26 มีนาคม 2557

ให้ด้วยใจกว้างขวาง...

ไม่จำเป็นต้องใช้แม้สตางค์แดงเดียว!

เมื่อเราได้ยินคำว่าให้ด้วยใจกว้างขวาง   เรามักจะคิดไปถึงเรื่องการให้เงินหรือ สตางค์

ในฐานะที่เราเป็นผู้นำเราสามารถให้ด้วยใจกว้างขวางที่มากกว่าการให้เงิน   เช่น การที่เราเปิดให้คนอื่นสามารถเข้าถึงเครือข่ายงานของเรา   หรือการที่ใช้ความสามารถหรืออิทธิพลของเราในการช่วยบางคนได้เข้าถึงโอกาสในชีวิต   ซึ่งถ้าเราไม่ยื่นมือเข้าช่วยเขาแล้วเขาก็จะไม่ทางเข้าถึงโอกาสนั้นได้เลย

ในปี 1972  ในเดือนธันวาคมที่มีอากาศหนาวเหน็บในเมือง Salzburg ออสเตรีย   หญิงคนหนึ่งได้ให้กำเนิดบุตรนอกสมรส คนที่สามของเธอ  ชื่อของทารกน้อยคนนี้ชื่อว่า Joseph Mohr พ่อของหนูน้อยคนนี้ได้ทิ้งแม่ของเขาตั้งแต่รู้ว่าแม่ของเขาตั้งครรภ์   แม่ของทารกที่ไร้พ่อคนนี้กำลังขาดเงิน  เพราะเธอถูกปรับเป็นเงินมูลค่าเท่ากับค่าแรงงานที่เธอทำได้ใน 1 ปี   ในฐานความผิดที่ตั้งท้องเด็กนอกสมรส

เพราะเกิดมาเป็นเด็กไม่มีพ่อ แล้วแม่ยังยากจนข้นแค้น   ดังนั้น ความหวังในชีวิตของ โยเซฟ มัวร์จึงมีริบหรี่เต็มที   และนี่คือความเป็นจริงในยุคสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ของเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กนอกกฎหมาย   ที่ถูกตีตราบาปจากสังคม   เขาถูกปฏิเสธที่จะมีโอกาสในการศึกษาและในการทำงาน

มีอยู่ที่หนึ่งที่ยอมรับโยเซฟคือที่คริสตจักรท้องถิ่นของเขา   เขาร่วมร้องเพลงอยู่ในคณะนักร้องของคริสตจักร   เจ้าอธิการ Johan Nepomuk Hiernle  ได้สังเกตเห็นว่าเด็กชายคนนี้มีของประทานในด้านดนตรี   ดังนั้น  ท่านจึงยื่นมือเข้าช่วยโยเซฟเพื่อให้ได้โอกาสที่จะเรียนหนังสือ   ในเวลาเดียวกันก็พบว่าเด็กคนนี้มีความสามารถในด้านดนตรี   เรียนรู้ในการเล่นกีตาร์  ไวโอลีน  และ ออร์แกน   โยเซฟตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในพระคริสต์ธรรมแห่งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม   แผนการชีวิตของโยเซฟต้องพบกับอุปสรรค   เพราะการที่เขาเกิดมาเป็นลูกนอกกฎหมายทำให้เขาไม่มีโอกาสที่จะเรียนในพระคริสต์ธรรม   Hiernle  ได้ยื่นมือเข้าช่วยอีกครั้งหนึ่ง   เขาได้รับการยกเว้นจึงได้เรียนในพระคริสต์ธรรมได้   ภายหลังสำเร็จการศึกษา   โยเซฟได้รับการสถาปนาเป็นพระ   และได้รับการคัดเลือกให้เป็นพระในคริสตจักร Oberndorf

ในช่วงที่โยเซฟปฏิบัติหน้าที่พระในคริสตจักรเป็นปีที่สอง   เขาได้รวบรวมนักดนตรีและร่วมกันจัดคอนเสิร์ตสำหรับการเฉลิมฉลองในพิธีมิสซาคริสต์มาส   เขาได้เขียนบทประพันธ์และได้ขอให้เพื่อนคนหนึ่งช่วยแต่งทำนองเพลงให้   และทั้งสองได้แสดงและขับร้องเพลงบทใหม่นี้ในคืนที่ 24 ของเทศกาลคริสต์มาสในปีนั้น   และทำนองเพลงที่เขาร้องนั้นคือทำนองของเพลง “ราตีสงัด ราตรีสวัสดิ์” (Silent Night)   เป็นเพลงที่ผู้ได้ยินได้ฟังชื่นชอบ   และเพลงนี้ยังทันสมัยของคณะนักร้องในคริสตจักร และ ในการนมัสการพระเจ้าเกือบ 200 ปี

ขุดค้นข้อคิด

ถ้าไม่มีเจ้าอธิการที่มีจิตใจที่เมตตา และ จิตใจที่กว้างขวางใช้ศักยภาพของท่านในการติดต่อประสานเพื่อช่วยให้เด็กที่ไร้พ่อ  ไร้โอกาสอย่างที่เล่าข้างต้น  เด็กหนุ่มคนนี้คงไม่มีโอกาสที่จะประพันธ์เพลง “ราตรีสงัด ราตรีสวัสดิ์”  อย่างที่พวกเราได้ยินได้ฟังและได้ชื่นชมกัน  และคงไม่มีโอกาสร้องร่วมกันด้วย   และถ้ามิใช่เพราะท่านอธิการยื่นมือเข้าแทรกแซงเหตุการณ์ชีวิตของเด็กชายคนนี้เขาคงไม่ได้เป็น  โยเซฟ มัวร์  อย่างที่เขาเป็นอยู่กระมัง?

การให้ชีวิตด้วยใจกว้างขวางเข้าแทรกแซงชีวิตที่ไร้โอกาสเช่นนี้   ช่วยให้เด็กชายที่ไร้โอกาสคนหนึ่งได้เข้าถึงโอกาสแห่งชีวิตและประสบความสำเร็จ   เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ท่านอธิการ Nepomuk Hiernle หวังว่าเราแต่ละคนจะใช้ศักยภาพที่เรามีอยู่ในชีวิต   ที่จะให้กับคนที่ไร้โอกาสได้เข้าถึงโอกาสแห่งชีวิตในด้านต่างๆ ที่จำเป็นต้องการ   และเราจะพบว่า   ไม่มีเงินแม้สตางค์แดงเดียวเราก็สามารถที่จะให้ได้ด้วยใจกว้างขวาง

ให้ด้วยใจกว้างขวางในสิ่งที่เรามีและที่เราจะให้ได้   ให้ด้วยใจผูกพันครับ

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น