24 มีนาคม 2557

พระเจ้าหรือรูปเคารพ?

36ท่าน​อา​จารย์ ใน​ธรรมบัญญัติ​นั้น พระ​บัญญัติข้อ​ไหน​สำคัญ​ที่สุด?”
37 พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​เขา​ว่า “‘จง​รัก​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ของ​ท่าน​ด้วย​สุด​ใจ​ของ​ท่าน​
ด้วย​สุด​จิต​ของ​ท่าน’  และ​ด้วย​สุด​ความ​คิด​ของ​ท่าน
38 นั่น​แหละ​เป็น​พระบัญญัติข้อสำคัญอัน​ดับ​แรก
39 ข้อ​ที่​สอง​ก็​เหมือน​กัน คือ จง​รัก​เพื่อน​บ้าน​เหมือน​รัก​ตน​เอง’ 
40 ธรรม​บัญญัติและ​คำ​ของ​ผู้​เผย​พระ​วจนะ​ทั้ง​หมด ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​พระ​บัญญัติสอง​ข้อ​นี้
(มัทธิว 22:36-40 มตฐ.)         

พระเยซูคริสต์ตอบคำถามของฟาริสีที่มาทดลองพระองค์ว่า   สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้า   คือการที่คนๆ นั้นมีพระเจ้าทรงเป็นเอกเป็นใหญ่ในชีวิตเหนือสิ่งอื่นใด หรือ ผู้ใดในทุกมิติของชีวิต   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิตประจำวัน   เศรษฐกิจ  สังคม  ตลอดจนการเมืองเรื่องของการใช้อำนาจ   ในที่นี้รวมถึงความสัมพันธ์ติดสนิทกับพระองค์   และรองลงมาคือความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ให้รักคนรอบข้างเฉกเช่นที่ตนรักชีวิตของตนเอง  

แต่ถ้าเราทำให้สิ่งใดเป็นสิ่งที่อันดับแรกสุดสูงสุดและสำคัญที่สุดในชีวิตของเราแทนที่ของพระเจ้า   สิ่งนั้นคือ “รูปเคารพ” ในชีวิตของเรา   เรามักเข้าใจผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนเรื่อง “รูปเคารพ” เป็นเหมือนวัวทองคำอย่างที่พวกอิสราเอลในถิ่นทุรกันดารหล่อขึ้นมา (อพยพ บทที่ 32)   หรือคริสตชนไทยเราก็มักคิดถึงรูปปั้น หรือ รูปแกะสลักต่างๆ ที่ใช้ในการกราบไหว้บูชา  

แต่แก่นความหมายของ “รูปเคารพ” คือ สิ่งของหรือบุคคลที่เราอุทิศยกย่องเชิดชูบูชาว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรา  ให้คนนั้นสิ่งนั้นแทนที่พระเจ้าที่ควรเป็นเอกเป็นต้นและเป็นใหญ่ในชีวิตของเรา (มาระโก 13:14)   ในยุคของเรานี้   “รูปเคารพ” สำแดงออกมาในหลายรูปแบบด้วยกัน   บางคนมีการงานเป็นรูปเคารพ   บางคนมีอุดมการณ์เป็นรูปเคารพ  มีสถานภาพทางสังคม  ฐานะทางเศรษฐกิจ  ความมั่งคั่งร่ำรวย  ตำแหน่งหน้าที่การงาน  บ้างก็ความสวยงามของตน  บ้างก็บูชาความกล้าบ้าบิ่น  บ้างก็ไล่ล่าอำนาจเหนือคนอื่นด้วยสุดชีวิต   จนกลายเป็น “รูปเคารพ” ในชีวิตของตน   และ ฯลฯ

สิ่งที่คริสตชนต้องหยุดนิ่งแล้วคิดใหม่ว่า   เมื่อเราเห็นแล้วว่าชีวิตที่ว้าวุ่น สับสน อ่อนแรงของเราเพราะเราเอาท่อน้ำเลี้ยงแห่งชีวิตของเราได้ต่อติดรับน้ำจากแหล่งน้ำเลี้ยงที่เป็น “รูปเคารพ”   แทนที่จะเป็นแหล่งน้ำเลี้ยงแห่งชีวิตคือองค์พระผู้เป็นเจ้า  เราจึงมีชีวิตตกลงท่ามกลางความสับสนว้าวุ่น   ความสิ้นหวัง  หมดแรง    จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องตัดสินใจตัดท่อน้ำเลี้ยงที่ต่อกับ “รูปเคารพ”   แล้วให้ท่อน้ำเลี้ยงชีวิตของเรากลับไปเชื่อมต่อกับน้ำพุแห่งชีวิต  คือพระเจ้าองค์สูงสุดในชีวิตของเรา

การต่อท่อน้ำเลี้ยงในชีวิตของเรากับแหล่งน้ำพุแห่งชีวิต   น้ำจากแหล่งน้ำพุแห่งชีวิตจะชโลมเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของเราใหม่   และน้ำแห่งชีวิตจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะบำรุงหล่อเลี้ยงชีวิตเราขึ้นใหม่   

เราเปลี่ยนจากการที่ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง   เปลี่ยนจากที่ทุ่มทุกอย่างในชีวิตให้กับงานเพื่อจะได้สิ่งที่ตนคาดหวังจากงานที่ทำ  แล้วหันหน้ากลับเข้าหาองค์พระผู้เป็นเจ้า   มีเวลาที่จะใคร่ครวญ  ผ่อนพักในพระองค์    มีเวลาที่จะพิจารณาชีวิตของตนที่ผ่านมาว่าสอดคล้องหรือสวนทางกับพระประสงค์ของพระเจ้าในพระวจนะ    มีเวลาที่จะชุ่มชื่นกับเสียงดนตรี   เสียงนกร้อง  มีเวลาพิจารณาถึงพระราชกิจและพระประสงค์ของพระเจ้าผ่านทางธรรมชาติ   มีเวลาที่จะช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ   มีเวลาที่จะอยู่นิ่งสงบ   ดั่งเช่นผู้ประพันธ์บทเพลงสดุดีบทที่ 46 กล่าวไว้ว่า “จง​นิ่ง​เสีย และ​รู้​เถิด​ว่า เรา​คือ​พระ​เจ้า...” (ข้อ 10 มตฐ.)  

ในแต่ละวันสะบาโต   ให้เรามุ่งมั่นจริงใจใช้เวลานั้นในการสงบอยู่กับพระเจ้า   แทนการทุ่มเทในการทำงานและการบริโภคไม่รู้จักพอเพียง   หยุดงานอาชีพที่ทำ  หยุด “ช๊อปปิ้ง”  หยุดสื่อสารบันเทิง  หยุดที่จะไปกินข้าวนอกบ้าน   เพื่อเราแต่ละคนจะมีเวลาที่ “นิ่งสงบ” กับพระเจ้า และ นิ่งสงบด้วยกันในครอบครัว

แต่หลายคนรับไม่ได้กับการใช้ชีวิตที่ต่อท่อน้ำเลี้ยงกับแหล่งน้ำพุแห่งชีวิตคือองค์พระผู้เป็นเจ้า   บิลเกทเคยตั้งข้อสังเกตว่า ชีวิตแบบศาสนานั้น ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดผลคุ้มค่า  เขามองว่าศาสนาน่าจะใช้เวลาที่มีมากมายในการทำกิจกรรมที่เกิดผลิตผล   นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า บิลเกทมองว่า  สิ่งที่นำเข้ามีค่าเท่ากับผลที่ได้ออกมา   แต่ต้องบอกกันตรงๆ ว่า   กรอบแนวคิดเช่นนี้ใช้ไม่ได้กับพระราชกิจของพระเจ้า   เพราะ การอธิษฐาน 2 หน่วยไม่ได้ทำให้ได้พระคุณ 2 ลิตร   เราไม่สามารถที่จะกะเกณฑ์บังคับการทำงานของพระเจ้า   อย่างที่เจ้านายกะเกณฑ์บังคับคนงานให้ได้ผลงานตามที่ต้องการ   และที่สำคัญคือ เราต้องตระหนักชัดว่า 

เพราะ​ความ​คิด​ของ​เรา​ไม่​ใช่​ความ​คิด​ของ​เจ้า
และ​ทาง​ของ​พวกเจ้า​ก็ไม่​ใช่​ทาง​ของ​เรา
พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​ดัง​นี้​แหละ  (อิสยาห์ 55:8 มตฐ.)

ในฐานะคริสตชน   นอกจากที่เราจะต้องตัดสินใจเลือกและยกย่องให้พระเจ้าเป็นใหญ่เป็นเอกในชีวิตแล้ว   จิตสำนึก  ความคิด  มุมมอง  ทัศนคติขอเราจะต้องเป็นไปตามกรอบแนวคิดตามพระวจนะ  ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า   เพื่อเราจะมีวิถีการดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์

ประเด็นสำหรับใคร่ครวญ

ในวันนี้หาเวลาที่ท่านจะใคร่ครวญพิจารณาตนเอง   แล้วเขียน 5 สิ่งที่สำคัญสุดในชีวิตของท่านทุกวันนี้   ที่ท่านใช้เงิน  เวลา  พลัง  และการทุ่มเทมากที่สุด   แล้วพิจารณาด้วยใจสัตย์ซื่อว่า
  1. พระเจ้าได้รับการยกย่อง ได้รับเกียรติจากการกระทำของท่านใน  5 สิ่งสำคัญสุดในชีวิตของท่านหรือไม่?  ถ้าไม่?   ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
  2. ท่านจะทำอย่างไรที่จะมีสิ่งที่สำคัญสูงสุดในชีวิตของท่าน   โดยพระเจ้ายังทรงเป็นเอกเป็นใหญ่ที่สุดในชีวิตของท่าน?
  3. ท่านจะทำเช่นไรที่ท่านจะ นิ่งสงบและรู้ว่าพระเจ้าเคียงข้างชีวิตของท่าน?


ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น