างกาย  และถูกทำร้ายทางเพศจากคนในสายเลือดเดียวกัน  และเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ   เป็นเวลานานหลายปีที่เธอมีความรู้สึกว่าพระเจ้าเกลียดเธอ   เธอพยายามที่จะกลบเกลื่อนบาดแผลและความเจ็บปวดในชีวิตของเธอไว้ภายในส่วนลึกของชีวิต   ภาพลักษณ์พระเจ้าของศรีสุดาเป็นเหมือนพ่อที่อารมณ์ร้าย  ชอบทำร้าย  น่ากลัว  มักใช้กำลังข่มขืนคนอื่น  เป็นคนที่มักเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

ศรีสุดา เคยเล่าให้ผู้เขียนบทความท่านหนึ่งว่า “ฉันมีความสัมพันธ์แบบ รักเจือเกลียดต่อพระเจ้า”   “ฉันต้องการให้พระองค์ช่วยฉัน   แต่ภาพของพระเจ้าที่ฉันเห็นกลับเป็นคนที่ใจร้าย  โหดร้าย  ดูถูกเหยียดหยามฉันพร้อมกับชี้นิ้วตราหน้าฉัน   และฉันก็โกรธอย่างมากเช่นกัน   สิ่งที่ฉันเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าดูเป็นคนละเรื่องกับภาพพระเจ้าที่ฉันพบในชีวิตประจำวัน”

ในที่สุด  ศรีสุดายอมรับว่า  “ฉันต้องเชื่อในพระเจ้าที่แตกต่างจากพระเจ้าที่ฉันเชื่อว่าน่าจะเป็น   ฉันเชื่อว่าพระเจ้าที่แสนดีนั้นเป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้มีจริง  แต่พระเจ้าที่เลวร้ายกลับเป็นพระเจ้าที่ฉันเห็นโทนโท่ในชีวิตประจำวัน” 

จากหนังสือเรื่อง When a Women Overcomes Life’s Hurt  (ขออนุญาตแปลเล่นๆ ว่า “เมื่อแม่หญิงเอาชนะความเจ็บปวดในชีวิต”) ของ Cindi McMenamin  เป็นหนังสือที่นำเสนอเกี่ยวกับการเยียวยาภายในชีวิตและการเสริมสร้างชีวิตที่ครบบริบูรณ์   หนังสือได้เสนอขั้นตอนต่างๆ  เพื่อนำไปสู่ “การซ่อมแซมแก้ไขความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้า”  ไว้อย่างน่าสนใจ  เพราะพระเจ้ามิได้เป็นอย่างที่เธอเคยประสบพบมาในอดีต   ขอเลือกบางขั้นตอนมาพูดคุยกัน

ท่านสามารถเปลี่ยนภาพของพระเจ้าที่ท่านมีอยู่ใหม่ได้ด้วยการศึกษาเจาะลึกลงในพระวจนะของพระเจ้าและค้นพบภาพที่เป็นสัจจะความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า   อย่างที่ศรีสุดาได้ทำและประสบพบเจอมาแล้ว

·         พระเจ้ามิใช่พระเจ้าที่มีภาพ “เลว” ในจินตภาพของเรา  แต่เป็นพระเจ้าที่ตรัสกับเราว่า...

“เรารักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์...ด้วยความรักและเอ็นดู” (เยเรมีย์ 31:3 อมตธรรม)

·        พระองค์มิใช่พระเจ้าที่ดูน่ากลัวและชี้นิ้วใส่หน้าเรา   และตั้งหน้าตั้งตารอที่จะลงโทษเรา   แต่พระองค์กลับเป็นพระเจ้าที่ประกาศในพระวจนะว่า

“เพราะเรารู้แผนการที่เรามีไว้สำหรับเจ้า  
เป็นแผนการเพื่อทำให้เจ้ารุ่งเรือง ไม่ใช่เพื่อทำร้ายเจ้า  
เป็นแผนการเพื่อให้ความหวังและอนาคตแก่เจ้า”
(เยเรมีย์ 29:11 อมตธรรม)

·         พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่ปรารถนาจะลงโทษเรา   แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าที่...

“...ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดพินาศ   แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่”
(2เปโตร 3:9 อมตธรรม)

·         พระเจ้ามิใช่ผู้ที่หยุดที่จะรักเราเมื่อเรากระทำบางสิ่งบางอย่างที่พระองค์ไม่ชอบ   พระวจนะของพระเจ้าบอกอย่างชัดเจนว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะ...

“...พรากเราไปจากความรักของพระเจ้า...ของเราได้” (โรม 8:39 อมตธรรม)

เป็นไปได้ว่า  จากบาดแผลและความเจ็บปวดในชีวิต และความโศกเศร้าว้าวุ่นใจอาจทำให้ภาพของพระเจ้าที่เรารู้แตกต่างไปอย่างมากจากสภาพที่เป็นอยู่จริงของพระเจ้า   แน่นอนครับ  มิใช่ความตั้งใจของท่านที่ต้องการให้เกิดเป็นเช่นนี้   บางครั้งบางท่านอาจจะเป็นเหมือนศรีสุดาที่เธอเอาภาพของคนที่ทำให้เธอเจ็บปวดในชีวิตที่เธอประสบพบเจอใส่ลงในภาพของพระเจ้า  มีสตรีหลายคนที่เป็นเหมือนศรีสุดา   ที่ทำให้ตนเองเชื่อว่าพระเจ้าเป็นเหมือนพ่อของเธอ   ดังนั้นเมื่อเธอมีพ่อที่อารมณ์ร้าย  ทำร้ายผู้อื่น  แสดงความไม่พอใจ  วางตัวออกห่าง...   พวกเธอย่อมจะเห็นภาพของพระเจ้าในลักษณะที่เธอพบเห็นพ่อ   มีทางเดียวเท่านั้น  เราต้องยอมที่จะให้พระเจ้าเยียวยารักษาจิตใจที่เจ็บปวดในชีวิตของเรา   เราจะต้องมีประสบการณ์กับพระเจ้าโดยตรงเพื่อที่เราจะเข้าใจและรู้จักพระองค์อย่างที่พระองค์เป็นอยู่จริงๆ   อย่างที่พระวจนะของพระเจ้าได้บอกถึงพระลักษณะที่แท้จริงของพระองค์

เมื่อศรีสุดาได้เรียนรู้ถึงสัจจะความจริงว่าพระเจ้าเป็นใคร  มีลักษณะที่แท้จริงอย่างไร   ศรีสุดารู้ว่า เธอสามารถไว้วางใจในพระเจ้าได้   และพระองค์สามารถที่จะเยียวยารักษาบาดแผลในชีวิตจิตใจของเธอได้อย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าบาดแผลในชีวิตของท่านอาจจะไม่รุนแรงสาหัสเฉกเช่นของศรีสุดาก็ตาม   แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ท่านได้รับความเจ็บปวดในชีวิตน้อยไปกว่าศรีสุดา   ดังนั้น ผมใคร่ให้กำลังใจท่านว่าลองพิจารณาขั้นตอนที่ศรีสุดาใช้จนเธอได้พบกับความรักที่ทรงเอาใจใส่และความเมตตาของพระเจ้า  ทำให้เธอเกิดความพอใจ  สุขใจ  และอิ่มใจ   จากเดิมที่มีแต่ความเจ็บปวดและความวุ่นวายสับสนในชีวิต   และนี่คือการที่ได้รับการทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตจากพระเจ้าอย่างแท้จริง   ท่านพร้อมที่จะทูลขอต่อพระเจ้าหรือว่า  “...พระเจ้า...ข้าพระองค์วางใจในพระองค์และเชื่อว่าพระองค์จะทรงสร้างข้าพระองค์ให้เป็นคนที่พระองค์ต้องการให้ข้าพระองค์เป็น...”

ศรีสุดาได้ผ่านกระบวนการรับการทรงเยียวยาจากพระเจ้าดังนี้...

1.   เขียนสิ่งที่ยังค้างคาใจภายในชีวิตของท่านออกมา

ศรีสุดาเริ่มเขียนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผ่านมาของเธอตามความทรงจำที่ยังสร้างความเจ็บปวดในชีวิตของเธอลงในสมุดบันทึกส่วนตัวของเธอ   เป็นการเขียนระบายสิ่งต่างๆ เหล่านี้ออกมาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในชีวิต   มิใช่การที่พยายามเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น   เพียงต้องการที่จะขุดเขียนสิ่งเหล่านั้นให้ออกจากชีวิตของเธอ   การที่เธอเขียนสิ่งต่างๆ เหล่านั้นลงบนหน้ากระดาษบันทึกส่วนตัว   เป็นเหมือนพระเจ้าทรง “เด็ดความเจ็บปวด” ออกจากชีวิตจิตใจของเธอ   และในเวลาเดียวกันพระองค์ทรงใส่สิ่งใหม่ลงในชีวิตจิตใจของเธอ

นี่เป็นขั้นตอนที่ท่านสามารถนำไปทำได้  เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา   ท่านอาจจะทำเช่นนี้ทุกเช้า   นั่งลงเขียนบันทึกชีวิตของท่านด้วยการทรงนำของพระเจ้า   เขียนความทรงจำที่ยังรบกวนชีวิตจิตใจของท่าน   ความทรงจำที่ผลุบๆ โผล่ๆ ทำให้เกิดความขุ่นเคืองไม่พอใจ   ความทรงจำที่ท่านต้องการที่จะลืม   แต่ดูเหมือนไม่สามารถกำจัดมันออกไปจากชีวิตของท่านได้   เมื่อท่านเขียนสิ่งเหล่านั้นลงในสมุดบันทึก   ให้ท่านทูลต่อพระเจ้าด้วยว่า  ท่านต้องการให้สิ่งเหล่านี้ออกไปจากชีวิตจิตใจ  ความทรงจำ  และความนึกคิดของท่าน   แม้ว่าจะมีพลังอำนาจใดจากความทรงจำเหล่านี้ในตัวท่าน    ให้ท่าน “ปล่อย” ไม่ต้องไปสู้รบปรบมือกับมัน   แต่จงเชื่อและวางใจในฤทธานุภาพของพระเจ้าที่จะค่อยๆ ขจัดสิ่งเหล่านั้นออกจากชีวิตของท่าน  แล้วทรงใส่สิ่งดีใหม่ๆ ลงในพื้นที่ชีวิตของท่าน

2.   จงมุ่งมองไปที่พระวจนะของพระเจ้าเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงความเข้าใจเกี่ยวกับพระเจ้าในท่านใหม่

มีสิ่งใดบ้างไหมในความเชื่อเรื่องพระเจ้าของท่านที่ไม่ถูกต้อง?   ท่านเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้ที่ทรงลงโทษท่านด้วยการให้ท่านต้องมีชีวิตจิตใจที่เจ็บปวดหรือไม่?   ท่านเชื่อว่าพระเจ้าคือผู้ที่พิพากษาชีวิตของท่านแล้วทำให้ท่านมีชีวิตที่ยุ่งเหยิง?   ท่านเชื่อว่าพระเจ้าทรงอยู่ห่างไกลและไม่สนใจชีวิตของท่านใช่ไหม?   หรือท่านเชื่ออย่างมั่นใจว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่ท่านสามารถอยู่ใกล้ชิดและทรงรู้ในทุกแง่มุมชีวิตของท่าน   พระองค์ทรงรักท่านเหนือเหตุผล?

จงอ่านพระวจนะของพระเจ้าด้วยชีวิตจิตใจที่เปิดออก   เปิดรับสัจจะความจริงที่บอกท่านว่าแท้จริงแล้วพระเจ้ามีลักษณะใดกันแน่   เมื่อท่านเปิดรับพระวจนะของพระเจ้าเข้าในชีวิต   ท่านก็สามารถที่จะมีชีวิตและสัมพันธ์กับพระเจ้าตามพระลักษณะจริงของพระองค์   พระธรรมที่ท่านจะเริ่มอ่านศึกษาได้ดีคือพระธรรมสดุดี   ซึ่งเป็นบทประพันธ์จากประสบการณ์และความเชื่อศรัทธาของหลากหลายบุคคล  ที่เคยผ่านพบประสบการณ์และมีความรู้สึกในชีวิตเช่นเดียวกับท่าน

3.   ให้พระเจ้าทรงตรวจสอบชิวิตจิตใจท่าน และสำแดงให้ท่านท่านรู้ว่าควรจะดำเนินชีวิตไปทางใด

ศรีสุดาเล่าว่า  ก่อนที่จะเขียนความทรงจำลงในสมุดบันทึก “สิ่งต่างๆ ในชีวิตของฉันมีแต่ความอ้างว้างว่างเปล่า  และพระเจ้าทรงสร้างผู้หญิงคนนี้ขึ้นใหม่”  แต่เธอกล่าวต่อไปว่า   “ในเวลาเช่นนั้นเอง  ฉันเกิดความรู้สึกชื่นชมยินดีมีพลังใจมากกว่าสิ่งอื่นใด   ในเวลาที่ฉันบอกกับพระเจ้าว่า “พระเจ้า  ขอเพียงพระองค์ทรงกระทำงานในชีวิตของข้าพระองค์   ข้าพระองค์ไม่ต้องการคนใดในชีวิตของข้าพระองค์   ข้าพระองค์ไม่ต้องการการอวยพระพรใดๆ ข้าพระองค์ต้องการให้พระองค์ชำระข้าพระองค์ให้สะอาด”

ในกระบวนการเยียวยารักษาส่วนใหญ่ของศรีสุดาใช้การอธิษฐานต่อพระเจ้า  และทูลขอพระองค์โปรดเยียวยารักษาเธอในทุกทาง  โดยใช้ พระธรรมสดุดี 139:23-24 เป็นตัวชี้นำ

“ข้าแต่พระเจ้า  ขอทรงตรวจตราดูเถิด  และทรงทราบจิตใจของข้าพระองค์
ขอทรงตรวจสอบและทรงประจักษ์แจ้งความคิดกระวนกระวายของข้าพระองค์
โปรดดูว่ามีสิ่งใดบ้างในตัวข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นที่พอพระทัย
และขอทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีนิรันดร์” (อมตธรรม)

เธอกล่าวว่า  “เป้าหมายของฉันคือขอให้พระเจ้าทรงค้นหา  และทรงเปิดทุกสิ่งที่ไม่ดีในชีวิตของฉันออก  ทั้งที่พังเสียหาย  ที่เป็นบาดแผล...”

ชีวิตของศรีสุดาในวันนี้เป็นชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า และ เป็นชีวิตที่ได้รับการสร้างใหม่จากพระองค์   ที่เป็นเช่นนี้เพราะเธอแสวงหาพระเจ้าที่เที่ยงแท้ในพระวจนะ   และทูลขอพระองค์ทรงชำระชีวิตของเธอด้วยฤทธิ์เดชแห่งพระวจนะของพระเจ้า   เธอมิได้วางเป้าคาดหวังว่าเธอจะได้รับการฟื้นฟูเสริมสร้างใหม่ให้มีชีวิตที่ดีที่เธอจะสามารถขับเคลื่อนชีวิตตัวเธอเอง   เธอเพียงต้องการเป็นคนที่ดีพรั่งพร้อมในสายพระเนตรของพระเจ้า

ศรีสุดายืนยันว่า  “ที่ฉันยังมีชีวิตทุกวันนี้ ยังหายใจได้อยู่จนถึงขณะนี้   เพราะในทุกหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตฉันทูลขอพระเจ้าทรงกระทำให้ฉันดีพร้อม   ถ้าฉันไม่มีชีวิตที่ดีขึ้น   ชีวิตของฉันก็ไม่สามารถที่จะดลใจคนอื่น  อภิบาลคนอื่น หรือ ช่วยคนอื่นได้”

ให้เรามุ่งมองเจาะลึกลงในพระวจนะของพระเจ้า  เพื่อที่จะพบว่าพระองค์คือผู้ใดและมีพระลักษณะใดกันแน่?   แล้วท่านอาจจะพบว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิดความแตกต่างในชีวิตและในโลก   เมื่อพระเจ้าทรงเยียวยารักษา  และฟื้นฟูสภาพชีวิตใหม่ของเรา   เราจะสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงและการเสริมสร้างชีวิตของเราขึ้นใหม่ให้สมบูรณ์พูนครบในพระองค์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น