ผมเชื่อว่าชีวิตที่มีแผนการเป็นเรื่องที่ดี
และคนจำนวนมากที่เลือกจะวางแผนการสำหรับชีวิตของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงขึ้นปีใหม่ หลายต่อหลายคนที่ตั้งอกตั้งใจวางแผนชีวิตสำหรับปี
2014
ตอนนี้แผนการชีวิต 2014 ของท่านไปถึงไหนแล้วครับ มีผู้เก็บสถิติในเรื่องนี้พบว่า ปณิธาน หรือ แผนการชีวิตปีใหม่ประมาณ 75% จะหยุดชะงักหรือล้มเลิกไปโดยปริยายก่อนที่จะสิ้นสุดเดือนมกราคม
ตอนนี้ใกล้สิ้นเดือนมีนาคม กำลังจะเป็นช่วง “ปี๋ใหม่เมือง” แล้ว
ปณิธานปีใหม่ของท่านปีนี้ยัง “สบายดี”
อยู่หรือ?
ยังดำเนินไปอย่างมีพลังหรือเปล่า?
สำหรับคริสตชนแล้ว เราต้องมีแผนการในชีวิต เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้มีแผนการ
และยังมีแผนการสำหรับชีวิตของเราแต่ละคนอีกด้วย และแผนการชีวิตคริสตชนไม่ได้เป็นเพียงการที่ตนคิดว่าต้องการจะทำอะไรเพื่อให้ได้อะไรสำหรับตนเท่านั้น
แต่แผนการชีวิตคริสตชนได้มาจากการที่เจ้าตัวมีเวลาที่จะใคร่ครวญภาวนาอธิษฐาน การไตร่ตรองพิจารณา
และยังมีรายละเอียดเบื้องหลังแผนการอีกมากมาย ดังนั้น จึงมิใช่แผนที่นั่งลงคิดในเวลาไม่กี่วัน หรือเป็นแผนชีวิตที่ตนอยากได้ อยากมี แผนชีวิตคริสตชนมิใช่แผนชีวิตเพียงช่วงสั้นๆ
หรือเป็นแผนที่จะทำหรือล้มเลิกไปอย่างง่ายดายก็ได้
คริสตชนเราเชื่อว่า
แผนการชีวิตของเราควรเป็นแผนการที่สอดคล้องกับแผนการของพระเจ้า
สำหรับพระเจ้าแล้วแผนการที่ทรงมีสำหรับชีวิตของเราเป็นแผนการที่ยั่งยืน เป็นแผนการชีวิตที่นิรันดร์
แต่ชีวิตที่นิรันดร์นี้เริ่มต้นตั้งแต่เดี๋ยวนี้ในชีวิตปัจจุบันของเรา
ชีวิตนิรันดร์นี้เริ่มต้นตั้งแต่เรายอมรับให้พระองค์ทรงไถ่ถอนกอบกู้ชีวิตของเราให้หลุดรอดออกจากอำนาจแห่งความบาปชั่ว แล้วมีชีวิตอยู่ภายใต้การปกป้องครอบครองด้วยพระคุณของพระองค์ ตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้
และตลอดไป
แผนชีวิตของคริสตชนคือแผนชีวิตของแต่ละช่วงเวลาของชีวิตในการติดตามพระเยซูคริสต์
เป็นแผนการชีวิตว่าเราจะติดตามพระองค์ไปวันต่อวัน ในบริบทชีวิต
ในหน้าที่การงาน
ในสถานการณ์ชีวิตครอบครัว
ชุมชนและประเทศชาติ
และในแผนการชีวิตที่ติดตามพระเยซูคริสต์วันต่อวันนี้เอง ที่เราจะเห็นถึงพระประสงค์ และ
น้ำพระทัยของพระคริสต์สำหรับชีวิตของเราที่ค่อยๆ เปิดเผยออกผ่านการใกล้ชิดติดสนิทกับพระองค์ และทรงเปิดเผยผ่านสถานการณ์ชีวิต
หน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบตามการทรงเรียก ผ่านวิกฤติที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
ด้วยการทรงเปิดเผยเช่นนี้เองทำให้เราเห็นและเรียนรู้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่า
พระเจ้าทรงมีพระประสงค์และแผนการอะไรบ้างในชีวิตของเราแต่ละคน แผนการสำหรับครอบครัวของเรา คริสตจักรของเรา ชุมชนและประเทศชาติของเรา?
เมื่อเราเรียนรู้จากการทรงเปิดเผยของพระเจ้าผ่านทางชีวิตประจำวันของเราแล้ว เราในฐานะคริสตชนจึงนำสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยนั้นมาวางแผนชีวิตวันต่อวันในการติดตามพระองค์ต่อไป
น่าสังเกตว่า
แผนชีวิตคริสตชนไม่มีเป้าหมายสุดปลายที่ชัดเจน แต่เป้าหมายที่พระเจ้าทรงเปิดเผยแต่ละครั้งนั้น
เป็นเป้าหมายชีวิตขั้นหนึ่งที่นำไปสู่เป้าหมายอีกขั้นหนึ่งในชีวิต
ถ้าเรายอมดำเนินชีวิตติดตามพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะค่อยๆ เห็นและเรียนรู้พระประสงค์ของพระองค์มากและชัดเจนยิ่งขึ้น
แต่บ่อยครั้งที่คริสตชนในยุคปัจจุบัน
“ใจร้อน” ขาด “ความอดทน” ต้องการคำตอบที่สำเร็จรูป คำตอบที่ทันอกทันใจตนเอง จนเกิดความรู้สึกยุ่งยากสับสนว่า ชีวิตของตนทำไมถึงต้องพเนจรวนเวียนอยู่ในทะเลทรายอยู่ในถิ่นทุรกันดารอย่างอิสราเอลที่ต้องการไปให้ถึงแผ่นดินแห่งพระสัญญา
แท้จริงแล้ว
ชีวิตที่เดินวนเวียนในถิ่นทุรกันดารนั้นเป็นส่วนหนึ่งในแผนการชีวิตที่พระเจ้าทรงมีสำหรับการสร้างเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตของเรา
แผนการตามพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเราส่วนนี้ที่ผู้คนมักไม่ต้องการ ไม่อยากได้ ดังนั้น
ชีวิตคริสตชนของเราจึงไม่เติบโต
เข้มแข็ง
และเกิดผลอย่างที่ควรจะเป็น
แต่ที่แย่กว่านั้นคือ
เมื่อชีวิตของเราต้องวนเวียนในถิ่นทุรกันดาร
เรากลับบ่นว่าพระเจ้าว่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายเหล่านี้ทำไมถึงมาเกิดขึ้นกับตน ทั้งๆ ที่ตนติดตามพระเจ้า? ความรู้สึกเช่นนี้มักนำไปสู่ความไม่พอใจ ทอดทิ้งแผนการของพระเจ้าในช่วงเวลานั้น จนกว่าตนต้องพบกับผลร้ายที่เกิดขึ้น จึงกลับมาเริ่มต้นกับพระเจ้าใหม่ ชีวิตต้องเข้าสู่แผนการเดิมอีกครั้งหนึ่งจนเราเกิดการเรียนรู้
ยอมรับ และติดตามแผนการนี้ไปสู่อีกแผนการหนึ่ง
การติดตามแผนการของพระเจ้าในแต่ละขั้นตอนนั้นมิใช่ของง่าย ต้องใช้พลัง
ความมุ่งมั่น อดทน จริงใจ
สัตย์ซื่อ และถวายตัว
แต่พระเจ้าทรงสัตย์ซื่อและเมตตา
ในภาวะที่เรากำลังหมดแรง หมดไฟในชีวิต
พระเจ้าทรงประทานโอกาสให้เราได้ผ่อนพัก
ในการผ่อนพักนั้นเราได้เรียนรู้ถึงพระเมตตา
เกิดความชื่นชมและสันติสุขในชีวิตท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากหรือสับสน พระองค์ทรงซ่อมแซมและเสริมสร้างชีวิตที่
“สึกหรอ” “อ่อนแรง” และทรงประทานพลังชีวิตใหม่แก่เรา
เพื่อเราจะมีพลังที่จะใช้ในการขับเคลื่อนชีวิตตามพระประสงค์ของพระองค์
ในการติดตามแผนการตามพระประสงค์ของพระเจ้า ต้องติดตามพระองค์ไปก้าวต่อก้าว และเราก้าวได้ครั้งละก้าวในการติดตามพระองค์ และเราต้องก้าวผ่านทุกช่วงสถานการณ์ หรือ
ทุกฤดูกาลแห่งชีวิตตามแผนการของพระเจ้า
เราไม่สามารถที่จะเลือกเดินผ่านบางฤดูกาลของชีวิตแล้วปฏิเสธที่จะเดินก้าวผ่านฤดูกาลชีวิตอื่นๆ
เพราะพระเจ้าทรงมีแผนการให้เราได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่เราติดตามแผนการของพระองค์
ในการติดตามแผนการตามพระประสงค์ของพระเจ้า
เราอาจจะไม่เห็นหรือไม่เห็นชัดถึงเป้าหมายสุดปลายทาง
แผนการของพระเจ้าเป็นเส้นทางที่พระองค์เตรียมสำหรับเราแต่ละคน เป็นเส้นทางชีวิตที่เป็นนิรันดร์ แม้จะเป็นเส้นทางที่นิรันดร์แต่เรายังคงขับเคลื่อนติดตามแผนการนั้นของพระเจ้า
แต่เราจะพบจุดหมายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
ในการจาริกไปบนเส้นทางตามแผนการของพระเจ้าในแต่ละวันเราได้เห็นถึงการทรงเปิดเผยของพระองค์ในแต่ละขั้นแต่ละตอนในชีวิตของเรา
ในการติดตามแผนการตามพระประสงค์ของพระเจ้า อุปสรรคเป็นส่วนหนึ่งในแผนการนั้น เพราะอุปสรรคคือส่วนที่เสริมสร้างให้เราเติบโต
เข้มแข็งขึ้นในชีวิตคริสตชน
และที่จะเสริมสร้างความไว้วางใจของเราต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าที่เหนียวแน่นมั่นคงยิ่งขึ้น
บ่อยครั้งนักเมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับกำแพงแห่งอุปสรรค เราเกิดความย่อท้อ เรายอมแพ้
แล้วมักบอกกับตนเองว่า
“ความหวังที่วาดฝันไว้มันเกิดเป็นจริงไม่ได้” แล้วก็เอาความหวังที่วาดฝันนั้นไปเก็บบนหิ้ง เราเกิดความขมขื่นในชีวิต แต่เราต้องตระหนักชัดว่า
อุปสรรคที่ขวางกั้นทางที่เราจะต้องไปนั้นไม่ใหญ่เกินกว่าสำหรับพระเจ้า
ในสถานการณ์เช่นนี้เราต้องไว้วางใจพระองค์
เส้นทางแผนการชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้ามิใช่เส้นทางจาริกสำเร็จรูป
มิใช่เส้นทางที่จาริกแล้วสำเร็จได้ในทันทีครั้งเดียว
แต่เป็นเส้นทางที่ดำเนินไปวันต่อวันกับองค์พระผู้เป็นเจ้า และเป็นเส้นทางที่ยิ่งจาริกยิ่งเห็นพระประสงค์ชัดเจนยิ่งขึ้น ยิ่งพบกับปัญหาอุปสรรค
ชีวิตยิ่งเติบโตและเข้มแข็งยิ่งขึ้น
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499