ไม่จำเป็นต้องใช้แม้สตางค์แดงเดียว!
เมื่อเราได้ยินคำว่าให้ด้วยใจกว้างขวาง เรามักจะคิดไปถึงเรื่องการให้เงินหรือ สตางค์
ในฐานะที่เราเป็นผู้นำเราสามารถให้ด้วยใจกว้างขวางที่มากกว่าการให้เงิน เช่น การที่เราเปิดให้คนอื่นสามารถเข้าถึงเครือข่ายงานของเรา
หรือการที่ใช้ความสามารถหรืออิทธิพลของเราในการช่วยบางคนได้เข้าถึงโอกาสในชีวิต ซึ่งถ้าเราไม่ยื่นมือเข้าช่วยเขาแล้วเขาก็จะไม่ทางเข้าถึงโอกาสนั้นได้เลย
ในปี 1972 ในเดือนธันวาคมที่มีอากาศหนาวเหน็บในเมือง Salzburg ออสเตรีย
หญิงคนหนึ่งได้ให้กำเนิดบุตรนอกสมรส คนที่สามของเธอ ชื่อของทารกน้อยคนนี้ชื่อว่า Joseph
Mohr
พ่อของหนูน้อยคนนี้ได้ทิ้งแม่ของเขาตั้งแต่รู้ว่าแม่ของเขาตั้งครรภ์ แม่ของทารกที่ไร้พ่อคนนี้กำลังขาดเงิน เพราะเธอถูกปรับเป็นเงินมูลค่าเท่ากับค่าแรงงานที่เธอทำได้ใน
1 ปี
ในฐานความผิดที่ตั้งท้องเด็กนอกสมรส
เพราะเกิดมาเป็นเด็กไม่มีพ่อ
แล้วแม่ยังยากจนข้นแค้น ดังนั้น ความหวังในชีวิตของ
โยเซฟ มัวร์จึงมีริบหรี่เต็มที
และนี่คือความเป็นจริงในยุคสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18
ของเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กนอกกฎหมาย
ที่ถูกตีตราบาปจากสังคม
เขาถูกปฏิเสธที่จะมีโอกาสในการศึกษาและในการทำงาน
มีอยู่ที่หนึ่งที่ยอมรับโยเซฟคือที่คริสตจักรท้องถิ่นของเขา
เขาร่วมร้องเพลงอยู่ในคณะนักร้องของคริสตจักร เจ้าอธิการ Johan Nepomuk Hiernle ได้สังเกตเห็นว่าเด็กชายคนนี้มีของประทานในด้านดนตรี ดังนั้น
ท่านจึงยื่นมือเข้าช่วยโยเซฟเพื่อให้ได้โอกาสที่จะเรียนหนังสือ
ในเวลาเดียวกันก็พบว่าเด็กคนนี้มีความสามารถในด้านดนตรี เรียนรู้ในการเล่นกีตาร์ ไวโอลีน
และ ออร์แกน โยเซฟตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในพระคริสต์ธรรมแห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม
แผนการชีวิตของโยเซฟต้องพบกับอุปสรรค
เพราะการที่เขาเกิดมาเป็นลูกนอกกฎหมายทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะเรียนในพระคริสต์ธรรม Hiernle ได้ยื่นมือเข้าช่วยอีกครั้งหนึ่ง
เขาได้รับการยกเว้นจึงได้เรียนในพระคริสต์ธรรมได้ ภายหลังสำเร็จการศึกษา โยเซฟได้รับการสถาปนาเป็นพระ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นพระในคริสตจักร Oberndorf
ในช่วงที่โยเซฟปฏิบัติหน้าที่พระในคริสตจักรเป็นปีที่สอง
เขาได้รวบรวมนักดนตรีและร่วมกันจัดคอนเสิร์ตสำหรับการเฉลิมฉลองในพิธีมิสซาคริสต์มาส เขาได้เขียนบทประพันธ์และได้ขอให้เพื่อนคนหนึ่งช่วยแต่งทำนองเพลงให้
และทั้งสองได้แสดงและขับร้องเพลงบทใหม่นี้ในคืนที่ 24
ของเทศกาลคริสต์มาสในปีนั้น
และทำนองเพลงที่เขาร้องนั้นคือทำนองของเพลง “ราตีสงัด ราตรีสวัสดิ์” (Silent
Night)
เป็นเพลงที่ผู้ได้ยินได้ฟังชื่นชอบ
และเพลงนี้ยังทันสมัยของคณะนักร้องในคริสตจักร และ
ในการนมัสการพระเจ้าเกือบ 200 ปี
ขุดค้นข้อคิด
ถ้าไม่มีเจ้าอธิการที่มีจิตใจที่เมตตา และ
จิตใจที่กว้างขวางใช้ศักยภาพของท่านในการติดต่อประสานเพื่อช่วยให้เด็กที่ไร้พ่อ ไร้โอกาสอย่างที่เล่าข้างต้น เด็กหนุ่มคนนี้คงไม่มีโอกาสที่จะประพันธ์เพลง
“ราตรีสงัด ราตรีสวัสดิ์” อย่างที่พวกเราได้ยินได้ฟังและได้ชื่นชมกัน และคงไม่มีโอกาสร้องร่วมกันด้วย
และถ้ามิใช่เพราะท่านอธิการยื่นมือเข้าแทรกแซงเหตุการณ์ชีวิตของเด็กชายคนนี้เขาคงไม่ได้เป็น โยเซฟ มัวร์
อย่างที่เขาเป็นอยู่กระมัง?
การให้ชีวิตด้วยใจกว้างขวางเข้าแทรกแซงชีวิตที่ไร้โอกาสเช่นนี้ ช่วยให้เด็กชายที่ไร้โอกาสคนหนึ่งได้เข้าถึงโอกาสแห่งชีวิตและประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ท่านอธิการ Nepomuk
Hiernle หวังว่าเราแต่ละคนจะใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ในชีวิต ที่จะให้กับคนที่ไร้โอกาสได้เข้าถึงโอกาสแห่งชีวิตในด้านต่างๆ
ที่จำเป็นต้องการ และเราจะพบว่า
ไม่มีเงินแม้สตางค์แดงเดียวเราก็สามารถที่จะให้ได้ด้วยใจกว้างขวาง
ให้ด้วยใจกว้างขวางในสิ่งที่เรามีและที่เราจะให้ได้ ให้ด้วยใจผูกพันครับ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น