ครั้งเมื่อผมอายุใกล้เข้าวัยเกษียณ (ตามที่คนอื่นกำหนดให้ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ทำงานประจำมาเป็นสิบปีแล้ว) ผมเริ่มกำหนดแผนงานชีวิตว่าจะทำอะไรบ้าง วางแผนตามใจปรารถนาที่อยากจะเป็นอยากจะทำ ตามกำลังศักยภาพที่ตนมีอยู่ และคิดว่าตนจะสามารถทำให้สำเร็จได้
แต่ในแผนงานเหล่านั้น
ผมไม่ได้คิดเลยว่า ผมจะต้องป่วยหนักกะทันหัน ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉิน
เรียกว่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ต้องขอบพระคุณพระเจ้า พระองค์ยังเปิดโอกาสที่ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีก
แต่ผมเห็นแล้วว่า ตอนนี้ไม่สามารถที่จะดำเนินตามแผนงานชีวิตที่วางไว้ สภาพชีวิตที่จะวิ่งเต้นไปยังที่ต่าง
ๆ ถูกจำกัดลงให้เหลือแค่ “เดินอย่างระมัดระวังไม่ให้ล้ม” อยู่กับบ้าน ปักหลักอยู่กับที่
มีเวลาอยู่กับตนเองและอยู่กับพระเจ้ามากขึ้น แต่ก็ยังมีโอกาสติดต่อสื่อสารกับผู้คนภายนอกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด
เรียกว่า
แผนงานชีวิตที่เตรียมไว้ “พับเก็บ” ไว้บนหิ้ง เพราะมันเป็นจริงไม่ได้ในตอนนี้
ผมเกิดฉุกคิดและถามตนเองว่า
แล้วพระเจ้าทำไมยังให้โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก? ผมได้แต่ก้มหัวลงอธิษฐานกับพระองค์ว่า
ช่วงเวลาชีวิตที่เหลืออยู่นี้ พระองค์มีเป้าประสงค์อะไรในชีวิตที่มีในขณะนี้? ผมปรารถนาทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตที่ผมได้รับ
เสียงจากข้อพระคัมภีร์ที่คุ้นชินเพราะใช้เป็นประจำเมื่อต้องเขียนบทความ
หรือ ใช้ในการฝึกอบรมเกี่ยวกับการวางแผนงานของคริสตชน แว่วขึ้นมาว่า
“มนุษย์วางแผนงานอยู่ในใจ
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดแต่ละย่างก้าวของเขา”
(สุภาษิต
16:9 อมธ.)
ใช่... เราวางแผนชีวิตตามใจปรารถนาของเราเองเสียจนสวยหรู
แต่เราไม่สามารถกำหนดย่างก้าวที่จะก้าวไปทีละก้าวอย่างชัดเจนแม่นยำได้ แต่พระเจ้ากลับเป็นผู้ที่ช่วยกำหนดแต่ละย่างก้าวในชีวิตประจำวันของเรา
เป็นย่างก้าวที่ก้าวย่างบนความเป็นจริงและเป็นไปได้ตามพระประสงค์ของพระองค์ และที่สำคัญคือ
พระเจ้าจะทรงเปิดเผย “ทีละย่างก้าว”
ในแต่ละวันให้เรารู้และเดินตามด้วยการเชื่อฟังและไว้วางใจในการทรงนำของพระองค์ เสรีภาพของผมก็คือ
ผมสามารถเลือกได้ว่าจะก้าวเดินตามที่พระองค์เปิดเผยแก่ผมในวันนี้หรือไม่ก็ได้
ที่กล่าวมาทั้งสิ้นนี้ไม่ได้หมายความว่าผมเปลี่ยนมุมมองว่า
การวางแผนไม่ใช่เรื่องสำคัญ การวางแผนเป็นเรื่องที่สำคัญครับ การที่เราสามารถกำหนดเส้นทางเดินในชีวิตของเราไปสู่อนาคตเป็นความสามารถที่พระเจ้าประทานแก่เรา
เรากำหนดเป้าหมายและยึดมั่นในความฝันที่มี และหวังว่าวันหนึ่งเราคงสามารถไปถึงเป้าหมายที่วางนั้น
แต่ในหลายครั้งหลายหนที่พระเจ้า “ทรงเปลี่ยน” ทิศทางชีวิตของเราให้ไปในแนวทางใหม่ เป็นเป้าหมายชีวิตที่เราไม่เคยคาดหวัง
แต่กลับเป็นแผนการที่ดีเยี่ยมที่พระองค์วางไว้เพื่อเรา
ก้าวย่างที่พระองค์ได้กำหนดให้เรา
อาจจะเป็นก้าวย่างที่นำเราไปในทิศทางที่เราเองตั้งใจจะไป
หรืออาจจะนำเราไปยังที่ที่เราไม่ต้องการจะไปก็ได้ แต่เรามั่นใจได้เลยว่า พระพรของพระเจ้าจะไม่หยุดชะงักเพียงเพราะสถานการณ์แวดล้อมของเราเปลี่ยนไป
เราสามารถที่จะดำเนินไปด้วยความมั่นใจในพระสัญญาของพระองค์
ถึงแม้จะดูไม่เหมือนอย่างที่เราได้วางแผนไว้ก็ตาม ในช่วงที่พบว่าตนเองสุ่มเสียงต่อการตาย
จนกระทั่งค่อย ๆ ดีขึ้น และกลับมาสู่สุขภาพที่จะต้องเอาใจใส่อยู่แต่ที่บ้าน เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่ายากลำบากสำหรับตนเอง
การที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวันในสถานการณ์ใหม่
แน่นอนครับแผนการชีวิตต่าง
ๆ ที่เคยวางไว้ถูกลบขจัดออกไปจากความนึกคิด แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้ผมเองกลับมีเวลาส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น
มีสิ่งสำคัญก่อนหลังในชีวิตที่เปลี่ยนลำดับไปจากเดิม ทรงเข้ามาพลิกฟื้นย่างก้าวในชีวิตของผม
และเมื่อผมยอมที่จะก้าวย่างไปตามที่พระเจ้าได้เปลี่ยนแปลง ชี้นำใหม่ ผมเลิกคิดที่จะกลับไปก้าวเดิมตามแผนเดิมที่ผมได้กำหนดไว้
ดังนั้น วันนี้ผมใคร่บอกกับทุกท่านว่า
ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าเมื่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเราไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราได้วางแผนการไว้
เราไว้วางใจพระเจ้าองค์นี้ได้อย่างมั่นใจ และเราสามารถเชื่อมั่นได้ว่าทุกย่างก้าวที่พระองค์กำหนดให้เราดำเนินไปนั้นเป็นย่างก้าวที่พระองค์กำหนดเพื่อสิ่งดีดีที่จะเข้ามาในชีวิตขอเรา
พระเจ้าพระบิดาของลูก
ขอบพระคุณสำหรับการทรงนำและทิศทางชีวิตที่พระองค์ชี้นำ
เพราะพระองค์คือผู้ที่กำหนดวิถีชีวิตอนาคตของลูก ลูกจึงไม่ต้องกลัวอะไรเลย ลูกชอบที่จะกำหนดเป้าหมายและฝันสำหรับอนาคต
แต่พระองค์รู้ว่าอะไรคือสิ่งดีที่สุดสำหรับลูก พระองค์คือผู้ประพันธ์ทักทอชีวิตของลูก
พระวจนะของพระองค์บอกลูกว่า
พระองค์ “วางทุกย่างก้าวของลูก” แม้เมื่อลูกคิดวางแผนชีวิตสำหรับตนเอง ลูกอาจจะกำหนดสิ่งต่าง
ๆ ที่จะทำในปฏิทิน แต่ลูกจะเปิดช่องทางสำหรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้
โปรดช่วยลูกให้สามารถที่จะรับวิถีทางของพระองค์สำหรับลูก ถึงแม้มันไม่เหมือนกับแผนการที่ลูกได้คิดวางไว้แล้วก็ตาม
หรือ พระองค์กำลังนำลูกไปในที่ลูกไม่อยากจะไป ทางของพระองค์ไม่ใช่ทางของลูก แต่ลูกไว้วางใจทางทั้งสิ้นแผนการทั้งหมดที่พระองค์ชี้นำให้ลูกไป