ในขณะที่เราใส่ใจเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
และหาโอกาสในการออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อจะมีร่างกายที่แข็งแรง ถึงแม้จะมิได้ใส่ใจ
100% ทุกครั้งเสมอไป แต่โดยภาพรวมแล้วคนส่วนมากใส่ใจเรื่องสุขภาพของตน แต่ในเวลาเดียวกัน
เรากลับไม่ค่อยให้ความใส่ใจว่าจะเลี้ยงดูความคิดของเราด้วยอะไรและอย่างไรที่จะทำให้เรามีความนึกคิด
จิตใจ มุมมองที่แข็งแรง และความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณ
สิ่งที่เราป้อนเข้าไปในความนึกคิดของเรา
คือสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดความคิด และวิธีการคิด ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคลิกและพฤติกรรมชีวิตของเรา
ถ้าคริสตชนรับเอาฐานเชื่อ-กรอบคิด
ที่มาจากพระวจนะของพระเจ้า มุมมอง การตัดสินใจ พฤติกรรมชีวิต และบุคลิกภาพย่อมส่อสื่อออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมในทางความคิด
คำพูด และ พฤติกรรมชีวิตด้านต่าง ๆ ที่เป็นไปตามพระวจนะของพระเจ้า เราสามารถกล่าวได้ว่า
เรากำลังเลี้ยงดู บ่มเพาะ ฟูมฟัก และ หล่อหลอมความนึกคิดของเราด้วยพระวจนะของพระเจ้า
ความคิดเปลี่ยน
ชีวิตเปลี่ยน
ในวัฒนธรรมสังคมที่เรามีชีวิตอยู่
“ความดี มีศีลธรรม และ
หลักการที่ได้รับการยอมรับ” ดูจะแตกต่างห่างไกลไปจากสัจจะความจริงในพระวจนะของพระเจ้า
แต่เมื่อใครก็ตามที่อ่าน ศึกษา ค้นหา และ นำชีวิตของตนเข้าไปในแนวทางชีวิตตามสัจจะความจริงของพระเจ้าในพระวจนะ
ความนึกคิดของคน ๆ นั้นเริ่มซึมซับเอาสัจจะความจริงจากพระวจนะ และสัจจะจากพระวจนะนั้นได้แผ่ซ่านแทรกซึมเข้าในความนึกคิด
ความนึกคิดของคน ๆ นั้นเริ่มรับอิทธิพลหรือพลังสัจจะของพระวจนะเข้าไปเปลี่ยนแปลงฐานเชื่อกรอบคิด
กระบวนการคิดของเขา ย่อมทำให้มุมมองโลกทัศน์ และ
บุคลิกภาพของคนๆนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง กระบวนการคิด และ
การตัดสินใจดำเนินไปตามแนวทางใหม่ตามอิทธิพลของสัจจะความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า และพฤติกรรมชีวิตคนๆนั้นจะเปลี่ยนแปลงตามมาอย่างเป็นรูปธรรม
จนคนรอบข้างสังเกตเห็นได้ชัดเจน
พระวจนะของพระเจ้าได้แสดงวิถีทางที่มีความสัมพันธ์ระหว่าง
“วิถีคิดของเรา” และ “โลกทัศน์ของเรา” กับ สุขภาวะทางจิตวิญญาณ หรือ
ความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของเรา
เปาโลกล่าวว่า “[2] อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้
แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่
เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย
และอะไรดียอดเยี่ยม (สมบูรณ์พร้อม)” (โรม
12:2 มตฐ. ในวงเล็บสำนวน อมธ.)
ภาษากรีกคำว่า
“เปลี่ยนแปลง” ที่ใช้ในพระธรรมข้อนี้ มีความหมายว่า
“การปรับเปลี่ยนความคิดทางศีลธรรมและวิสัยทัศน์ทางจิตวิญญาณ และ
ความคิดให้เป็นไปตามความคิดในพระวจนะของพระเจ้า
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตทั้งชีวิต”
เมื่อเราศึกษาพระวจนะของพระเจ้า
อิทธิพลสัจจะความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าจะปรับเปลี่ยนวิถีและวิธีการคิดของเราใหม่ให้มีวิถีและวิธีคิดไปในแนวทางเดียวที่สอดคล้องกับสัจจะแห่งพระวจนะพระเจ้า
เมื่อเราได้รับการปรับเปลี่ยนวิถีและวิธีการคิดแล้ว พระวิญญาณของพระเจ้าจะปรับเปลี่ยนทัศนะมุมมองของเรา
แรงจูงใจในชีวิต
และพฤติกรรมชีวิตของเราให้สอดคล้องตามแบบอย่างในชีวิตของพระคริสต์
แล้วเราเอาอะไรเลี้ยงดูความคิดของเรา?
พระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของเรา
(ทิตัส 3:5) และเราสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ด้วยการ “เลี้ยงดู”
ความนึกคิดของเราด้วยสัจจะความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า ให้เราทูลขอพระเจ้าโปรดสำแดงให้เราเห็นว่า
ความนึกคิดของเราได้หลงเจิ่นออกนอกวิถีทางแห่งสัจจะความจริงของพระองค์อย่างไร ทูลขอให้พระองค์โปรดพลิกฟื้นความนึกคิดของเราขึ้นใหม่
และฟื้นฟูความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของเรา และให้เราร่วมในพระราชกิจการทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในครั้งนี้
ด้วย “การเปลี่ยนแปลงชีวิตเชิงปฏิบัติ” ของเรา
พระวจนะของพระเจ้าบอกเราให้คิด...ในสิ่งที่เป็นจริง
สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ
รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง (ฟีลิปปี 4:8 มตฐ.) และนี่คือ
คุณลักษณะต่าง ๆ ที่พระวจนะของพระเจ้าบ่งชี้ชัดว่า เมื่อเรานึกคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราควรมีการคิดที่มีคุณลักษณะอย่างไรบ้าง
เลี้ยงความคิดของเราด้วยอาหารสุขภาพทางจิตวิญญาณ
ให้เราเริ่ม
“พลิกฟื้นความนึกคิดจิตวิญญาณของเรา” บางท่านบอกว่าแล้วจะให้เริ่มต้นอย่างไร? มีหนทาง วิธีในการเลี้ยงดู
ฟื้นฟูความนึกคิดจิตวิญญาณของเรามากมายด้วยสัจจะความจริงในพระวจนะของพระเจ้า ในที่นี้ขอประมวลวิธีการเป็นภาพรวมภาพใหญ่
ดังนี้
[#1] “อ่าน”
พระวจนะของพระเจ้าเป็นประจำ
[#2] “ฟัง” พระวจนะของพระเจ้า (ฟังเทศนา รายการพระวจนะพระเจ้าทางวิทยุ/โทรทัศน์/รายการออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต
หรือ ฟังเทปเกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า)
[#3] “จำ” พระวจนะของพระเจ้า
จดจำ ท่องจำ สะสมพระวจนะของพระเจ้าในความนึกคิดจิตใจของเรา
[#4] “ภาวนา-ไต่ตรอง” พระวจนะของพระเจ้า
ใคร่ครวญพระวจนะแสวงหาการทรงสำแดงจากพระเจ้าผ่านการไตร่ตรองพระวจนะของพระองค์
[#5] “ร่วม” ในกลุ่มศึกษาพระวจนะ
ทั้งกลุ่มที่พบกันหน้าต่อหน้า หรือ กลุ่มศึกษาพระวจนะพระเจ้าทางออนไลน์ร่วมกัน
[#6] “ฟังเพลง”
เปิดเพลงนมัสการ หรือ เพลงสรรเสริญจากเทป/ออนไลน์ฟังขณะทำงาน พักผ่อน หรือ
กำลังขับรถยนต์
ในการปรับเปลี่ยน
พลิกฟื้น
ความนึกคิดของเราใหม่ให้สอดคล้องกับสัจจะความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เวลา
ความอดทนกับตนเอง ถึงแม้การเปลี่ยนแปลง-พัฒนาทางร่างกายยังต้องออกกำลัง การทุ่มเท ความอดทน และเวลา การเปลี่ยนแปลงพลิกฟื้นความนึกคิดและจิตวิญญาณของเราไม่สามารถทำได้ให้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน
ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงนี้เราไม่สามารถกระทำได้ด้วยตนเองเท่านั้น แต่เราต้องพึ่งในพระกำลังของพระเจ้า
และการทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา และ การที่พระเจ้าทรงใช้คริสตชนบางคนเข้ามาช่วยเสริมหนุนเราให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟื้นในความนึกคิดและจิตวิญญาณ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499