ในโอกาสที่เรากลับมาร่วมกันในคริสตจักรอีกครั้งหนึ่ง
เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะต้องกลับมาใคร่ครวญว่า คริสตจักรของเราตั้งอยู่เพื่ออะไร? ทำไมเราต้องมาร่วมกันที่คริสตจักร?
เมื่อกล่าวถึง
“คริสตจักร” หลายคนมักคิดถึง การที่ผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์มาชุมนุม พบปะ รวมตัว
และทำกิจกรรม หรือประกอบพิธีกรรมร่วมกัน และอาจจะมีการพูดคุย
ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา เรียนรู้เรื่องราวเนื้อหาในพระคัมภีร์ ฟังเทศนา อธิษฐานเผื่อกัน บางคริสตจักรมีการรับประทานอาหารร่วมกัน
บางแห่งบางโอกาสมีการช่วยเหลือเกื้อหนุนกัน
นี่เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น
แต่ขอถามต่อว่า เป็นจุดประสงค์ที่เราตั้งคริสตจักรขึ้นใช่ไหม? ทำแค่นี้พอไหมครับ? ที่กล่าวข้างบนนี้
เป็นลักษณะชุมชนคริสตจักรบนรากฐานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ใช่ไหม? เป็นชุมชนผู้เชื่อที่พระเยซูคริสต์ประสงค์ให้เป็นใช่หรือไม่?
ก่อนที่จะถามว่า
“คริสตจักร” และ “สามัคคีธรรมในคริสตจักร” ควรมีลักษณะอย่างไร? เราจะต้องถามคำถามสำคัญคือ
“ทำไมจึงต้องมีคริสตจักร?” หรือ “มีคริสตจักรไปเพื่ออะไร? หรือ “ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นจากการที่มีการมาร่วมพบปะกันในคริสตจักร?”
จากนั้น
เราถามต่อไปว่า “ถ้าเช่นนั้น ชุมชนคริสตจักรจะต้องทำอะไร ทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะไปให้ถึงสิ่งที่เราต้องการให้เกิดขึ้น?” มีวิธีการและกระบวนการอย่างไรที่จะช่วยให้คริสตจักรสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย?” “จะต้องทำแก่ใคร และ
ใครเป็นผู้ทำ?” เมื่อใด? เวลาใดบ้าง?
ใคร
หรือ อะไรคือตัวหลักในการขับเคลื่อนชีวิตคริสตจักรให้ไปสู่เป้าหมาย? ใครคือตัวหลักในการขับเคลื่อนให้เกิดสิ่งที่ประสงค์ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม? แล้วทำอย่างไรที่จะช่วยให้ “ตัวหลัก”
ที่ต้องขับเคลื่อนเหล่านั้นสามารถขับเคลื่อนชีวิตและกระบวนการพันธกิจคริสตจักรอย่างมีพลังและประสิทธิภาพ?
เราย้อนคิดใคร่ครวญถึงประสบการณ์ในอดีตว่า
อะไรที่มีคุณค่าและความหมายที่ทำให้เราเกิดการรวมตัวกันเป็นชุมชนคริสตจักร? อะไรที่ทำให้เราท่านต้องมาร่วมกัน? อาจจะเกิดจากมีงานบางอย่างที่เราต้องทำ หรือเพราะมีกฎเกณฑ์ข้อบังคับขององค์กรที่เราจะต้องปฏิบัติตาม
หรือเพราะมีเหตุการณ์วิกฤติฉุกเฉินที่ทำให้เราต้องมาร่วมกัน
หรืออาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่ทำให้เราต้องมารวมตัวกัน หรือเรามาร่วมกันเพราะความเคยชิน
หรือเพราะเรามีนิมิต/วิสัยทัศน์ก็เป็นไปได้
คำถามคือ...
อะไรที่ทำให้เรามาร่วมกันเป็นชุมชนคริสตจักร?
ถ้าเราอ่านในพระคัมภีร์อย่างใคร่ครวญ
เราพบว่า เพราะชุมชนคริสตจักรมีพันธกิจที่สำคัญยิ่งจะต้องทำ พวกเขาจึงต้องมารวมตัวกัน
กล่าวคือการรวมตัวพบปะของชุมชนผู้เชื่อมิใช่เป็น “เป้าหมาย”
แต่การพบปะรวมตัวกันเป็นวิธีการและกระบวนการที่จะนำและขับเคลื่อนคริสตจักรให้บรรลุ
“เป้าหมาย”
สมาชิกผู้เชื่อในพระเยซูทุกคนได้รับการทรงเรียก
และ ได้รับพระบัญชาจากพระเยซูคริสต์ให้สานต่อพระราชกิจของพระองค์
ที่พระองค์ได้เริ่มต้นไว้นั้น เพราะผู้เชื่อพระเยซูคริสต์ต้องการทำตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ให้สำเร็จ
และ เกิดผลเป็นรูปธรรมตามพระประสงค์ พวกเขาจึงมารวมตัวพบปะกันที่คริสตจักร เพื่อ...
[1]
เป็นชุมชนที่บ่มเพาะ ฟูมฟัก ทุกชีวิตในชุมชนคริสตจักรมีชีวิตประจำวันที่เป็น
“สาวกพระคริสต์” ที่ดำเนินชีวิตในประจำวันให้เป็นอย่างพระคริสต์มากขึ้นทุกวัน
[2]
การมาร่วมกันในคริสตจักรเพื่อเสริมสร้างทุกคนให้สามารถสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์ในชีวิตประวันของตน
ทั้งในครอบครัว ชุมชนคนข้างบ้าน ในที่ทำงาน และในชุมชนที่ตนอาศัยอยู่
[3]
การมาร่วมกันในคริสตจักรเพื่อที่จะติดตามหนุนเสริมให้สมาชิกที่มีชีวิตสาวกพระคริสต์ที่สมบูรณ์ขึ้น
เพื่อเสริมสร้างชุมชนแห่งแผ่นดินของพระเจ้าร่วมกันในคริสตจักร ที่ทุกคนจะเรียนรู้และมีประสบการณ์ตรงว่าคุณภาพชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้านั้นเป็นเช่นไร
และ สามารถนำประสบการณ์ตรงและตัวแบบคุณภาพชีวิตแห่งแผ่นดินของพระเจ้าที่ได้รับ ไปขยายและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตแผ่นดินของพระเจ้าในครอบครัวของตน
ในที่ทำงาน และในชุมชนที่ตนอยู่อาศัย อันเป็นการขยายแผ่นดินของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกตามพระประสงค์ของพระคริสต์
[4]
เป็นชุมชนที่มาพบปะและร่วมกันเพื่อสรรเสริญ ขอบพระคุณพระเจ้าที่มีพระคุณในชีวิตของตน
เป็นที่ที่ผู้เชื่อทุกคนจะสารภาพความบาปผิดต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นที่ที่ทุกคนจะเรียนรู้น้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระเจ้า
และเป็นที่ที่เตรียมเสริมเพิ่มพลังชีวิตจิตวิญญาณที่จะเข้าไปดำเนินชีวิตในสังคมโลกเพื่อสำแดงพระคริสต์ตลอดสัปดาห์ข้างหน้า
[5]
เป็นชุมชนที่เปิดกว้างต้อนรับคนต่าง ๆ หลากหลายให้เข้าร่วมเป็นพี่น้องในพระคริสต์ และเริ่มกระบวนการบ่มเพาะ
เสริมสร้าง และ
หนุนและเสริมสร้างให้พี่น้องที่เข้ามาใหม่แต่ละคนเป็นสาวกพระคริสต์ที่มีประสิทธิภาพต่อไป
[6]
เป็นชุมชนที่ร่วมกันตั้งคริสตจักรที่มีสาวกพระคริสต์ในพื้นที่ต่าง ๆ
ที่ขยายกว้างออกไป เพื่อแผ่อิทธิพลแห่งแผ่นดินของพระเจ้าครอบคลุมและครอบครองพื้นที่ต่าง
ๆ ในสังคมโลก
จุดประสงค์หลักของการมาร่วมกันในคริสตจักร
เพื่อบ่มเพาะ เสริมสร้าง ให้ทุกคนมีชีวิตที่ “เป็นสาวกพระคริสต์” คือการดำเนินชีวิตตามแบบพระคริสต์ และ
กระทำตามการทรงเรียกและพระบัญชาของพระองค์ ด้วยการสำแดงความรักเมตตาที่เสียสละแบบพระองค์แก่ทุกคนรอบข้างที่เราไปสัมผัสและสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน
เพื่อนำคนเหล่านั้นให้รู้จักพระคริสต์ มีประสบการณ์ตรงกับพระองค์ และ รับเชื่อ
มอบกายถวายชีวิตแด่พระคริสต์ เข้ามาร่วมชีวิตในชุมชนคริสตจักร และผ่านกระบวนการเปลี่ยนแปลง
เสริมสร้าง ให้มีชีวิต “เป็นสาวกพระคริสต์”
ดังนั้น
เป้าหมาย แก่นหลัก หรือ หัวใจของการมาร่วมกันเป็นคริสตจักรคือ
การเสริมสร้างชีวิตของแต่ละคนให้มีชีวิตที่เป็น “สาวกพระคริสต์” การมาร่วมกันทำกิจกรรมต่าง
ๆ และความสัมพันธ์ที่แต่ละคนมีต่อกัน เป็นเครื่องมือ แนวทาง วิธีการที่เราใช้ในการเสริมสร้าง
“สาวกพระคริสต์” ที่มีชีวิตประจำวันตามการทรงเรียกและพระบัญชาต่อไป
การชี้วัดการเกิดผลของคริสตจักร
จึงมิใช่วัดกันเพียงว่า มีกี่คนมารับเชื่อใหม่ ตั้งคริสตจักรใหม่กี่แห่ง แต่เราวัดการเกิดผลของคริสตจักรว่า
ได้เสริมสร้างสาวกพระคริสต์ที่มีชีวิตประจำวันตามการทรงเรียก และ
ตามพระบัญชาของพระคริสต์หรือไม่ และสาวกพระคริสต์เหล่านี้เกิดผลตามพระประสงค์ของพระคริสต์หรือเปล่า?
ถ้าเราสร้างสาวกพระคริสต์
เราจะได้ทั้งสาวกและคริสตจักร
แต่ถ้าเราสร้างคริสตจักร
เราจะได้คริสตจักรที่ "อาจจะ" ไม่มีสาวกพระคริสต์!?
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499