05 มิถุนายน 2556

ทำไมพระคริสต์ต้องทำลายกำแพงนั้นลง?(2)

อ่าน เอเฟซัส 2:14-18

14เพราะพระองค์เองทรงเป็นสันติสุข(สันติภาพ)ของเรา   ผู้ทรงทำให้สองพวกกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน  และทรงทำลายสิ่งกีดขวางคือกำแพงแห่งความเกลียดชังที่กีดกั้นลง  

15โดยทรงล้มเลิกบทบัญญัติทั้งหมดของชาวยิว  ซึ่งประกอบด้วยข้อบังคับและกฎระเบียบต่างๆด้วยพระกายของพระองค์   จุดประสงค์ของพระองค์คือเพื่อยุบสองฝ่ายและสร้างขึ้นใหม่เป็นหนึ่งเดียวในพระองค์   เช่นนั้นแหละจึงทรงทำให้มีสันติสุข  

16และในกายเดียวกันนี้ทั้งสองพวกจึงกลับคืนดีกับพระเจ้าโดยทางกางเขน   ซึ่งพระองค์ใช้ทำลายความเป็นศัตรูกันให้หมดสิ้นไป  (ข้อ 14-16  อมตธรรม ในวงเล็บ มตฐ)

จากบทใคร่ครวญที่ผ่านมา   เราได้พิจารณาประเด็นที่ว่า “ทำไมพระคริสต์ถึงทลายกำแพงที่แบ่งแยกกีดกันระหว่างยิวกับคนต่างชาติ?”   เอเฟซัส 2:15  ได้กล่าวถึงพระประสงค์ของพระคริสต์ ประการที่หนึ่ง  ว่า   “...จุดประสงค์ของพระองค์คือเพื่อยุบสองฝ่ายและสร้างขึ้นใหม่เป็นหนึ่งเดียวในพระองค์   เช่นนั้นแหละจึงทรงทำให้มีสันติสุข”   และประการที่สองคือ  “...และในกายเดียวกันนี้ทั้งสองพวกจึงคืนดีกับพระเจ้าโดย(ทาง)ไม้กางเขน(ของพระคริสต์)...” (ข้อ 16 อมตธรรม  ในวงเล็บผู้เขียนเพิ่มเติม)  ในบทใคร่ครวญนี้จะพิจารณาจุดประสงค์ของพระคริสต์ในประการที่สอง

เมื่อเราคิดถึงเรื่องการคืนดีที่เริ่มต้นก่อตัวขึ้นจากการประทานชีวิตด้วยการยอมสิ้นพระชนม์บนกางเขนของพระคริสต์   เรามักให้ความสนใจเกี่ยวกับการคืนดีส่วนตัวของเรากับพระเจ้า   แต่พระคริสต์มิได้เพียงประสงค์ให้เรามีความสัมพันธ์ที่ดีถูกต้องกับพระเจ้าเท่านั้น   เพราะการที่เราส่วนตัวมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าแล้วก็จบแค่นั้นจะมีผลทำให้พลังอำนาจแห่งไม้กางเขนถูกจำกัดลงและจะมอดดับไปในที่สุด   แต่พระคริสต์ประสงค์ให้ส่วนตัวแต่ละคนที่คืนดีกับพระเจ้านำไปสู่การคืนดีกันและกันด้วยความรักเมตตาของพระองค์   ดังนั้น  จึงมิใช่เราเองที่สร้างการคืนดี   แต่เป็นพลังแห่งความรักเมตตาของพระคริสต์ต่างหากที่ทำให้เราคืนดีกัน   และเป็นการคืนดีที่ยั่งยืน   เพราะเป็นการคืนดีบนพันธสัญญาแห่งพระโลหิตหรือความรักที่เสียสละพระชนม์ชีพของพระคริสต์ที่นำให้เราที่กลับคืนดีกันนั้นมีสัมพันธภาพกับพระเจ้า   นี่มิใช่เป็นเพียงข่าวดีของพระคริสต์เท่านั้น   แต่เป็นข่าวที่ยิ่งใหญ่ของพระคริสต์ต่างหาก

แต่ยังมีการคืนดีอีกมิติหนึ่งที่คริสตชนมักมองข้ามหรือไม่สนใจ   การคืนดีที่ว่านี้ก็เป็นผลจากการสละพระชนม์ชีพของพระคริสต์บนกางเขนเช่นกัน   คือการคืนดีระหว่างคนกับคน  กลุ่มคนกับกลุ่มคน  ชนชาติกับชนชาติ  ตามที่เอเฟซัส บทที่ 2 ที่ได้อธิบายภาพนี้อย่างน่าประหลาดใจ   คือการสร้างการคืนดีระหว่างพวกยิวกับคนต่างชาติให้เป็นคนกลุ่มเดียวกันในพระคริสต์

ในเอเฟซัส 2:16 ได้ทำให้ผมระลึกถึงข้อความในคำเทศนาบนภูเขาของพระเยซูคริสต์  ที่พระองค์ตรัสสอนว่า  “ดังนั้น  ถ้าท่านกำลังถวายเครื่องบูชาที่แท่นบูชา และนึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขุ่นเคืองใดๆ กับท่าน   จงละเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นแล้วไปคืนดีกับพี่น้องก่อน  จึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชา” (มัทธิว 5:23-24 อมตธรรม)   น่าสนใจมากครับ   พระเยซูคริสต์ได้วางระดับขั้นตอนของการคืนดีไว้ดังนี้ครับ   ก่อนอื่นกลับไปคืนดีกับพี่น้องก่อน   แม้ว่าทุกอย่างพร้อมที่จะถวายบูชาแด่พระเจ้าแล้วก็ตาม   เมื่อคืนดีกับพี่น้องแล้ว   ค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า   ซึ่งการถวายเครื่องบูชาเป็นหมายสำคัญถึงการคืนดีกับพระเจ้า

ทั้งจากพระธรรมเอเฟซัสและพระกิตติคุณมัทธิวต่างเน้นย้ำถึงคุณค่าของการคืนดีกับเพื่อนมนุษย์ในสายพระเนตรของพระเจ้า   ถ้าเราต้องการดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อเรา   เราก็จำเป็นที่จะต้องอุทิศทุ่มเทตนกระทำตามพระประสงค์ที่จะให้เกิดการคืนดีในสัมพันธภาพระหว่างเรากับเพื่อนมนุษย์ในชีวิตประจำวันของเรา   ทั้งในมิติครอบครัว  ชุมชนสังคม  ชุมชนคริสตจักร  และสังคมโลก

ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ

1. ท่านจะดำเนินชีวิตอย่างไรที่จะเป็นตัวแทนของพระเจ้าในการสร้างการคืนดีในชีวิตของท่านในวันนี้?

2. ท่านจะทำอย่างไรได้บ้างที่จะสร้างเสริมให้เกิดการคืนดีเป็นหนึ่งเดียวกันใน “พระวรกาย” คือคริสตจักรของพระพระคริสต์?

ภาวนาใคร่ครวญ

พระเยซูคริสต์  องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย

ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงนำเอาคนทั้งหลายที่แปลกแยก  ฉีกขาด  และแตกแยกจากกันให้กลับมาเป็นพระวรกายเดียวกันในพระองค์   และขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงกระทำให้สังคมโลกในวันนี้ได้เกิดพลังกลุ่มคนที่สร้างสรรค์ในการคืนดีกัน   ด้วยการเริ่มต้นจากผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระองค์ยอมดำเนินชีวิตตามคุณธรรมแห่งการสร้างเสริมการคืนดีของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเขาแต่ละคนและในชีวิตร่วมกันในครอบครัว  ในกลุ่มเพื่อนฝูง  ในที่ทำงานและในคริสตจักร 

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดช่วยข้าพระองค์ในการเสริมสร้างการคืนดีในความสัมพันธ์ต่อผู้คนรอบข้างที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องในทุกที่ที่พระองค์ทรงนำให้ข้าพระองค์ไปในวันนี้   อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com

081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น