แม้ศิษยาภิบาลเกษียณอายุแล้ว
แต่ยังไม่เกษียณจากพันธกิจชีวิต
ถึงแม้จะเป็นศิษยาภิบาลที่สูงอายุ
แต่ก็ควรได้รับการอภิบาลชีวิตด้วยมิใช่หรือ?
ในช่วงที่ผมยังมีโอกาสไปเยี่ยมคริสตจักรในพื้นที่ต่าง
ๆ นอกจากที่ได้พบกับศิษยาภิบาล ธรรมกิจ และ สมาชิกคริสตจักรแล้ว ในพื้นที่ที่มีศิษยาภิบาลสูงอายุที่เกษียณอายุจากการรับใช้แล้ว
ผมจะพยายามหาโอกาสพูดคุยสัมภาษณ์ท่านถึงสภาพชีวิตที่เป็นอยู่ในช่วงสูงวัยของท่าน และนี่คือสิ่งที่ผมได้ยินได้ฟังและได้เรียนรู้ถึงชีวิตของ
“ผู้รับใช้อภิบาลชีวิตคริสตจักรและชุมชน” และในช่วงท้ายของชีวิตที่ท่านเป็นอยู่
[1]
เป้าหมายชีวิตช่วงสูงวัยของศิษยาภิบาล
จากผู้อภิบาลที่เทศนาเกือบทุกอาทิตย์
และ หลายอาทิตย์ต้องเทศนามากกว่า 2-3 ครั้ง ต้องออกไปเยี่ยมเยียนครอบครัวต่าง ๆ นั่งพูดคุยกับผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านที่เวลาส่วนใหญ่ต้องนอนเหงาอยู่คนเดียว
ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล กุมมือคนเจ็บป่วยอธิษฐานด้วยกัน อบรมสั่งสอนให้ผู้คนเติบโตขึ้นในความเชื่อ
ชีวิต จิตวิญญาณ ทำพิธีแต่งงาน ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับบ้านใหม่ของสมาชิก ให้บัพติสมา
ประกอบพิธีมหาสนิท เลี้ยงดูลูกแกะของพระคริสต์ ทำพิธีศพเมื่อถึงบั้นปลายของชีวิตสมาชิก
แล้วจู่ ๆ วันหนึ่ง ท่านกลายเป็นศิษยาภิบาลสูงอายุที่เกษียณจากการอภิบาลชีวิตคริสตจักร
ยิ่งนานวัน
ยิ่งเงียบเหงา
ยิ่งดูเหมือนชีวิตลดคุณค่าลง
จากชีวิตที่เคยมีงานพันธกิจล้นมือในแต่ละวัน
ใจยังต้องการทำในสิ่งที่เคยทำ เทศนา สอนพระคัมภีร์ แต่วันนี้กลับต้องอยู่เงียบเหงา
บางคนเส้นผมบนศีรษะเริ่มขาวโพลนหรือไม่ก็บางเบาโล่งล้าน แต่ที่น่าเศร้าใจคือ ลึก ๆ
ในจิตใจของอดีตศิษยาภิบาลหลายท่านรู้สึกว่าตนเองมีค่าลดน้อยถอยลง
ต้องยอมรับว่า
ศิษยาภิบาลเกษียณอายุเหล่านี้ท่านทุ่มเทเวลาที่ผ่านมาในการรับใช้ ไม่มีโอกาสเตรียมตัว
เตรียมใจ และจิตวิญญาณเข้าสู่ภาวการณ์เป็นศิษยาภิบาลผู้สูงอายุ
ผมมีโอกาสพบกับท่านศิษยาภิบาลสูงอายุ
หรือ ศิษยาภิบาลอาวุโส ท่านบอกว่าเมื่อเกษียณอายุตอนแรก ๆ ท่านเกือบตั้งตัวไม่ได้ ท่านบอกว่าท่านต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า
“แล้วตอนนี้พระองค์ต้องการให้ผมทำอะไร?”
อะไรคือเป้าหมายชีวิตของอดีตศิษยาภิบาลที่สูงอายุ?
ศิษยาภิบาลที่เกษียณอายุการอภิบาลหลายท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ว่า
เมื่อต้องอยู่ในภาวะวัยเกษียณท่านพบว่า
นี่เป็นช่วงโอกาสใหม่ที่ท่านจะรับใช้พระเยซูคริสต์ ท่านยังรับใช้เป็นผู้อภิบาลอาวุโสได้โดยไม่ต้องมีตำแหน่ง
เช่น
ท่านยังสามารถสอนพระคัมภีร์ในกลุ่มผู้สนใจ ติดตามสมาชิกที่หลงหาย ช่วยสร้างสาวกพระคริสต์เป็นการส่วนตัว โดยเฉพาะเป็นพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษาชีวิต
ในช่วงเกษียณอายุจากพันธกิจการอภิบาลเป็นโอกาสที่จะเป็นสามี
หรือ ภรรยา ที่ดี เป็นพ่อหรือแม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งตอนที่เป็นศิษยาภิบาลอาจจะไม่ค่อยมีเวลาทำได้อย่างเต็มที่
ในเวลาเดียวกัน
คริสตจักรก็ไม่ควรมองข้ามคุณค่า สติปัญญา และ ประสบการณ์ดีดีมากมายที่มีในตัวของศิษยาภิบาลเกษียณอายุ
และหลายท่ายังสามารถทำพันธกิจบางอย่างได้อย่างดี แต่คริสตจักรต้องรู้เท่าทันว่า ศิษยาภิบาลเกษียณอายุเหล่านี้รอให้เราขอ
รอให้เราเชิญเข้าร่วมพันธกิจ เพราะท่านเหล่านี้ระมัดระวังที่จะไม่เข้ามาครอบงำผู้อภิบาลของคริสตจักร
ศิษยาภิบาลปัจจุบันอาจจะพิจารณาว่า
ผู้อภิบาลเกษียณอายุยังสามารถที่จะเป็นที่ปรึกษา
เป็นโค้ชส่วนตัวของศิษยาภิบาลหนุ่มสาวหรือที่ปรึกษาของคณะธรรมกิจหรือไม่ และถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงของคริสตจักรอย่ามองข้ามค่าสมนาคุณเล็ก
ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะมีค่ามากสำหรับศิษยาภิบาลที่เกษียณอายุ ที่มีสวัสดิการชีวิตที่จำกัด
หรือ บางท่านไม่มีเลย
[2]
ศิษยาภิบาลเกษียณยังจำเป็นต้องกินต้องใช้
ศิษยาภิบาลเกษียณอายุหลายท่านที่รับใช้ในคริสตจักรบนที่สูง
ชนบท หรือ คริสตจักรขนาดเล็ก ท่านเหล่านี้ได้รับเงินค่าตอบแทนที่จำกัดจำเขี่ย หลายท่านที่เกษียณแล้วมิได้มีเงินก้อน
เงินสวัสดิการสังคม หรือเงินเกษียณอายุอย่างทำงานราชการ หรือ ในหน่วยงาน สถาบัน แต่ปัจจุบันนี้ค่าใช้จ่ายประจำวันสูงขึ้น
ทั้งค่าอาหาร และเครื่องใช้จำเป็นต่าง ๆ และค่าพยาบาลรักษาสุขภาพก็แพงผิดหูผิดตาจากอดีต
ศิษยาภิบาลเกษียณเกือบทุกคนแม้จะอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ถึงหลังพวกท่านเหล่านี้จะไม่เอ่ยปากขอ
ท่านเหล่านี้เป็นผู้ให้มาตลอดชีวิตของท่าน ยอมเสียสละเพื่อเห็นแก่ชีวิตของผู้อื่น เมื่อครอบครัวคริสตจักรรู้ว่าครอบครัวของท่านเหล่านี้ได้รับความทุกข์ยากลำบาก
คริสตจักรควรใส่ใจและให้การช่วยเหลือหนุนเสริมศิษยาภิบาลเกษียณและคู่ชีวิต
[3]
ผู้อภิบาลเกษียณอายุต้องการความสัมพันธ์
เมื่อศิษยาภิบาลเกษียณยังมีคู่ชีวิต
ลูกหลาน หรือ พี่น้องล้อมหน้าล้อมหลัง ดูเหมือนว่าเขามีความอบอุ่นและมีความสัมพันธ์ที่ดี
แต่ถ้าเป็นศิษยาภิบาลเกษียณอายุที่คู่ชีวิตจากไป ลูกหลานอยู่ไกล หรือ ไม่มีลูกหลาน
ตัวศิษยาภิบาลเกษียณต้องอยู่ตัวคนเดียวในกรณีนี้ คริสตจักร หรือ
สมาชิกคริสตจักรจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ทำอย่างไรที่จะช่วยไม่ให้รู้สึกว่าต้องอยู่โดดเดี่ยวตัวคนเดียว
ยังมีสมาชิกคริสตจักรไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนอยู่สม่ำเสมอ และเอาใจใส่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของศิษยาภิบาลเกษียณอายุ
และมีผู้คอยช่วยพาศิษยาภิบาลเกษียณอายุไปร่วมงานพันธกิจต่าง ๆ ของคริสตจักรเท่าที่ตัวท่านเองจะสะดวก
และ ไปร่วมได้
ให้เราใส่ใจที่จะอภิบาลชีวิตผู้รับใช้ที่เคยอภิบาลผู้อื่นมาตลอดชีวิตด้วยครับ
คริสตจักรของท่าน
เอาใจใส่ อภิบาลศิษยาภิบาลเกษียณอย่างไรบ้างครับ? เชิญแบ่งปันประสบการณ์กันหน่อยครับ
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น