การนมัสการพระเจ้า มิใช่การประกอบศาสนพิธีที่คริสตชนพึงกระทำ แต่การนมัสการพระเจ้าเป็นเรื่องของชีวิต-จิตวิญญาณที่เราสัมพันธ์ติดสนิทกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา การนมัสการยังเป็นเรื่องของชุมชน เป็นเรื่องของ “พวกเรา” มิใช่เป็นเรื่องตัวใครตัวมันเท่านั้น
ประการที่เราไม่พึงละเลยคือ ฐานเชื่อกระบวนคิด (mindset) ที่ว่า การนมัสการพระเจ้าร่วมกันในวันอาทิตย์ที่คริสตจักร
(หรือ ออนไลน์) มิใช่เรื่องในวันอาทิตย์เท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่เป็นกระบวนการต่อเนื่องกันของทุกวันในสัปดาห์
ที่เราจะต้องมีการเตรียมทั้งร่างกาย จิตใจ
ความคิดในการใคร่ครวญ
สะท้อนคิดของชีวิตตลอดสัปดาห์เพื่อการเข้าร่วมนมัสการพระเจ้าด้วยชีวิตจิตวิญญาณ
และ ความจริงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ต่อไปนี้เป็น 10 คำถาม (เบื้องต้น) ที่คริสตชนพึงถามตนเองในแต่ละวันตลอดสัปดาห์ก่อนที่จะถึงเช้าวันอาทิตย์ที่เราไปนมัสการพระเจ้าร่วมกันกับผู้เชื่อคนอื่น
ๆ
1. ฉันคาดหวังที่จะได้พบกับพระเจ้าในการนมัสการหรือไม่?
ถ้าท่านคาดหวังเช่นนั้นจริง
ๆ ความคาดหวังเช่นนี้จะเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตในวันนี้ของท่าน เมื่อคนบริสุทธิ์เข้าเฝ้าพระเจ้า พระองค์จะทรงเสริมสร้างพวกเขา
เมื่อพระองค์พบกับคนที่ไม่บริสุทธิ์พระองค์จะเผาผลาญขจัดความบาปชั่วจากคน ๆ นั้น
2. ฉันมีความบาปผิดอะไรไหมที่ขัดขวางพระราชกิจของพระวิญญาณพระเจ้าในชุมชนคริสตจักร?
แน่นอนว่าพระเจ้าทรงครอบครองเหนือสรรพสิ่งทั้งหลาย
แต่พระองค์มักเลือกที่จะไม่ทำงานผ่านผู้คนที่ไม่สำนึกในความบาปผิดของตน
แม้แต่การทำพระราชกิจที่นาซาเร็ธของพระเยซูคริสต์ก็กระทำอย่างจำกัดเพราะคนที่นั่นไม่เชื่อ
(มาระโก 6:5)
3. ฉันได้มีการทุ่มเทมุ่งมั่นอธิษฐานอย่างจริงจังตลอดสัปดาห์นี้สำหรับการไปนมัสการพระองค์ในวันอาทิตย์นี้หรือไม่?
ถ้าไม่... พระเจ้าอาจจำเป็นขจัดการพึ่งพิงตนเองของท่าน เพื่อนำท่านให้เข้าสู่การเริ่มต้นนมัสการพระองค์ด้วยจิตใจ-จิตวิญญาณของท่าน
4. ฉันหวังว่าจะไม่ต้องพบกับใครบางคนที่คริสตจักรในวันอาทิตย์นี้หรือไม่?
ถามตรง ๆ เถอะ... มีใครบางคนที่ท่านมีความขัดแย้ง
ไม่ลงรอยกับเขา ที่ท่านคาดหวังว่าจะไม่ต้องพบคน ๆ นั้นในวันอาทิตย์นี้หรือเปล่า?
5. มีใครที่ฉันรู้ว่าจะมาร่วมกับเราในวันอาทิตย์นี้เพราะฉันได้เชิญเขามาร่วมด้วยหรือไม่?
ถ้าคำตอบคือ “มี” ก็เป็นการดียิ่ง ให้ท่านอธิษฐานเพื่อคน ๆ นั้น แต่ถ้าคำตอบคือ
“ไม่” ก็เป็นคำตอบที่ฟ้องกระตุ้นสำนึกของเราว่า
เราไม่ได้ทำหน้าที่ที่ดีและเหมาะสมกับการเป็นสาวกพระคริสต์
6. ฉันได้เสียสละมอบถวายเพื่อหนุนเสริมพระราชกิจของพระเจ้าหรือไม่?
ท่านได้ถวายเงินทอง เวลา ตะลันต์
ความสามารถ พรสวรรค์ให้เป็นการนมัสการพระองค์หรือเปล่า? ขอหนุนเสริมสาวกพระคริสต์ทุกคนที่จะถวายทั้งสิ้นแด่พระเจ้า
“จนกระทั่งได้รับความรู้สึกเจ็บปวด” ไม่มีสิ่งใดที่เรามอบถวายแด่พระองค์จะไปเปรียบเทียบได้กับสิ่งที่พระเจ้าได้ประทานแก่เรา
7. ฉันได้เตรียมตัวอย่างดีในการที่จะฟังการเทศนาหรือไม่?
บางครั้งเราต้องปล้ำสู้
พยายามเข้าถึง หรือรู้สึกไม่อิ่มอกอิ่มใจกับคำเทศนา (อาจจะด้วยเหตุผลหลากหลายประการ)
แต่ถ้าท่านมิได้คิดเตรียมตัวไว้ในใจสำหรับการฟังเทศนา เราก็จะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างที่พระเจ้าประสงค์ให้สำหรับเรา
8. ฉันได้อธิษฐานเผื่อผู้ที่จะเทศนาในสัปดาห์นี้หรือไม่?
ถ้าเราไม่ได้อธิษฐานเผื่อผู้เทศนาก็เป็นเหมือนเราปล่อยให้ผู้เทศนาต่อสู้กับจิตวิญญาณชั่วร้ายด้วยตัวเปล่าเปลือย
ไร้อาวุธ และ เครื่องป้องกันตน
ถ้าเช่นนั้นเราก็ไม่มีสิทธิบ่นว่าผู้เทศน์อย่างในข้อ 7 ข้างต้น เพราะเราไม่ได้อธิษฐานเผื่อผู้เทศน์เลย
9. ถ้าพระเจ้าเคลื่อนไหวอย่างมีพลังในชีวิตของฉัน
อย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ฉันจะบอกว่า “ไม่ใช่ตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ หรือไม่?
เรารู้แล้วว่า พระเจ้ามักเข้ามาแทรกแซงแผนงานชีวิตของเรา
เปลี่ยนความใฝ่ฝันของเรา เปลี่ยนแปลงเป้าหมายในชีวิตของเรา
แม้กระทั่งเปลี่ยนย้ายจุดยืนของเรา การนมัสการพระเจ้าอย่างแท้จริง ผู้นมัสการต้องวางชีวิตของตน
“บนแท่นบูชา” เป็นสิ่งแรก คือมอบกายถวายชีวิตทั้งสิ้นให้เป็นไปน้ำพระทัยของพระองค์
10. ฉันมีความคิดว่าไม่มีสิ่งใดที่จะเปลี่ยนแปลงหลังการนมัสการพระเจ้าในสัปดาห์นี้ใช่หรือไม่?
(ให้เราตอบข้อนี้ด้วยความจริงใจ)
ผมเกรงว่าหลายท่านจะตอบว่า
“ใช่” ขอพระเจ้าโปรดเปลี่ยนจิตใจของเรา ถ้าเราตอบเช่นนั้นจริง
ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น