15 ตุลาคม 2556

เมื่อขโมยได้รับรางวัล...?

ในช่วงทศวรรษ 1930ได้มีการตัดสินคดีที่ไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการปกติคดีหนึ่ง...

หญิงสูงอายุคนหนึ่งถูกจับในฐานะขโมยขนมปังหนึ่งแถว   ฟังไปแล้วเธอก็มีเหตุผลอยู่   เธอมีครอบครัวที่ยากจน   ต้องดูแลลูกสาวกับหลานน้อยอีกสองคนที่ถูกพ่อทิ้งหนีไป

แต่เจ้าของร้านปฏิเสธที่จะเลิกราการเอาผิดกับหญิงคนนี้   เขาคิดว่า   ถ้าคนที่ขโมยของผู้อื่นแล้วถูกปล่อยตัวให้ลอยนวลไปได้   จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่คนอื่นๆ แล้วจะมีคนเอาเป็นแบบอย่าง   หรือที่จะอ้างเหตุผลในทำนองนี้   เจ้าของร้านกลัวว่า   เขาจะไม่ได้รับความปลอดภัยอีกทั้งเป็นภัยต่อธุรกิจของเขา  

เขาต้องการเชือดไก่ให้ลิงกลัวครับ

แล้วเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ...

ในวันนั้นที่ศาล   ท่านเทศมนตรี แห่งนิวยอร์ก  Fiorello LaGuardia  ท่านเป็นผู้ตัดสินคดีเพ่งในศาลเป็นครั้งคราว   วันนี้ท่านได้ปรากฏตัวในศาลเพื่อพิจารณาตัดสินคดีนี้   ที่ผ่านมาท่านได้พิจารณาหลายคดีอย่างน่าสนใจ    ประชาชนรักท่านและเป็นที่รู้กันว่าท่านมีจุดยืนที่มั่นคงและยุติธรรม

ในการพิจารณาและตัดสินคดีความในวันนี้   ท่านได้มาที่หน้าบัลลังก์ศาล  ถอดหมวกของท่านแล้ววางลง   เริ่มพิจารณาคดี

ท่านกล่าวว่า  “เจ้าของร้านพูดถูกว่า คนที่กระทำผิดกฎหมายต้องได้รับโทษ”  แล้วหันหน้าไปพูดกับหญิงคนนั้นว่า “คุณจะต้องรับโทษถูกจำขังในคุก 10 วัน  หรือไม่ก็ต้องถูกปรับเป็นเงิน 10 เหรียญ”

หญิงสูงอายุคนนี้รู้ว่าเธอต้องเลือกถูกจำคุก 10 วัน   เพราะเงิน 10 เหรียญนั้นมากเกินกว่าที่เธอจะหามาได้   เจ้าของร้านแสดงสีหน้าพอใจและชื่นชมต่อคำพิพากษานั้น

แต่คนในศาลไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ขณะที่ท่านเทศมนตรีผู้ตัดสินคดีนี้ด้วยคำพิพากษาชัดถ้อยชัดคำนั้น   ท่านก็ล้วงเงินออกจากกระเป๋ากางเกงของท่าน 10 เหรียญ   แล้ววางธนบัตร 10 เหรียญนั้นลงในหมวก  แล้วประกาศว่า “ค่าปรับการกระทำผิดของหญิงคนนี้ได้รับการชำระแล้ว”  

ทุกคนในศาลมองไปที่ท่านเทศมนตรีด้วยความงงงวย ส่วนสีหน้าของเจ้าของร้านถอดสีซีดลง

ท่านเทศมนตรีจะหักหลังประชาชนเช่นนี้ได้อย่างไร?                        

ในเมื่อนักธุรกิจคนนี้ได้เสียภาษีเพื่อใช้เป็นเงินในการบริหารบ้านเมือง  แล้วหญิงยากจนคนนี้ที่ขโมย ทำผิดกฎหมายกลับได้รับการปล่อยตัวอย่างลอยนวล   เธอไม่ได้รับการลงโทษแต่อย่างไร   เรื่องเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

ผู้คนในศาลต่างไม่เข้าใจการตัดสินคดีของท่านเทศมนตรีในวันนั้น   แต่ท่านเทศมนตรีกล่าวต่อไปว่า...

“นอกจากที่ค่าปรับ 10 เหรียญได้รับการชำระแล้ว   ข้าพเจ้าขอปรับทุกคนที่อยู่ในศาลนี้คนละ 50เซนต์”

ผู้คนในศาลตกใจมากกว่าเดิมอีก   แต่ท่านเทศมนตรีกล่าวต่อไปว่า

“เพราะคนที่อยู่ในเมืองนี้ปล่อยปละละเลยให้มีคุณยายที่ต้องออกมาขโมยขนมปังเพื่อไปเลี้ยงลูกสาวและหลานสองคนให้มีชีวิตรอด...   เจ้าหน้าที่ศาลให้เก็บค่าปรับจากทุกคนที่อยู่ในศาลนี้  แล้วนำไปมอบให้แก่จำเลย”

เรื่องข้างต้นนี้หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง   แต่ผมไม่สามารถที่จะอ้างอิงหลักฐานชัดเจนได้

แต่ที่สำคัญคือ   เรื่องราวที่ยิ่งใหญ่เรื่องนี้ได้ให้บทเรียนชีวิตที่สำคัญแก่เราถึงความเมตตาและความรับผิดชอบด้วยทั้งชีวิตของเรา   ผมอ่านเรื่องนี้ที่ Chris Cadeนำมาเล่า  ชื่อเรื่อง “ทำไม...ขโมยได้รับรางวัล  แต่เหยื่อต้องได้รับโทษ?”  (Thief rewarded. Victim punished. WHY???)

วันนี้...ท่านเสียค่าปรับ 50เซนต์หรือยังครับ?

18จง​ฟัง​สิ พวก​เจ้า​คน​หู​หนวก
และ​จง​มอง​ดู​สิ พวก​เจ้า​คน​ตา​บอด เพื่อ​จะ​ได้​เห็น

19ใคร​เป็น​คน​ตา​บอด ถ้า​ไม่​ใช่​ผู้​รับ​ใช้​ของ​เรา?
หรือ​ใคร​หู​หนวก​เช่น​เดียว​กับ​ทูต​ของ​เรา​ที่​เรา​ใช้​ไป?
ใคร​ตา​บอด​เช่น​เดียว​กับ​ผู้​ผูก​พัน​กับ​เรา?
หรือ​ตา​บอด​เช่น​เดียว​กับ​ผู้​รับ​ใช้​ของ​พระ​ยาห์​เวห์?

20เจ้า​เห็น​หลาย​อย่าง แต่​ไม่​ได้​สังเกต
หู​ของ​เจ้า​ผึ่ง แต่​ไม่​ได้​ยิน(อิสยาห์ 42:18-20 มตฐ.)
1  ดูสิ ผู้​รับ​ใช้​ของ​เรา ผู้​ซึ่ง​เรา​เชิด​ชู
ผู้​เลือก​สรร​ของ​เรา ผู้​ซึ่ง​ใจ​เรา​ปีติ​ยินดี
เรา​เอา​วิญญาณ​ของ​เรา​ใส่​ไว้​บน​ท่าน
ท่าน​จะ​ส่ง​ความ​ยุติ​ธรรม​ออก​ไป​ยัง​บรรดา​ประ​ชา​ชาติ (อิสยาห์ 42:1 มตฐ.)

3 ไม้​อ้อ​ช้ำ​แล้ว ท่าน​จะ​ไม่​หัก
และ​ไส้​ตะเกียง​ริบ​หรี่​นั้น ท่าน​จะ​ไม่​ดับ
ท่าน​จะ​ส่ง​ความ​ยุติ​ธรรม​ออก​ไป​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์ 
4 ท่าน​จะ​ไม่​อ่อน​ล้า ​หรือ​ชอก​ช้ำ
จน​กว่า​ท่าน​จะ​สถาปนาความ​ยุติ​ธรรม​ไว้​ใน​โลก
และ​แผ่น​ดิน​ชาย​ทะเล​รอ​คอย​ธรรม​บัญญัติ​ของ​ท่าน (อิสยาห์ 42:3-34 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น