อ่านฟีลิปปี
4:4-13
4จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า จงชื่นชมยินดีเถิด!
5ให้ความสุภาพอ่อนโยนของท่านประจักษ์แก่คนทั้งปวง องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ใกล้แล้ว
6อย่ากระวนกระวายในเรื่องใดๆ เลย แต่จงทูลทุกสิ่งต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน
และอ้อนวอน พร้อมด้วยการขอบพระคุณ
7แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจจะปกป้องความคิดจิตใจของท่านไว้ในพระคริสต์...
10ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้ายิ่งนัก...
11...เพราะข้าพเจ้าเรียนรู้ที่จะพอใจในสิ่งที่ตนมีไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นเช่นไร
12ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่ายามขาดแคลนเป็นอย่างไร และรู้ว่ายามมีเหลือเฟือเป็นอย่างไร
ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะพอใจในสิ่งที่ตนมีในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะอิ่มหนำหรือหิวโหย มั่งมีหรือขัดสน
13ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า...
(ข้อ 4-7, 10-13 อมตธรรม)
ข้อเขียนข้างต้นของเปาโลที่เขียนถึงผู้อ่านให้ชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านเขียนขณะที่ตนกำลังถูกจำขังเป็นนักโทษ และท่านบอกกับผู้อ่านว่า
ที่ท่านสามารถมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเครื่องพันธนาการ ถูกกล่าวหากล่าวร้าย แต่กลับเป็นอิสระจากความวิตกกังวล... ท่านบอกกับผู้อ่านเฉกเช่นเราว่า เพราะท่านมีประสบการณ์
“พอใจในสิ่งที่ตนมีไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นเช่นไร” (ข้อ 11)
ท่าน “รู้จักเคล็ดลับที่จะพอใจในสิ่งที่ตนมีในทุกสถานการณ์...” (ข้อ 12) และที่ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ
เมื่อท่านเขียนข้อความเหล่านี้ท่านไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าของท่านจะเป็นเช่นไร!
น่าแปลกใจสำหรับคนในยุคนี้ ที่เรามักจะไม่พอใจแม้แต่เมื่อเรามีชีวิตอย่างดี ที่เราไม่พอใจสถานการณ์แวดล้อม เพราะเรารู้สึกว่า สถานภาพชีวิตของเรายังดีไม่พออย่างใจของเราคาดหวังใช่ไหม? ถ้าเช่นนั้นไม่ต้องไปถามถึงว่า
เมื่อชีวิตของเราต้องตกอยู่ในสภาพที่เลวร้าย ทุกข์ยากลำบาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่สามารถที่จะรู้ว่าผลที่จะเกิดขึ้นในที่สุดของเรื่องนั้นจะเป็นอย่างไร เราก็จะยิ่งวิตกกังวล เครียด
วุ่นวายใจ ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุข
แล้วเราจะพอใจในในสิ่งที่ตนมีอยู่เป็นอยู่ได้อย่างไร?
ถ้าอย่างนั้น การพอใจในสิ่งที่ตนเป็นอยู่และมีอยู่
ที่แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่?
เปาโลพูดถึงชีวิตที่หลุดรอดเป็นไทเป็นอิสระจากความกระวนกระวาย วิตกกังวล
และความว้าวุ่นสับสนในทุกสิ่งทุกเรื่องในชีวิตของเรา... ในที่นี้รวมถึงความปรารถนาของเราที่ไม่ประสบความสำเร็จด้วย!
ความจริงก็คือว่า ในเมื่อสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากสาเหตุหลากหลายรอบด้าน เราจึงไม่สามารถที่จะควบคุมกำกับ หรือ
เปลี่ยนแปลงสถานการณ์เหล่านั้นที่เกิดแก่เรา
ดังนั้น เราจึงเกิดความ
“ไม่พึงพอใจ” ต่อเหตุการณ์เหล่านั้น
แต่ที่สำคัญคือ เรากลับยอมให้ผลจากสถานการณ์เลวร้ายเหล่านั้นมาจู่โจม
ทิ่มแทง
ทำร้ายชีวิตจิตใจและความรู้สึกของเรา
เรายอมให้สถานการณ์เลวร้ายเหล่านั้นมาหลอกล่อทำลายความสุขภายในของเรา
เราเปิดชีวิตจิตใจของเราให้มันทะลวงเข้ามาทำร้ายทำลายสร้างความสับสนวุ่นวาย
จนความสงบหายไปจากในชีวิตของเรา
ทั้งสิ้นนี้มันขึ้นอยู่กับตัวเราว่า เราเลือกที่จะตอบสนองอย่างไรต่อเหตุการณ์และสถานการณ์ชีวิตที่ทุกข์ยากเลวร้าย ไม่ให้มันเข้ามากัดกินชีวิตของเรามากกว่า
นี่เป็นบทเรียนชีวิตที่เปาโลได้เรียนรู้
เปาโลต้องทนต่อสถานการณ์ที่ทุกข์ยากเลวร้าย ต้องประสบกับเรืออับปาง ประสบกับความหิวโหย ถูกจับขังอย่างอยุติธรรม และถูกเคี่ยนตีลงโทษโดยไร้ความผิด (2โครินธ์ 11:24-30)
เปาโลต้องประสบกับสถานการณ์ที่ล่อแหลมอันตรายมากมาย ต้องได้รับความเจ็บปวด ดูเหมือนชีวิตจะสิ้นหวัง
แต่ในที่สุดท่านเรียนรู้ว่าความพึงพอใจในทุกสถานการณ์ชีวิตเหล่านั้นที่ท่านประสบมิได้ขึ้นกับสถานการณ์เหล่านั้น
แต่ความพึงพอใจในทุกสถานการณ์เกิดขึ้นจากการที่เปาโลมุ่งมองไปที่พระเจ้า ไว้วางใจในแผนการและพระราชกิจที่พระเจ้าทรงกระทำในชีวิตของท่าน
และชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา
และนี่คือจุดพลิกผันจากความวิตกกังวลกลับกลายเป็นความพอใจในสถานการณ์ชีวิตที่เป็นอยู่
ในทุกวันนี้ท่านทำอย่างไร
เมื่อสถานการณ์รอบข้างอยู่เหนือการควบคุมกำกับของท่าน?
ท่านรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจหรือไม่? หรือท่านหาทางที่จะหลบหลีกไปจากสถานการณ์นั้น?
ความสิ้นหวังทำให้ท่านยอมจำนนต่อเหตุการณ์เหล่านั้นหรือเปล่า?
แต่สำหรับเปาโลแล้วท่านเลือกที่จะไว้วางใจในพระเจ้าสำหรับเหตุการณ์ที่อยู่เหนือที่ท่านจะควบคุมได้ เพื่อรับเอาสันติสุขจากพระเจ้าที่เกินความเข้าใจเข้ามาปกป้องความคิด
และ จิตใจของท่านไว้ในพระคริสต์
สันติสุขดังกล่าวจากพระคริสต์ก็พร้อมที่จะปกป้องความคิดและจิตใจของท่านในวันนี้ไว้ในพระคริสต์เช่นกันครับ
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น