03 มีนาคม 2564

สัญญาณ...ผู้นำคริสตชน “ขาลง”

ลึก ๆ ในใจแล้ว  ผมเองรู้สึกลำบากใจ หรือ ลังเลใจที่จะนำเสนอข้อเขียนนี้   เพราะเกรงว่าจะมีบางลักษณะที่มีในตัวผมเอง   แต่เมื่อใคร่ครวญดูแล้ว  คงจะมีประโยชน์บ้างเพราะในยุคนี้แนวโน้มผู้นำคริสตชนที่จะมีลักษณะที่อ่อนแอแบบอยู่ในภาวะ “ขาลง” เพิ่มมากขึ้น   ซึ่งเป็นภัยอันตรายต่อตัวผู้นำเองและที่สำคัญต่อชีวิตชุมชนของคริสตจักรด้วย บุคลิกลักษณะของผู้นำคริสตชน “ขาลง”มี ดังนี้

1. เขานำด้วยกำลังของตนเอง แทนพระกำลังจากพระเจ้า

เขาอาจจะใช้คำว่า “กำลังจากพระเจ้า”  แต่โดยเนื้อแท้แล้ว เขาอยู่และนำด้วยกำลังความสามารถของเขาเอง ดังนั้น  เขาทำงานได้น้อยนิดเพราะงานที่เขารับผิดชอบไม่สามารถทำได้ด้วยกำลังความสามารถของเขาเอง

2. เขาทำการ “จัดการ” แทนที่จะ “นำ”

เขาไม่ได้แสวงหาหรือตกผลึกวิสัยทัศน์/นิมิตในงานที่ทำ เขาไม่สามารถบอกอย่างชัดเจนถึงความเชื่อของเขาว่าคริสตจักรของตน หรือ องค์กรของตนจะมีชีวิตเช่นไรในอีก 3-5 ปีข้างหน้า งานส่วนใหญ่ที่เขาทำเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประสานจัดการในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว

3. เขาอธิษฐานแบบเชิงรับ  ไม่ใช่นักอธิษฐานเชิงรุก

แท้จริงแล้ว  พวกเขามิใช่นักรบด้วยการอธิษฐาน แนวโน้มของผู้นำกลุ่มนี้มักจะเริ่มต้นด้วยการวางแผน  แล้วทูลขอพระเจ้าได้โปรดอวยพระพรแผนงานที่เขาได้กำหนด ผู้นำกลุ่มนี้ไม่ค่อยแสวงหาพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์ก่อน แล้วติดตามการทรงนำของพระเจ้า  แต่กลับขอพระเจ้ารับรองอวยพรแผนงานของเขาเอง

4. เขานำองค์กร แต่ไม่นำครอบครัวของตนเอง

พวกเขาดูเหมือนว่าเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ในคริสตจักร (เมื่อยืนอยู่บนเวที หรือ ธรรมมาสน์)  แต่ในเวลาเดียวกันเขากลับล้มเหลว หรือ สูญเสียชีวิตครอบครัวของตน  ภายนอกดูเหมือนว่า เขานำองค์กรได้ดี  แต่ในครอบครัวของเขามีแต่ความยุ่งยากโกลาหล

5. เขาเป็นนักผจญเพลิง มากกว่าผู้จุดไฟแห่งแสงสว่าง

งานส่วนใหญ่ของผู้นำกลุ่มนี้คือการตอบสนองต่อไฟปัญหาที่กำลังลุกไหม้  ผู้นำประเภทนี้จะทำงานแก้ไขรับมือความยุ่งยากเฉพาะหน้า ฐานคิดของเขาคือดับไฟปัญหาเรื่องเล็กเรื่องน้อยเพื่อไม่ให้เกิดเป็นไฟปัญหาลุกลามใหญ่โต เขามักมองหาไฟแห่งความขัดแย้งจนไม่มีเวลา โอกาส หรือกำลังที่จะใส่ใจ “จุดไฟชีวิตแห่งการนมัสการพระเจ้า” และ “ไฟแห่งชีวิตในการประกาศพระกิตติคุณ” ท่ามกลางสมาชิกในคริสตจักร

6. เขานำโดยบารมีมากกว่านำด้วยการยอมอุทิศเสียสละ

บนเวที บนธรรมมาสน์เขาดูเก่ง  แต่ในส่วนลึกแล้วไม่ว่าการพูดหรือการกระทำเป็นการ “ตายเพื่อตนเอง” “ทำเพื่อตนเอง”  ผู้นำกลุ่มนี้ชอบอยู่บนเวที แต่ไม่ชอบที่จะอยู่บนแท่นบูชา

7. เขาพูดเรื่องพระกิตติคุณในวันอาทิตย์ แต่พูดตลกโปกฮาไร้สาระ (เอเฟซัส 5:4) ในวันอื่น ๆ

ด้วยเหตุผลบางประการ  พวกเขาจะพูดคุยเป็นการส่วนตัวในรูปแบบที่พวกเขาจะไม่พูดจากธรรมาสน์

8. เขาบอกให้คนอื่นออกไปประกาศพระกิตติคุณ  แต่ตนคาดหวังว่าคนที่หลงหายจะเข้ามาหาตนเอง

ผู้นำพวกนี้จะผลักดันให้คนอื่นออกไปและเข้าถึงเพื่อนและเพื่อนบ้านของตน แต่ผู้นำพวกนี้จะประกาศพระกิตติคุณจากธรรมมาสน์ หรือ ในสำนักงานที่คริสตจักรเท่านั้น เขารอให้ผู้ที่ยังไม่เชื่อเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาตน

9. เขาเรียกร้องและสั่งสอนให้คนของตนยอมเสียสละ  ในขณะที่เขาเองยอมลงแรงแต่เพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการรับผิดชอบต่อการใช้เวลา ในขณะที่สมาชิก และ คนอื่น ๆ มีคำถามในใจว่า ผู้นำของเขาใช้เวลาอย่างไรในงานรับใช้

10. เขาไวในการตระหนักรู้เท่าทันถึงความบาปผิดของคนอื่น  แต่มักด้านชาไม่ค่อยตระหนักรู้ทันถึงความบาปผิดของตนเอง

ผู้นำกลุ่มนี้มักมองข้ามชีวิตที่ผิดพลาดของตนเอง และพวกเขาไม่ใส่ใจต่อการกระทำของตนที่คนอื่นมองเห็น ทั้งนี้อาจจะเกิดจากความหยิ่งผยอง หรือ การไม่รู้ตัว  ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายต่อภาวการณ์ผู้นำของเขา

11. พระคัมภีร์เป็นแหล่งวัตถุดิบสำหรับการเทศนาของเขา  แต่มิใช่แหล่งแห่งชีวิตของเขา

นอกจากการเตรียมคำเทศนา  ด้านท่าที อุปนิสัยทางจิตวิญญาณของพวกเขาชี้ให้เห็นว่าพระคำมีความหมายเพียงเล็กน้อยสำหรับพวกเขา  บางครั้งถูกลดทอนลงเหลือแค่ส่วนหนึ่งในการทำงานเพื่อดำรงชีพของตนเองท่านั้น?

ท่านผู้นำครับ   เรามีลักษณะเหมือนในข้อใดข้างบนนี้บ้างครับ?   ถ้ามี  ขอเราใช้เวลากับองค์พระผู้เป็นเจ้า   ขอการทรงช่วย และ ชี้นำจากพระองค์ และ

มีลักษณะใดที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเป็นผู้นำขาลงที่ไม่ได้กล่าวในที่นี้อีกบ้างไหมครับ?   เชิญแบ่งปันกันครับ!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น