เราจะหนุนเสริมเพิ่มพลังผู้นำคริสตชนที่จิตวิญญาณเฉื่อยชาหมดแรงได้อย่างไร?
ช่วงนี้ผมได้พบเพื่อนศิษยาภิบาล
และ ผู้นำคริสเตียน เฉื่อยชาหมดแรงในชีวิตรับใช้หลายคน
ทำให้ผมคิดไปถึงเวลารถยนต์ของผมสตาร์ทไม่ติดเพราะแบตเตอรี่มีไฟไม่พอ
เนื่องจากผมจอดทิ้งไว้ไม่ได้ใช้เพราะเดินทางไปต่างจังหวัดนานถึง 10 วัน
ผมมีทางเลือกคือยกแบตเตอรี่ไปร้านชาร์ตแบตฯ หรือไม่ก็ซื้อแบตฯตัวใหม่มาใส่รถยนต์ แต่ผมไม่อยากเลือกทั้งสองทางเพราะไม่อยากเดินทางไปในเมืองเพื่อไปชาร์ตแบตฯหรือซื้อแบตฯใหม่ เหลือบไปเห็นรถยนต์ข้างบ้าน เลยไปขอความกรุณาเขาช่วยขับรถมาข้างหน้ารถยนต์ผม แล้ว “จั้มพ์” พ่วงสายไฟจากแบตฯของรถยนต์ของเพื่อนบ้านมาที่แบตฯรถของผม
เมื่อเครื่องยนต์ของเพื่อนบ้านติดแล้วผมก็สตาร์ทรถของผม รถของผมเครื่องติดอีกครั้งหนึ่งครับ ผมจัดการชาร์ตไฟต่อ และเอารถออกวิ่งไปสักพักหนึ่ง
จากประสบการณ์ดังกล่าว ผมถามตนเองว่า
เมื่อเราพบศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตชนที่แบตเตอรี่ไม่มีไฟแรงพอที่จะสตาร์ทชีวิตจิตวิญญาณของเขาในการรับใช้ได้ต่อไป เราจะช่วย “จั้มพ์” สายจากแบตเตอรี่ชีวิตผู้รับใช้คนหนึ่งไปยังศิษยาภิบาล
หรือ ผู้นำคริสตชนคนนั้นได้ไหม?
โดยปกติแล้ว
เราท่านในปัจจุบันมักติดกระแสคิดแบบสังคมโลกปัจจุบันว่า
การที่เราจะมีชีวิตที่สำเร็จเกิดผลนั้นเพราะเรามุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเทชีวิตของเราในการทำงานในการรับใช้ ด้วยเหตุนี้ชีวิตของศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตชนจึงเป็นชีวิตที่มีแต่คำว่า
“ยุ่ง ยุ่ง ยุ่ง...ไม่ว่าง ไม่ว่าง ไม่ว่าง”
และบ่อยครั้งผู้นำคริสตชนเหล่านี้กลับสำคัญไปว่า ชีวิตที่ยุ่งๆ ไม่ว่างเช่นนี้แสดงถึงประสิทธิภาพและรู้สึกมีคุณค่าในการขับเคลื่อนชีวิตการงานเสียอีก
แต่สิ่งที่ต้องตระหนักชัดคือ ถ้าแบตเตอรี่ชีวิตของใครก็ตามที่ติดเครื่อง ใช้ไฟไปเท่านั้น แต่ไม่ชาร์ตไฟไปพร้อมกัน มีหวังไฟอ่อนจนหมดไฟชีวิตจิตวิญญาณก็ได้
พระเยซูคริสต์ได้สอนด้วยคำเปรียบเทียบว่า ในฐานะคริสตชน ชีวิตของเราต้องชาร์ตไฟแบตเตอรี่ชีวิตจิตวิญญาณของเราเสมอ และจะต้องมีมุมมองคุณค่าชีวิตหรือมองชีวิตที่เกิดผลว่า มันมิได้เกิดขึ้นหรือสำเร็จด้วยตนเอง แต่การที่เราคริสตชนจะมีชีวิตที่สำเร็จเกิดผลนั้น เพราะเราได้รับพลังด้านต่างๆ ในชีวิตจากแหล่งกำเนิดแห่งพลังชีวิตจิตวิญญาณใหญ่
พระเยซูคริสต์ตรัสสอนว่า
1“เราเป็นเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราทรงเป็นผู้ดูแลรักษา 2แขนงทุกแขนงในเราที่ไม่ออกผล
พระองค์ก็ทรงตัดทิ้งเสีย และแขนงทุกแขนงที่ออกผล
พระองค์ก็ทรงลิดเพื่อให้ออกผลมากขึ้น... 3พวกท่านได้รับการชำระให้สะอาดแล้วด้วยถ้อยคำที่เรากล่าวกับท่าน
4จงติดสนิทอยู่กับเราและเราติดสนิทอยู่กับพวกท่าน
แขนงจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเถา
พวกท่านก็เช่นเดียวกันจะเกิดผลไม่ได้นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเรา 5เราเป็นเถาองุ่น
พวกท่านเป็นแขนง คนที่ติดสนิทอยู่กับเราและเราติดสนิทอยู่กับเขา
คนนั้นจะเกิดผลมาก
เพราะว่าถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย...” (ยอห์น 15:1-5 มตฐ.)
เวลาใดก็ตามเราใช้แต่ไฟแบตเตอรี่ชีวิตของเราเอง โอกาสที่ไฟอ่อนไฟหมดเกิดขึ้นได้เสมอครับ แต่ถ้าชีวิตของเราติดสนิทกับพระเจ้า เหมือนกิ่งติดสนิทกับต้นเช่นไร
โอกาสที่แบตเตอรี่ชีวิตจะได้รับการชาร์ตไฟเสมอจากพระเจ้าย่อมทำให้เรามีไฟชีวิตจิตวิญญาณที่จะทำให้เครื่องรถติดและขับเคลื่อนได้
ศิษยาภิบาล
และ ผู้นำคริสตชนที่มีแบตเตอรี่ชีวิตจิตวิญญาณที่ติดสนิทกับพระเจ้าก็จะได้รับการชาร์ตไฟเสมอจากพระองค์ และเมื่อพบศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตชนที่แบตเตอรี่ไฟอ่อนหรือหมดไฟ เราสามารถหนุนเสริมเพิ่มพลังด้วยการ “จัมพ์”
สายจากแบตเตอรี่ชีวิตจิตวิญญาณของเราไปยังแบตเตอรี่ของเขา เพื่อช่วยให้เขาสตาร์ทเครื่องชีวิตจิตวิญญาณของการเป็นผู้นำและศิษยาภิบาลได้อีกครั้งหนึ่ง
เราสามารถที่จะอยู่เคียงข้างศิษยาภิบาลและผู้นำคริสตชนคนนั้น และร่วมกับเขาในการที่จะเข้าติดสนิทกับองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยกันจนกระทั่งชีวิตจิตวิญญาณของเขาสามารถขับเคลื่อนการรับใช้ตามพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า และด้วยพลังจากองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ส่งเข้าในชีวิตของเขาเมื่อเขาติดสนิทกับพระองค์
วันนี้เมื่อท่านขับเคลื่อนชีวิตจิตวิญญาณ ท่านใช้แต่ไฟที่เหลืออยู่
หรือท่านได้รับการชาร์ตเติมเต็มไฟชีวิตจิตวิญญาณจากเบื้องบน? และอย่าลืมนำสาย “จั้มพ์”
แบตเตอรี่ติดชีวิตของท่านไปด้วย
เพื่อว่าเมื่อท่านพบเพื่อนบ้านที่แบตเตอรี่หมดไฟ ท่านจะได้ช่วย “จั้มพ์”
ไฟจากรถของท่านเพื่อสตาร์ทการขับเคลื่อนรับใช้ของเพื่อนบ้านต่อไป
นี่เป็นงานแห่งการทรงเรียกจากเบื้องบนสำหรับท่านด้วยเช่นกันในวันนี้ครับ
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail:
prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น