15 มีนาคม 2557

โกรธอย่างไร...ไม่ทำบาป?

26จะ​โกรธ​ก็​โกรธ​ได้ แต่​อย่า​ทำ​บาป”
อย่า​ให้​ถึง​ตะวัน​ตก​แล้ว​ยัง​โกรธ​อยู่
27อย่า​ให้​โอกาสแก่​มาร
(เอเฟซัส 4:26-27 มตฐ.)

เอเฟซัส 4:26 กล่าวไว้ว่า “จะโกรธก็โกรธได้  แต่อย่าทำบาป”   นี่คือปัญญาสำหรับการดำเนินชีวิต   แต่เป็นปัญหาของเราในปัจจุบัน   ซึ่งเราสามารถสัมผัสสัจจะความจริงเรื่องนี้ได้จากประสบการณ์ชีวิตประจำวันของเรา   ตลอดวันที่ผ่านมาท่าน “โกรธ” หรือเปล่า?   เมื่อท่านโกรธ...ความโกรธนั้นกระตุ้นให้ท่านพูดอะไร อย่างไร?   ความโกรธนั้นกระตุ้นให้ท่านแสดงท่าทีอย่างไรกับคนที่ทำให้ท่านโกรธ?   มีไหมที่ความโกรธกระตุ้นให้ท่านต้องพูดสิ่งที่ไม่ดีไม่ควร  กระทำสิ่งที่ไม่ถูก  และแสดงท่าทีที่รังเกียจเหยียดหยาม?  อุ๊บ  นั่นเราตกเป็นเบี้ยล่างของความโกรธให้ทำบาปไปแล้วหรือไม่เนี่ยะ?

เมื่อเราโกรธเราอาจจะพูดหรือกระทำบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิดความเจ็บปวดในชีวิตของผู้คน   คนๆ นั้นอาจจะเป็นคนสุดที่รักของเรา  เช่น ลูก หรือคู่ชีวิตของตน   และเราคงต้องยอมรับความจริงว่า   บางครั้งเมื่อเราโกรธเราถึงกับต้องการพูดหรือทำอย่างไรที่จะทำให้เขาเกิดความเจ็บปวดบ้างเพื่อคนๆ นั้นจะได้รู้ตัว?   เมื่อพูดเช่นนี้  หลายคนก็อาจจะสวนกลับผมว่า   ที่ว่านั้นก็ดีอยู่   แต่คุณจะทำอย่างไร หรือ คุณจะโกรธอย่างไรที่จะไม่ทำบาป?

เราพบคำตอบนี้ในตอนท้ายของพระคัมภีร์ข้อที่ 26 ที่ว่า “อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่”  คำแนะนำสั้นๆ นี้   คล้ายๆ กับความคิดของนักปรัชญากรีกในยุคนั้น  และพบปัญญาเช่นนี้ในกลุ่มชาวยิวด้วย   กล่าวคือ  เราไม่ควรเกาะกุมสะสมสุมโกรธไว้ในหัวอกและความคิดของเรา   ในเมื่อเราไม่เกาะกุมยึดแน่นในความโกรธนั้น   ก็เป็นการง่ายกว่าที่เราจะไม่เกิดความขมขื่น ความพยาบาท หรือ เมื่อเกิดความขมขื่น หรือ ความพยาบาทแล้วก็สามารถจางหายไปได้ง่ายกว่า  

แต่การที่เราไปยึดเกาะแน่นกับความโกรธที่ผุดขึ้นในความคิดความรู้สึกของเรามักเป็นหนทางที่นำเราไปสู่การกระทำบาป    แล้วเราควรกระทำด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่จะให้มันเหือดหายไปจากความรู้สึกนึกคิดของเรา

เราต่างยอมรับว่า  ที่ว่านั้นมันไม่ง่ายนักหรอกเพื่อน!  เรารู้ได้จากประสบการณ์ส่วนตัวของเราแต่ละคน   บางวิธีที่นำมาใช้ไม่ค่อยได้ผล เช่น  การที่เราอ้างว่าเราไม่โกรธนั้นไม่ช่วยให้ความโกรธเจือจางเหือดหายลง(แต่เป็นการซ่อนกลบเกลื่นความโกรธไว้ต่างหาก),   การตอบโต้ด้วยเสียงดังก็ไม่เกิดผล (แต่นั่นเป็นข่มขู่เหมือนแมวพองขน หรือ กบพองตัว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้)

แล้วพอจะมีวิธีการใดไหมที่มันจะใช้ได้เมื่อเราโกรธแล้วหยุดเราไม่ให้ทำบาป?

สิ่งสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญคือ   ในเวลาที่เราโกรธเราต้องตระหนักรู้ว่าเรากำลังโกรธก่อน   แล้วกล่าวกับตนเองว่า  “ฉันกำลังโกรธสิ่งนี้ คนนี้   ฉันต้องการเอากำปั้นกระแทกเข้าจมูกของมัน”   นี่เป็นการเอาตัวตนที่แท้จริงของเราขึ้นมาในความตระหนักรู้ของเรา เพื่อเราจะสามารถพินิจพิจารณาตนเอง  

การที่เราเอา “ความโกรธ” ของเราเปิดเผยภายในตนเอง   เปิดโอกาสให้เรามีเวลาที่จะคิดพิจารณาเกี่ยวกับความโกรธของเราในเวลานั้นมากกว่าการที่เราจะยอมปล่อยให้ตัวความโกรธนั้นซุกซ่อนใต้ความรู้สึกความสำนึกของเรา    มันไม่ได้ซุกซ่อนเงียบๆ เท่านั้นแต่มันกลับกระตุ้นสุมไฟโกรธให้ร้อนแรงขึ้น   แต่การที่เราเอาความโกรธนั้นออกมาให้เห็นชัดแจ้งในความรู้สึกนึกคิดของเรา  นั่นจะเปิดโอกาสที่เราจะสามารถรับมือและจัดการกับความโกรธดังกล่าว   แต่ถ้าเราพยายามกลบเกลื่อนกลบฝังความโกรธของเรา หรือ ไม่สนใจปล่อยปละละเลยความโกรธนั้น   ความโกรธก็จะนำพาเราให้กระทำ “บาป” แน่

สำหรับคริสตชนแล้ว   สิ่งสำคัญกว่าการที่เราจะพยายามรับมือหรือจัดการด้วยตัวเราเองเท่านั้น   เมื่อเรายอมรับความจริงว่าเรากำลังโกรธ   เราสามารถที่จะอธิษฐาน ปรึกษา ทูลขอสติปัญญาและกำลังชีวิตจากพระเจ้า   ผู้เขียนสดุดีหลายบทที่เขียนจากประสบการณ์ของผู้เขียนและพูดอย่างสัตย์ซื่อเปิดเผยถึงความคิดความรู้สึกที่ลุ่มลึกของตนเองในเรื่องความโกรธ   และหลายตอนที่ให้กำลังใจและแนะนำเราว่าเมื่อเราโกรธให้เราทูลปรึกษากับพระเจ้าถึงความคิดความรู้สึกโกรธที่กำลังเดือนดาลในจิตใจของเรา 

ดังนั้น   ในวันนี้ถ้าเราต้องโกรธ   ให้เราทูลบอกถึงความคิดความรู้สึกโกรธที่กำลังร้อนรุ่มสุมอกในจิตใจของเราแก่พระเจ้า   มอบอารมณ์โกรธของเราให้อยู่ในพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า   และนี่คือก้าวแรกที่คริสตชนรับมือและจัดการกับความโกรธที่เกิดขึ้นกับตน    เพื่อว่าเราจะไม่ลื่นไถลล้มลงในการทำบาปเพราะความโกรธนั้น
และนี่เป็นเพียงก้าวแรกหรือจุดเริ่มต้นเมื่อเราโกรธครับ   แต่เป็นก้าวแรกที่ทรงพลังครับ!

ประเด็นสำหรับใคร่ครวญ                                                                

อะไรที่ช่วยปกป้องท่านไม่ให้ทำบาปเมื่อท่านโกรธ?

มีวิธีการอย่างไรที่ช่วยท่านไม่ให้สั่งสมความโกรธไว้ในหัวอก?

มีความโกรธอะไรหรือไม่ที่ท่านต้องการ “ยอมรับ” และทูลเปิดเผยกับองค์พระผู้เป็นเจ้า?

ใคร่ครวญภาวนา

พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระคุณ   ข้าพระองค์ไม่ต้องการที่จะทำบาปเมื่อโกรธ   แท้จริงแล้ว ข้าพระองค์ไม่ต้องการให้เกิดความโกรธในตนเอง   แต่ข้าพระองค์ไม่สามารถหลีกลี้หนีความโกรธพ้น   จึงทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์   โปรดปกป้องรักษาข้าพระองค์จากการกระทำบาปเพราะความโกรธที่เกิดขึ้นในตัวข้าพระองค์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง   โปรดช่วยข้าพระองค์ให้สัตย์ซื่อต่อตนเองและต่อพระองค์เมื่อเกิดความรู้สึกไม่พอใจ  อารมณ์เสีย  หรือ หัวเสีย   โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ที่จะสามารถบอกความจริงที่เป็นไปนั้น   เพื่อข้าพระองค์จะเปิดใจเปิดชีวิตรับพระเมตตาจากพระองค์   อาเมน

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น