36“ท่านอาจารย์ ในธรรมบัญญัตินั้น พระบัญญัติข้อไหนสำคัญที่สุด?”
37
พระเยซูทรงตอบเขาว่า “‘จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน
ด้วยสุดจิตของท่าน’ และด้วยสุดความคิดของท่าน
38 นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก
39
ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ ‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’
40
ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมด
ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”
(มัทธิว 22:36-40 มตฐ.)
พระเยซูคริสต์ตอบคำถามของฟาริสีที่มาทดลองพระองค์ว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้เชื่อศรัทธาในพระเจ้า คือการที่คนๆ นั้นมีพระเจ้าทรงเป็นเอกเป็นใหญ่ในชีวิตเหนือสิ่งอื่นใด
หรือ ผู้ใดในทุกมิติของชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ
สังคม
ตลอดจนการเมืองเรื่องของการใช้อำนาจ
ในที่นี้รวมถึงความสัมพันธ์ติดสนิทกับพระองค์
และรองลงมาคือความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ให้รักคนรอบข้างเฉกเช่นที่ตนรักชีวิตของตนเอง
แต่ถ้าเราทำให้สิ่งใดเป็นสิ่งที่อันดับแรกสุดสูงสุดและสำคัญที่สุดในชีวิตของเราแทนที่ของพระเจ้า สิ่งนั้นคือ “รูปเคารพ” ในชีวิตของเรา เรามักเข้าใจผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนเรื่อง
“รูปเคารพ” เป็นเหมือนวัวทองคำอย่างที่พวกอิสราเอลในถิ่นทุรกันดารหล่อขึ้นมา (อพยพ
บทที่ 32)
หรือคริสตชนไทยเราก็มักคิดถึงรูปปั้น หรือ รูปแกะสลักต่างๆ ที่ใช้ในการกราบไหว้บูชา
แต่แก่นความหมายของ “รูปเคารพ” คือ สิ่งของหรือบุคคลที่เราอุทิศยกย่องเชิดชูบูชาว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรา
ให้คนนั้นสิ่งนั้นแทนที่พระเจ้าที่ควรเป็นเอกเป็นต้นและเป็นใหญ่ในชีวิตของเรา
(มาระโก 13:14)
ในยุคของเรานี้ “รูปเคารพ”
สำแดงออกมาในหลายรูปแบบด้วยกัน
บางคนมีการงานเป็นรูปเคารพ
บางคนมีอุดมการณ์เป็นรูปเคารพ
มีสถานภาพทางสังคม ฐานะทางเศรษฐกิจ ความมั่งคั่งร่ำรวย ตำแหน่งหน้าที่การงาน บ้างก็ความสวยงามของตน บ้างก็บูชาความกล้าบ้าบิ่น บ้างก็ไล่ล่าอำนาจเหนือคนอื่นด้วยสุดชีวิต จนกลายเป็น “รูปเคารพ” ในชีวิตของตน และ ฯลฯ
สิ่งที่คริสตชนต้องหยุดนิ่งแล้วคิดใหม่ว่า เมื่อเราเห็นแล้วว่าชีวิตที่ว้าวุ่น สับสน
อ่อนแรงของเราเพราะเราเอาท่อน้ำเลี้ยงแห่งชีวิตของเราได้ต่อติดรับน้ำจากแหล่งน้ำเลี้ยงที่เป็น
“รูปเคารพ” แทนที่จะเป็นแหล่งน้ำเลี้ยงแห่งชีวิตคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
เราจึงมีชีวิตตกลงท่ามกลางความสับสนว้าวุ่น ความสิ้นหวัง
หมดแรง
จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องตัดสินใจตัดท่อน้ำเลี้ยงที่ต่อกับ
“รูปเคารพ”
แล้วให้ท่อน้ำเลี้ยงชีวิตของเรากลับไปเชื่อมต่อกับน้ำพุแห่งชีวิต คือพระเจ้าองค์สูงสุดในชีวิตของเรา
การต่อท่อน้ำเลี้ยงในชีวิตของเรากับแหล่งน้ำพุแห่งชีวิต
น้ำจากแหล่งน้ำพุแห่งชีวิตจะชโลมเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของเราใหม่
และน้ำแห่งชีวิตจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะบำรุงหล่อเลี้ยงชีวิตเราขึ้นใหม่
เราเปลี่ยนจากการที่ทำงานเป็นบ้าเป็นหลัง เปลี่ยนจากที่ทุ่มทุกอย่างในชีวิตให้กับงานเพื่อจะได้สิ่งที่ตนคาดหวังจากงานที่ทำ แล้วหันหน้ากลับเข้าหาองค์พระผู้เป็นเจ้า มีเวลาที่จะใคร่ครวญ ผ่อนพักในพระองค์
มีเวลาที่จะพิจารณาชีวิตของตนที่ผ่านมาว่าสอดคล้องหรือสวนทางกับพระประสงค์ของพระเจ้าในพระวจนะ มีเวลาที่จะชุ่มชื่นกับเสียงดนตรี เสียงนกร้อง
มีเวลาพิจารณาถึงพระราชกิจและพระประสงค์ของพระเจ้าผ่านทางธรรมชาติ
มีเวลาที่จะช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือในด้านต่างๆ มีเวลาที่จะอยู่นิ่งสงบ ดั่งเช่นผู้ประพันธ์บทเพลงสดุดีบทที่ 46 กล่าวไว้ว่า “จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่า เราคือพระเจ้า...” (ข้อ 10 มตฐ.)
ในแต่ละวันสะบาโต
ให้เรามุ่งมั่นจริงใจใช้เวลานั้นในการสงบอยู่กับพระเจ้า
แทนการทุ่มเทในการทำงานและการบริโภคไม่รู้จักพอเพียง หยุดงานอาชีพที่ทำ หยุด “ช๊อปปิ้ง” หยุดสื่อสารบันเทิง หยุดที่จะไปกินข้าวนอกบ้าน เพื่อเราแต่ละคนจะมีเวลาที่ “นิ่งสงบ”
กับพระเจ้า และ นิ่งสงบด้วยกันในครอบครัว
แต่หลายคนรับไม่ได้กับการใช้ชีวิตที่ต่อท่อน้ำเลี้ยงกับแหล่งน้ำพุแห่งชีวิตคือองค์พระผู้เป็นเจ้า บิลเกทเคยตั้งข้อสังเกตว่า ชีวิตแบบศาสนานั้น
ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดผลคุ้มค่า
เขามองว่าศาสนาน่าจะใช้เวลาที่มีมากมายในการทำกิจกรรมที่เกิดผลิตผล นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า บิลเกทมองว่า สิ่งที่นำเข้ามีค่าเท่ากับผลที่ได้ออกมา แต่ต้องบอกกันตรงๆ ว่า
กรอบแนวคิดเช่นนี้ใช้ไม่ได้กับพระราชกิจของพระเจ้า เพราะ การอธิษฐาน 2 หน่วยไม่ได้ทำให้ได้พระคุณ 2 ลิตร
เราไม่สามารถที่จะกะเกณฑ์บังคับการทำงานของพระเจ้า
อย่างที่เจ้านายกะเกณฑ์บังคับคนงานให้ได้ผลงานตามที่ต้องการ และที่สำคัญคือ เราต้องตระหนักชัดว่า
“เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า
และทางของพวกเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา”
พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ (อิสยาห์ 55:8 มตฐ.)
ในฐานะคริสตชน
นอกจากที่เราจะต้องตัดสินใจเลือกและยกย่องให้พระเจ้าเป็นใหญ่เป็นเอกในชีวิตแล้ว จิตสำนึก
ความคิด มุมมอง
ทัศนคติขอเราจะต้องเป็นไปตามกรอบแนวคิดตามพระวจนะ ตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
เพื่อเราจะมีวิถีการดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระองค์
ประเด็นสำหรับใคร่ครวญ
ในวันนี้หาเวลาที่ท่านจะใคร่ครวญพิจารณาตนเอง แล้วเขียน 5
สิ่งที่สำคัญสุดในชีวิตของท่านทุกวันนี้
ที่ท่านใช้เงิน เวลา พลัง
และการทุ่มเทมากที่สุด
แล้วพิจารณาด้วยใจสัตย์ซื่อว่า
- พระเจ้าได้รับการยกย่อง ได้รับเกียรติจากการกระทำของท่านใน 5 สิ่งสำคัญสุดในชีวิตของท่านหรือไม่? ถ้าไม่? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
- ท่านจะทำอย่างไรที่จะมีสิ่งที่สำคัญสูงสุดในชีวิตของท่าน โดยพระเจ้ายังทรงเป็นเอกเป็นใหญ่ที่สุดในชีวิตของท่าน?
- ท่านจะทำเช่นไรที่ท่านจะ นิ่งสงบและรู้ว่าพระเจ้าเคียงข้างชีวิตของท่าน?
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น