ท่านกล้าที่จะมองไปในดวงตาของปรปักษ์ เพื่อที่จะเห็นถึงความโกรธ เกลียด และความมุ่งร้ายหวังทำลายท่านหรือไม่? เราจะมีความกล้าในการเผชิญหน้ากับศัตรูได้อย่างไร?
พระธรรมกิจการ 14:19-22 เป็นเรื่องราวของเปาโลเมื่อท่านต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มุ่งทำลายท่าน
“แล้วพวกยิวบางคนมาจากเมืองอันทิโอกและเมืองอิโคนียูม และชักจูงฝูงชนให้มาเป็นพวกตนได้สำเร็จ พวกเขาเอาหินขว้างเปาโลและลากออกนอกเมืองเพราะคิดว่าเขาตายแล้ว แต่หลังจากที่เหล่าสาวกเข้ามาห้อมล้อมเขา เปาโลก็ลุกขึ้นและกลับเข้าไปในเมือง วันรุ่งขึ้นเขากับบารนาบัสก็ออกเดินทางไปเมืองเดอร์บี
พวกเขาประกาศข่าวประเสริฐในเมืองนั้นและมีคนมากมายมาเป็นสาวก จากนั้นพวกเขากลับไปยังเมืองลิสตรา เมืองอิโคนียูม และเมืองอันทิโอก เพื่อช่วยให้พวกสาวกเข้มแข็งขึ้น และให้กำลังใจพวกเขาให้สัตย์ซื่อมั่นคงในความเชื่อ พวกเขากล่าวว่า ‘เราต้องเผชิญหน้าความยากลำบากมากมายเพื่อเข้าอาณาจักรของพระเจ้า’” (อมตธรรม)
พวกผู้นำศาสนายิวทั้งเกลียดและเคียดแค้นเปาโล ที่ครั้งหนึ่งเคยยืนหยัดปกป้องศาสนายิว และมุ่งหน้าตั้งตาทำลายลัทธิความเชื่อใหม่ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ แต่พวกเขาต้องโกรธแค้นอย่างมากเพราะเปาโลคือผู้ทรยศหักหลังพวกเขา กลับไปประกาศเผยแพร่ลัทธิความเชื่อใหม่ที่เป็นคู่แข่งศาสนายิว และเป็นภัยคุกคามศาสนายิวที่พวกตนเชื่อถือ ดังนั้น จึงเห็นว่ามีทางเดียวคือการขจัดเปาโลที่เป็นเสี้ยนหนามของศาสนายิวเสีย ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ปลอดภัย และสงบสุข
เปาโล เคยเข้าไปประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ในเมืองอิโคนียูม และอันทิโอก จนมีผู้เชื่อถวายตัวเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ ดังนั้น คนยิวกลุ่มนี้เมื่อรู้ว่าเปาโลและบารนาบัสทำการประกาศที่เมืองลิสตราและเดอร์บี พวกเขาจึงเดินทางมาจากอิโคนียูม และอันทิโอกเพื่อจะมาลอบทำร้ายทั้งสองคน ด้วยการชักจูงฝูงชนให้เป็นพวกของตน แล้วเอาหินขว้างเปาโลจนหมดสติ เมื่อคิดว่าเปาโลตายแล้ว จึงลากไปทิ้งที่นอกเมือง
ในชีวิตการทำงาน และ การอยู่ในชุมชน ท่านเคยพบกับบางคนบางพวกที่เกลียดเคียดแค้นท่านหรือไม่? อาจจะเป็นเพราะการกระทำของท่านไปขัดผลประโยชน์ของเขา หรือไปขวางทางประโยชน์ของเขา หรือไปสร้างอำนาจบารมีเหนือเขา ท่านต้องเผชิญศัตรูในคณะกรรมการที่ท่านทำงานด้วย หรือ ธรรมกิจในคริสตจักรหรือไม่? พวกเขาหาทางที่ต่อต้านกำจัดท่านให้ออกไปจากกรรมการนั้น องค์กรนั้น หรือคริสตจักรนั้นหรือไม่?
ถึงแม้เปาโลจะกระทำในสิ่งดีสิ่งถูกต้อง แต่สิ่งที่เปาโลได้รับคือ “ถูกหินขว้าง” จนหมดสติ จนคนคิดว่าเปาโลตายแล้ว คนๆ นี้หมดฤทธิ์สิ้นเดชแล้ว พวกเขาคิดว่าพวกเขาชนะแล้วแก้ปัญหาได้แล้ว ด้วยการขจัดคนที่เป็นเสี้ยนหนามออกจากเมืองของเขา องค์กรของเขา หน่วยงานของเขา คริสตจักรของเขา
ในขณะที่เปาโลเชื่อว่า เขาต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำสิ่งที่เป็นพระประสงค์ และ การทรงเรียกของพระคริสต์ เขาทุ่มเททุกอย่างในชีวิตเพื่อตอบสนองการทรงเรียกของพระคริสต์ แต่ผู้นำศาสนายิวกลับมองว่า การกระทำทั้งสิ้นของเปาโลเป็นภัยคุกคามทำร้ายทำลายศาสนายิว ดังนั้น พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางที่จะขจัดคนที่เป็นพิษภัยต่อองค์กรศาสนายิวที่พวกเขาศรัทธาและเทิดทูนให้ไปจากแผ่นดิน
ผมใคร่ชักชวนให้พวกเราพิจารณาเกี่ยวกับประเด็นนี้คือ เมื่อพวกยิวเห็นว่าใครเป็นตัวปัญหาในองค์กรของตน วิธีแก้ปัญหาคือ การขจัดคนๆ นั้นออกไปจากองค์กรของตน เมื่อเขามองว่าพระเยซูคริสต์เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อศรัทธาและสั่งสอน เขาหาทางกล่าวร้ายจนตรึงพระเยซูที่กางเขน เพราะคิดว่าถ้าขจัดพระเยซูออกไปได้แล้ว ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้ องค์กรศาสนายิวก็จะมั่นคงปลอดภัย แต่ผลตามมาไม่เป็นอย่างที่พวกผู้นำศาสนายิวคาดคิด! แต่เขากลับพบว่า สาวกที่พวกเขาคิดว่าเป็นคนสามัญธรรมดากลับกลายเป็นผู้นำที่ประชาชนเชื่อศรัทธา และก็มีผู้นำคนใหม่เกิดขึ้นมาอีกไม่ขาดสาย เขาคนนั้นคือเปาโล
พวกผู้นำศาสนายิวคิดอย่างเดิมอีกคือ ถ้าเขาสามารถกำจัดเปาโลให้สิ้นซาก ศาสนาลัทธิใหม่ของพระเยซูก็จะหมดสิ้น และครั้งนี้ก็พบว่า คนพวกนี้ไม่ได้เกรงกลัวความโหดเหี้ยมมุ่งร้ายของพวกเขา แต่กลับกล้าหาญในการประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ การแก้ปัญหาด้วยการกำจัดคนที่ไม่พึงประสงค์มิใช่หนทางการแก้ปัญหาที่เกิดผลเลย
ทุกวันนี้ พวกเรา คริสตจักร องค์กร หน่วยงาน สถาบันคริสตชนได้ใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างผู้นำศาสนายิวในสมัยเปาโลหรือไม่? ถ้ายังใช้อยู่ผลเป็นอย่างไรบ้างครับ?
สิ่งใดที่เป็นแผนการของพระเจ้า ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะขจัดขัดขวางได้สำเร็จ เมื่อเหล่าสาวกห้อมล้อมเปาโล เขาก็ฟื้นและลุกขึ้นเข้าเมืองเตรียมตัว วันรุ่งขึ้นเดินทางออกจากเดอร์บีไปพร้อมกับบารนาบัส เพื่อทำพันธกิจตามพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ น่าสังเกตว่า ทั้งเปาโลและบารนาบัสถึงแม้จะไม่พยายามเผชิญหน้ากับกลุ่มยิวที่มุ่งทำร้ายเปาโล แต่เขาทั้งสองก็มิได้เกรงกลัวคนพวกนี้ ทั้งสองกลับเดินทางไปยังเมืองของคนกลุ่มที่มาทำร้ายเปาโลคือที่เมือง อิโคนียูม และ อันทิโอก เพื่อให้กำลังใจแก่สาวกของพระเยซูคริสต์ในเมืองดังกล่าว
น่าสังเกตว่า พระเจ้าไม่ได้บอกให้ทั้งเปาโลและบารนาบัสให้เผชิญหน้ากับพวกยิวที่เป็นศัตรูกลุ่มนั้น แต่ตรงกันข้ามกลับให้ระมัดระวังรอบคอบ ที่จะเอาตัวรอดปลอดภัยจากเงื้อมมือของคนพวกนั้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ให้ทั้งสองหงอกลัวซ่อนตัวไม่กล้าทำอะไรเลย แต่ใช้เวลาและโอกาสที่เหมาะสมและที่ยังมีอยู่หนุนเสริมเพิ่มพลังคริสตชนในเมืองอันทิโอกให้เข้มแข็งมีกำลังใจในการมีชีวิตท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากจากการข่มเหงของพวกยิว
ในวันนี้ท่านจะเผชิญหน้าเช่นไรก็คนที่โกรธ เกลียด และมุ่งร้ายต่อท่าน หรือท่านจะเผชิญหน้ากับอิทธิพลเถื่อนในองค์กรอย่างไร? และถ้ามีคนที่มองว่าท่านเป็นคู่แข่งของเขา ท่านจะเผชิญหน้า หรือ จัดการกับสถานการณ์นั้นอย่างไร? ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแต่ความมุ่งร้ายทำลายขวัญและกำลังใจ ท่านจะหาความกล้าหาญจากที่ใดที่จะยังคงทุ่มเทและกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า?
ผมได้เรียนรู้จากเปาโลว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแต่ความมุ่งร้ายทำลายกำลังใจ ผมจะไม่พึ่งพาแรงกระตุ้นบันดาลใจของตนเอง แต่จะขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดชำระพลังกระตุ้นและแรงบันดาลใจของผมให้สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้า ด้วยการนี้เราจะเกิดพลังความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู เพราะเราเผชิญหน้าศัตรูด้วยการทรงเคียงข้างขององค์พระเยซูคริสต์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499