อ่าน
เอเฟซัส 4:11-16
11...พระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต
บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ
บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ
บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์
12 เพื่อเตรียมธรรมิกชน(ประชากรของพระเจ้า) สำหรับการปรนนิบัติ(พันธกิจการรับใช้)
และ การเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์
(เอเฟซัส 4:11-12 มตฐ. ในวงเล็บมาจาก อมต.)
จากบทใคร่ครวญเอเฟซัส
4:11-12
ที่ผ่านมา เราได้เห็นแล้วว่า สมาชิกคริสตจักร หรือ ประชากรของพระเจ้า ทุกคนเป็นคนรับใช้ หรือ
ผู้รับใช้ของพระคริสต์
ซึ่งผู้รับใช้เหล่านี้ได้รับการบ่มเพาะ เสริมสร้าง
และฝึกฝนจากศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตจักร
ดังนั้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร
หรือมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งอะไร
ถ้าเราได้รับพระคุณของพระเจ้าโดยทางความเชื่อศรัทธาในพระเยซูคริสต์แล้ว เราทุกคนต่างเป็นผู้ร่วมรับใช้ในพระราชกิจของพระเยซูคริสต์
สัจจะความจริงประการนี้นำไปสู่คำถามว่า แล้วท่านรับใช้พระคริสต์ในงานอะไร?
แน่นอนครับในด้านหนึ่งเราท่านรับใช้พระคริสต์เกี่ยวกับพันธกิจด้านต่างๆ
ที่เราทำในคริสตจักรของเรา เช่น การสอนคริสเตียนศึกษา เป็นนักร้องในคณะนักร้อง เป็นผู้ผ่านถุงถวาย รับใช้ในฐานะผู้ปกครอง มัคนายก
เป็นกรรมการในคณะต่างๆ...
ซึ่งมีพันธกิจมากมายหลายอย่างที่เราสามารถรับใช้ในคริสตจักร และต่อจากพระธรรมตอนนี้ไปอีก 2-3 ข้อเราพบว่า แต่ละคนต่างมีความสำคัญทั้งนั้น
ถ้าคริสตจักรแห่งนั้นเป็นคริสตจักรที่มีชีวิตและเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ที่ผ่านมา...
เราอาจจะเข้าใจว่าสมาชิกทุกคนเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์
แต่เราส่วนใหญ่มักตกลงในกับดักความคิดความเข้าใจที่ว่า เราเป็นคนรับใช้พระคริสต์ “ในพันธกิจด้านต่างๆ
ในคริสตจักร” เท่านั้น
ซึ่งเป็นความคิดความเข้าใจที่คับแคบ
เรามักมองเห็นเพียงว่าคริสตชนเป็นคนรับใช้ในงานพันธกิจในคริสตจักร แต่กลับมองข้ามหรือมองไม่เห็นว่า เราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์ในพระราชกิจต่างๆ ของพระองค์ที่ทรงกระทำนอกคริสตจักร ที่ทรงกระทำในสังคมชุมชน เรายังคงจำได้ว่าในพระธรรมเอเฟซัสก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงแผนการของพระเจ้าที่ทรงรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในพระคริสต์
ที่เราได้รับการทรงสร้างใหม่ในพระคริสต์ก็เพื่อที่เราจะกระทำการดี
การดีที่ว่านี้คือการมีส่วนร่วมในการงานพระราชกิจการพลิกฟื้นทุกสิ่งทุกอย่างในโลกและจักรวาลนี้
ดังนั้น
พันธกิจงานรับใช้ของเราจึงมิใช่งานที่ทำในคริสตจักรเท่านั้น
แต่พันธกิจการรับใช้ของเราเป็นการที่เรารับใช้พระคริสต์ด้วยทั้งชีวิตของเรา เพื่อว่าเราจะมีชีวิตทุกมิติ ทั้งในครอบครัว ในที่ทำงาน
ในชุมชนสังคม ในกลุ่มเพื่อนฝูง และในชุมชนคริสตจักรด้วยการมีส่วนร่วมในการรับใช้ในพระราชกิจตามพระประสงค์ของพระคริสต์
อะไรคือพันธกิจที่เรารับใช้พระคริสต์ในชีวิตนี้?
คือการที่เรามอบกายถวายชีวิตทั้งสิ้นเพื่อรับใช้พระประสงค์ของพระองค์ ที่เราอุทิศทั้งชีวิตของเรารับใช้ผู้คนรอบข้างในพระนามของพระเจ้า เป็นการที่เราใช้ตะลันต์ ของประทาน
ความสามารถที่เราได้รับการฝึกฝนมา
และโอกาสทั้งสิ้นที่เราได้รับในการรับใช้และเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์คือชุมชนคริสตจักรให้เข้มแข็ง
และรวบรมทุกสิ่งทุกอย่างให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันในพระคริสต์
และเป็นการดำเนินชีวิตในทุกขณะจิตเพื่อพระเจ้า เพื่อพระประสงค์และพระสิริของพระองค์
ประเด็นสำหรับการใคร่ครวญ
1. ท่านเข้าใจอย่างไรว่าในฐานะที่ท่านเป็นสาวกที่ติดตามพระคริสต์ อะไรคือพันธกิจที่ท่านรับใช้พระองค์?
2. ท่านจะมีส่วนในการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์คือคริสตจักรให้เติบโตเข้มแข็งได้อย่างไร?
3. ชีวิตของท่านจะเปลี่ยนแปลงแตกต่างจากเดิมอย่างไรบ้าง ถ้าท่านเห็นว่าในทุกส่วนทุกมิติชีวิตของท่านเป็นไปเพื่อรับใช้พระคริสต์?
ใคร่ครวญภาวนา
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงเรียกข้าพระองค์ให้เข้ามามีส่วนร่วมรับใช้ในพระราชกิจของพระองค์
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงให้เกียรติให้โอกาสแก่ข้าพระองค์ได้รับใช้พระองค์ในสังคมโลกนี้
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยข้าพระองค์ให้ได้มีส่วนในการเสริมสร้างพระกายของพระองค์คือคริสตจักรให้จำเริญขึ้น
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงให้โอกาสแก่ข้าพระองค์ที่จะรับใช้พี่น้องผู้คนในสังคมชุมชนในพระนามของพระองค์
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดเมตตาช่วยข้าพระองค์ดำเนินชีวิตในทุกขณะในฐานะคนรับใช้ของพระองค์ โปรดช่วยข้าพระองค์ในการรับใช้พระองค์ แม้ในเวลาที่กำลังหุงหาอาหารสำหรับผู้คนในครอบครัว หรือเมื่อกำลังทำบัญชี หรือการยุติการขาย หรือ ในการเทศนา โปรดประทานนิมิตหมายที่คมชัดที่จะใช้ทั้งชีวิตนี้สำหรับพระราชกิจของพระองค์
เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างและทุกขณะในชีวิตข้าพระองค์เป็นที่ยกย่องถวายพระเกียรติแด่พระองค์
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499