27 มิถุนายน 2556

กล้าหาญเผชิญหน้าศัตรู


ท่านกล้าที่จะมองไปในดวงตาของปรปักษ์  เพื่อที่จะเห็นถึงความโกรธ เกลียด และความมุ่งร้ายหวังทำลายท่านหรือไม่?   เราจะมีความกล้าในการเผชิญหน้ากับศัตรูได้อย่างไร?

พระธรรมกิจการ 14:19-22   เป็นเรื่องราวของเปาโลเมื่อท่านต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่มุ่งทำลายท่าน
แล้วพวกยิวบางคนมาจากเมืองอันทิโอกและเมืองอิโคนียูม และชักจูงฝูงชนให้มาเป็นพวกตนได้สำเร็จ   พวกเขาเอาหินขว้างเปาโลและลากออกนอกเมืองเพราะคิดว่าเขาตายแล้ว   แต่หลังจากที่เหล่าสาวกเข้ามาห้อมล้อมเขา  เปาโลก็ลุกขึ้นและกลับเข้าไปในเมือง   วันรุ่งขึ้นเขากับบารนาบัสก็ออกเดินทางไปเมืองเดอร์บี
พวกเขาประกาศข่าวประเสริฐในเมืองนั้นและมีคนมากมายมาเป็นสาวก   จากนั้นพวกเขากลับไปยังเมืองลิสตรา  เมืองอิโคนียูม  และเมืองอันทิโอก   เพื่อช่วยให้พวกสาวกเข้มแข็งขึ้น   และให้กำลังใจพวกเขาให้สัตย์ซื่อมั่นคงในความเชื่อ   พวกเขากล่าวว่า  ‘เราต้องเผชิญหน้าความยากลำบากมากมายเพื่อเข้าอาณาจักรของพระเจ้า’” (อมตธรรม)

พวกผู้นำศาสนายิวทั้งเกลียดและเคียดแค้นเปาโล ที่ครั้งหนึ่งเคยยืนหยัดปกป้องศาสนายิว  และมุ่งหน้าตั้งตาทำลายลัทธิความเชื่อใหม่ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์   แต่พวกเขาต้องโกรธแค้นอย่างมากเพราะเปาโลคือผู้ทรยศหักหลังพวกเขา   กลับไปประกาศเผยแพร่ลัทธิความเชื่อใหม่ที่เป็นคู่แข่งศาสนายิว   และเป็นภัยคุกคามศาสนายิวที่พวกตนเชื่อถือ   ดังนั้น  จึงเห็นว่ามีทางเดียวคือการขจัดเปาโลที่เป็นเสี้ยนหนามของศาสนายิวเสีย   ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ปลอดภัย และสงบสุข

เปาโล เคยเข้าไปประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ในเมืองอิโคนียูม และอันทิโอก   จนมีผู้เชื่อถวายตัวเป็นสาวกของพระเยซูคริสต์   ดังนั้น  คนยิวกลุ่มนี้เมื่อรู้ว่าเปาโลและบารนาบัสทำการประกาศที่เมืองลิสตราและเดอร์บี   พวกเขาจึงเดินทางมาจากอิโคนียูม และอันทิโอกเพื่อจะมาลอบทำร้ายทั้งสองคน   ด้วยการชักจูงฝูงชนให้เป็นพวกของตน   แล้วเอาหินขว้างเปาโลจนหมดสติ   เมื่อคิดว่าเปาโลตายแล้ว   จึงลากไปทิ้งที่นอกเมือง

ในชีวิตการทำงาน และ การอยู่ในชุมชน   ท่านเคยพบกับบางคนบางพวกที่เกลียดเคียดแค้นท่านหรือไม่?   อาจจะเป็นเพราะการกระทำของท่านไปขัดผลประโยชน์ของเขา   หรือไปขวางทางประโยชน์ของเขา   หรือไปสร้างอำนาจบารมีเหนือเขา   ท่านต้องเผชิญศัตรูในคณะกรรมการที่ท่านทำงานด้วย หรือ ธรรมกิจในคริสตจักรหรือไม่?   พวกเขาหาทางที่ต่อต้านกำจัดท่านให้ออกไปจากกรรมการนั้น  องค์กรนั้น  หรือคริสตจักรนั้นหรือไม่?

ถึงแม้เปาโลจะกระทำในสิ่งดีสิ่งถูกต้อง  แต่สิ่งที่เปาโลได้รับคือถูกหินขว้างจนหมดสติ   จนคนคิดว่าเปาโลตายแล้ว   คนๆ นี้หมดฤทธิ์สิ้นเดชแล้ว   พวกเขาคิดว่าพวกเขาชนะแล้วแก้ปัญหาได้แล้ว   ด้วยการขจัดคนที่เป็นเสี้ยนหนามออกจากเมืองของเขา  องค์กรของเขา  หน่วยงานของเขา  คริสตจักรของเขา

ในขณะที่เปาโลเชื่อว่า  เขาต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง  ทำสิ่งที่เป็นพระประสงค์ และ การทรงเรียกของพระคริสต์   เขาทุ่มเททุกอย่างในชีวิตเพื่อตอบสนองการทรงเรียกของพระคริสต์   แต่ผู้นำศาสนายิวกลับมองว่า  การกระทำทั้งสิ้นของเปาโลเป็นภัยคุกคามทำร้ายทำลายศาสนายิว   ดังนั้น  พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางที่จะขจัดคนที่เป็นพิษภัยต่อองค์กรศาสนายิวที่พวกเขาศรัทธาและเทิดทูนให้ไปจากแผ่นดิน 

ผมใคร่ชักชวนให้พวกเราพิจารณาเกี่ยวกับประเด็นนี้คือ  เมื่อพวกยิวเห็นว่าใครเป็นตัวปัญหาในองค์กรของตน   วิธีแก้ปัญหาคือ  การขจัดคนๆ นั้นออกไปจากองค์กรของตน   เมื่อเขามองว่าพระเยซูคริสต์เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งที่พวกเขาเชื่อศรัทธาและสั่งสอน   เขาหาทางกล่าวร้ายจนตรึงพระเยซูที่กางเขน   เพราะคิดว่าถ้าขจัดพระเยซูออกไปได้แล้ว   ปัญหาทุกอย่างจะได้รับการแก้   องค์กรศาสนายิวก็จะมั่นคงปลอดภัย   แต่ผลตามมาไม่เป็นอย่างที่พวกผู้นำศาสนายิวคาดคิด!   แต่เขากลับพบว่า  สาวกที่พวกเขาคิดว่าเป็นคนสามัญธรรมดากลับกลายเป็นผู้นำที่ประชาชนเชื่อศรัทธา   และก็มีผู้นำคนใหม่เกิดขึ้นมาอีกไม่ขาดสาย   เขาคนนั้นคือเปาโล

พวกผู้นำศาสนายิวคิดอย่างเดิมอีกคือ  ถ้าเขาสามารถกำจัดเปาโลให้สิ้นซาก   ศาสนาลัทธิใหม่ของพระเยซูก็จะหมดสิ้น   และครั้งนี้ก็พบว่า   คนพวกนี้ไม่ได้เกรงกลัวความโหดเหี้ยมมุ่งร้ายของพวกเขา   แต่กลับกล้าหาญในการประกาศข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์   การแก้ปัญหาด้วยการกำจัดคนที่ไม่พึงประสงค์มิใช่หนทางการแก้ปัญหาที่เกิดผลเลย   
ทุกวันนี้  พวกเรา  คริสตจักร  องค์กร  หน่วยงาน  สถาบันคริสตชนได้ใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างผู้นำศาสนายิวในสมัยเปาโลหรือไม่?   ถ้ายังใช้อยู่ผลเป็นอย่างไรบ้างครับ?

สิ่งใดที่เป็นแผนการของพระเจ้า   ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะขจัดขัดขวางได้สำเร็จ   เมื่อเหล่าสาวกห้อมล้อมเปาโล   เขาก็ฟื้นและลุกขึ้นเข้าเมืองเตรียมตัว  วันรุ่งขึ้นเดินทางออกจากเดอร์บีไปพร้อมกับบารนาบัส   เพื่อทำพันธกิจตามพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์    น่าสังเกตว่า ทั้งเปาโลและบารนาบัสถึงแม้จะไม่พยายามเผชิญหน้ากับกลุ่มยิวที่มุ่งทำร้ายเปาโล   แต่เขาทั้งสองก็มิได้เกรงกลัวคนพวกนี้   ทั้งสองกลับเดินทางไปยังเมืองของคนกลุ่มที่มาทำร้ายเปาโลคือที่เมือง อิโคนียูม และ อันทิโอก   เพื่อให้กำลังใจแก่สาวกของพระเยซูคริสต์ในเมืองดังกล่าว

น่าสังเกตว่า   พระเจ้าไม่ได้บอกให้ทั้งเปาโลและบารนาบัสให้เผชิญหน้ากับพวกยิวที่เป็นศัตรูกลุ่มนั้น   แต่ตรงกันข้ามกลับให้ระมัดระวังรอบคอบ   ที่จะเอาตัวรอดปลอดภัยจากเงื้อมมือของคนพวกนั้น   แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า  ให้ทั้งสองหงอกลัวซ่อนตัวไม่กล้าทำอะไรเลย    แต่ใช้เวลาและโอกาสที่เหมาะสมและที่ยังมีอยู่หนุนเสริมเพิ่มพลังคริสตชนในเมืองอันทิโอกให้เข้มแข็งมีกำลังใจในการมีชีวิตท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากจากการข่มเหงของพวกยิว

ในวันนี้ท่านจะเผชิญหน้าเช่นไรก็คนที่โกรธ เกลียด และมุ่งร้ายต่อท่าน  หรือท่านจะเผชิญหน้ากับอิทธิพลเถื่อนในองค์กรอย่างไร?   และถ้ามีคนที่มองว่าท่านเป็นคู่แข่งของเขา   ท่านจะเผชิญหน้า หรือ จัดการกับสถานการณ์นั้นอย่างไร?   ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแต่ความมุ่งร้ายทำลายขวัญและกำลังใจ   ท่านจะหาความกล้าหาญจากที่ใดที่จะยังคงทุ่มเทและกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า?

ผมได้เรียนรู้จากเปาโลว่า   ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีแต่ความมุ่งร้ายทำลายกำลังใจ   ผมจะไม่พึ่งพาแรงกระตุ้นบันดาลใจของตนเอง   แต่จะขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดชำระพลังกระตุ้นและแรงบันดาลใจของผมให้สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้า   ด้วยการนี้เราจะเกิดพลังความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับศัตรู   เพราะเราเผชิญหน้าศัตรูด้วยการทรงเคียงข้างขององค์พระเยซูคริสต์


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น