หลายต่อหลายศาสนาสอนให้คน
“หลีกเลี่ยง หลีกหนี” สอนให้หาทางออกจากความทุกข์ แต่พระเยซูคริสต์สอนและมีชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่
“หันหน้าเข้าไปและรับมือกับความทุกข์” แปลกยิ่งกว่านั้น
“หันหน้าเข้าไปรับมือกับความทุกข์ยากที่มิใช่ความทุกข์ของตนเองแต่เพื่อคนอื่น”
ความเชื่อจริงแท้ตามพระคัมภีร์
นอกจากความเชื่อต้องมีความเชื่อเชิงปฏิบัติแล้ว ยังเป็นความเชื่อมิใช่เพื่อตนเองเท่านั้น
แต่เป็นความเชื่อที่มุ่งเข้าหาสถานการณ์ที่สับสน ยุ่งยากของคนอื่นเพื่อรับมือ
ช่วยเหลือ ให้กำลังใจ สนับสนุน
และรับใช้คนเหล่านั้น
ความเชื่อที่จริงแท้คือความเชื่อที่ขับเคลื่อนตอบสนองปัญหา
วิกฤติ ที่เกิดขึ้นรอบข้างให้ได้รับการเปลี่ยนแปลง และเสริมสร้างให้เกิดชีวิตใหม่ ความหวังใหม่
และ สถานการณ์ใหม่
[14]
พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ
แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร? ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ?
(ยากอบ 2:14 มตฐ.)
แล้วยากอบได้กล่าวยกตัวอย่างให้เห็นชัดว่า
[15]
ถ้าพี่น้องชายหญิงคนไหนขาดแคลนเสื้อผ้าและอาหารประจำวัน [16] แล้วมีใครในพวกท่านกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า
“ขอให้กลับไปอย่างเป็นสุข ให้อบอุ่น และอิ่มหนำสำราญเถิด”
แต่ไม่ได้ให้สิ่งจำเป็นฝ่ายกายแก่พวกเขา จะมีประโยชน์อะไร? (ข้อ 15-17 มตฐ.)
ยากอบมิได้บอกกับเราว่า
ความเชื่อของเราควรจะเป็นความเชื่อเชิงปฏิบัติ หรือ ต้องเป็นความเชื่อที่มีการกระทำเท่านั้น
แต่ได้ยกตัวอย่างชัดเจนว่า ความเชื่อทำอะไรอย่างไรด้วย
ความเชื่อสำหรับคริสตชนในการทำอาชีพการงานในแต่ละวัน
มิใช่ให้เราทำงานจนครบเวลากำหนด เพื่อรับค่าแรง
กลับบ้าน แล้วซุกตัวในมุมที่ปลอดภัยเท่านั้น แต่ความเชื่อมองหาโอกาสที่เราจะเข้าไปร่วมในความทุกข์ยากเจ็บปวดของคนอื่น
ๆ เพื่ออภิบาลดูแลชีวิตของคนนั้น เพื่อที่จะ “ให้” จะ “ช่วย” และจะ “รับใช้” เขา
ความเชื่อเมื่อเห็นสิ่งที่เป็นปัญหาจะเข้าไปรับมือกับปัญหานั้น
ความเชื่อที่จริงแท้คือความเชื่อที่เห็นประเด็นวิกฤติในชีวิตของเพื่อนมนุษย์จะไม่ยอมนิ่งเฉย
ความเชื่อที่จริงแท้จะเข้าไปเกี่ยวข้องรับมือกับความยุ่งยากในชีวิตที่ฉีกขาดของผู้คนที่อาจจะมีความเชื่อหรือไม่ก็ตาม
ดังนั้น ความเชื่อที่จริงแท้เป็นความเชื่อที่มีปฏิกิริยาขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่กำลังผิดเพี้ยน
ฉีกขาด ทุกข์ยาก มีปัญหา เพื่อที่จะช่วยเหลือ รับใช้ ในประเด็นชีวิตที่คน ๆ นั้น
หรือ เหล่านั้นกำลังประสบ
คำถามคือ แล้วความเชื่อของเราทำงานอย่างที่กล่าวมานี้หรือไม่? ความเชื่อของเราขับเคลื่อนมุ่งหน้าเข้าหาสถานการณ์ความยุ่งยากหรือเปล่า? เราแต่ละคนต้องตอบคำถามนี้ เมื่อใครบางคนที่ชีวิตกำลังเผชิญกับประเด็นปัญหา
และต้องแบกรับกับปัญหานั้นโดยที่เราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แล้วเขาเปิดเผยแก่เราถึงสถานการณ์เลวร้ายที่เขากำลังประสบ
หรือ กำลังมีประเด็นปัญหาในเรื่องสุขภาพ หรือมีประเด็นปัญหาบางเรื่องในครอบครัว แล้วเราจะทำอะไร อย่างไร ในเวลาเช่นนั้น? เราจะนิ่งเงียบต่อสิ่งที่รับรู้ โดยหวังว่าเรื่องต่าง ๆ จะจบลงด้วยดีในที่สุดเช่นนั้นหรือ?
หรือ เราจะตัดสินใจว่า
เราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือในเรื่องนั้นไหม? เราจะเข้าไปให้กำลังใจพวกเขา
เราจะเข้าไปช่วยเขา เราจะให้อะไรบางอย่างแก่เขา เราจะเคียงข้างไปกับเขาให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันไหม?
เราจะเดินเลี่ยงออกไปอีกทางหนึ่ง
หรือ เดินเข้าไปหาสถานการณ์ที่ยุ่งยากลำบากนั้น?
แต่สำหรับความเชื่อที่จริงแท้จะมุ่งเข้าไปในสถานการณ์ยุ่งยากนั้น
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น