15 มิถุนายน 2563

ใครเอาศิษยาภิบาลเกษียณไปไว้ไหน?

แม้ศิษยาภิบาลเกษียณอายุแล้ว  
แต่ยังไม่เกษียณจากพันธกิจชีวิต 
ถึงแม้จะเป็นศิษยาภิบาลที่สูงอายุ 
แต่ก็ควรได้รับการอภิบาลชีวิตด้วยมิใช่หรือ?

ในช่วงที่ผมยังมีโอกาสไปเยี่ยมคริสตจักรในพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากที่ได้พบกับศิษยาภิบาล ธรรมกิจ และ สมาชิกคริสตจักรแล้ว ในพื้นที่ที่มีศิษยาภิบาลสูงอายุที่เกษียณอายุจากการรับใช้แล้ว ผมจะพยายามหาโอกาสพูดคุยสัมภาษณ์ท่านถึงสภาพชีวิตที่เป็นอยู่ในช่วงสูงวัยของท่าน และนี่คือสิ่งที่ผมได้ยินได้ฟังและได้เรียนรู้ถึงชีวิตของ “ผู้รับใช้อภิบาลชีวิตคริสตจักรและชุมชน” และในช่วงท้ายของชีวิตที่ท่านเป็นอยู่

[1] เป้าหมายชีวิตช่วงสูงวัยของศิษยาภิบาล

จากผู้อภิบาลที่เทศนาเกือบทุกอาทิตย์ และ หลายอาทิตย์ต้องเทศนามากกว่า 2-3 ครั้ง ต้องออกไปเยี่ยมเยียนครอบครัวต่าง ๆ นั่งพูดคุยกับผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านที่เวลาส่วนใหญ่ต้องนอนเหงาอยู่คนเดียว ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาล กุมมือคนเจ็บป่วยอธิษฐานด้วยกัน อบรมสั่งสอนให้ผู้คนเติบโตขึ้นในความเชื่อ ชีวิต จิตวิญญาณ ทำพิธีแต่งงาน ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับบ้านใหม่ของสมาชิก ให้บัพติสมา ประกอบพิธีมหาสนิท เลี้ยงดูลูกแกะของพระคริสต์ ทำพิธีศพเมื่อถึงบั้นปลายของชีวิตสมาชิก แล้วจู่ ๆ วันหนึ่ง ท่านกลายเป็นศิษยาภิบาลสูงอายุที่เกษียณจากการอภิบาลชีวิตคริสตจักร  

ยิ่งนานวัน ยิ่งเงียบเหงา  ยิ่งดูเหมือนชีวิตลดคุณค่าลง

จากชีวิตที่เคยมีงานพันธกิจล้นมือในแต่ละวัน ใจยังต้องการทำในสิ่งที่เคยทำ เทศนา สอนพระคัมภีร์ แต่วันนี้กลับต้องอยู่เงียบเหงา บางคนเส้นผมบนศีรษะเริ่มขาวโพลนหรือไม่ก็บางเบาโล่งล้าน แต่ที่น่าเศร้าใจคือ         ลึก ๆ ในจิตใจของอดีตศิษยาภิบาลหลายท่านรู้สึกว่าตนเองมีค่าลดน้อยถอยลง

ต้องยอมรับว่า ศิษยาภิบาลเกษียณอายุเหล่านี้ท่านทุ่มเทเวลาที่ผ่านมาในการรับใช้ ไม่มีโอกาสเตรียมตัว เตรียมใจ และจิตวิญญาณเข้าสู่ภาวการณ์เป็นศิษยาภิบาลผู้สูงอายุ

ผมมีโอกาสพบกับท่านศิษยาภิบาลสูงอายุ หรือ ศิษยาภิบาลอาวุโส ท่านบอกว่าเมื่อเกษียณอายุตอนแรก ๆ ท่านเกือบตั้งตัวไม่ได้ ท่านบอกว่าท่านต้องอธิษฐานต่อพระเจ้าว่า “แล้วตอนนี้พระองค์ต้องการให้ผมทำอะไร?”  

อะไรคือเป้าหมายชีวิตของอดีตศิษยาภิบาลที่สูงอายุ?

ศิษยาภิบาลที่เกษียณอายุการอภิบาลหลายท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ว่า เมื่อต้องอยู่ในภาวะวัยเกษียณท่านพบว่า   นี่เป็นช่วงโอกาสใหม่ที่ท่านจะรับใช้พระเยซูคริสต์ ท่านยังรับใช้เป็นผู้อภิบาลอาวุโสได้โดยไม่ต้องมีตำแหน่ง เช่น   ท่านยังสามารถสอนพระคัมภีร์ในกลุ่มผู้สนใจ ติดตามสมาชิกที่หลงหาย ช่วยสร้างสาวกพระคริสต์เป็นการส่วนตัว   โดยเฉพาะเป็นพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษาชีวิต

ในช่วงเกษียณอายุจากพันธกิจการอภิบาลเป็นโอกาสที่จะเป็นสามี หรือ ภรรยา ที่ดี เป็นพ่อหรือแม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งตอนที่เป็นศิษยาภิบาลอาจจะไม่ค่อยมีเวลาทำได้อย่างเต็มที่

ในเวลาเดียวกัน คริสตจักรก็ไม่ควรมองข้ามคุณค่า สติปัญญา และ ประสบการณ์ดีดีมากมายที่มีในตัวของศิษยาภิบาลเกษียณอายุ และหลายท่ายังสามารถทำพันธกิจบางอย่างได้อย่างดี แต่คริสตจักรต้องรู้เท่าทันว่า ศิษยาภิบาลเกษียณอายุเหล่านี้รอให้เราขอ รอให้เราเชิญเข้าร่วมพันธกิจ เพราะท่านเหล่านี้ระมัดระวังที่จะไม่เข้ามาครอบงำผู้อภิบาลของคริสตจักร

ศิษยาภิบาลปัจจุบันอาจจะพิจารณาว่า ผู้อภิบาลเกษียณอายุยังสามารถที่จะเป็นที่ปรึกษา เป็นโค้ชส่วนตัวของศิษยาภิบาลหนุ่มสาวหรือที่ปรึกษาของคณะธรรมกิจหรือไม่ และถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงของคริสตจักรอย่ามองข้ามค่าสมนาคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะมีค่ามากสำหรับศิษยาภิบาลที่เกษียณอายุ ที่มีสวัสดิการชีวิตที่จำกัด หรือ บางท่านไม่มีเลย

[2] ศิษยาภิบาลเกษียณยังจำเป็นต้องกินต้องใช้

ศิษยาภิบาลเกษียณอายุหลายท่านที่รับใช้ในคริสตจักรบนที่สูง ชนบท หรือ คริสตจักรขนาดเล็ก ท่านเหล่านี้ได้รับเงินค่าตอบแทนที่จำกัดจำเขี่ย หลายท่านที่เกษียณแล้วมิได้มีเงินก้อน เงินสวัสดิการสังคม หรือเงินเกษียณอายุอย่างทำงานราชการ หรือ ในหน่วยงาน สถาบัน แต่ปัจจุบันนี้ค่าใช้จ่ายประจำวันสูงขึ้น ทั้งค่าอาหาร และเครื่องใช้จำเป็นต่าง ๆ และค่าพยาบาลรักษาสุขภาพก็แพงผิดหูผิดตาจากอดีต

ศิษยาภิบาลเกษียณเกือบทุกคนแม้จะอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ถึงหลังพวกท่านเหล่านี้จะไม่เอ่ยปากขอ ท่านเหล่านี้เป็นผู้ให้มาตลอดชีวิตของท่าน ยอมเสียสละเพื่อเห็นแก่ชีวิตของผู้อื่น เมื่อครอบครัวคริสตจักรรู้ว่าครอบครัวของท่านเหล่านี้ได้รับความทุกข์ยากลำบาก คริสตจักรควรใส่ใจและให้การช่วยเหลือหนุนเสริมศิษยาภิบาลเกษียณและคู่ชีวิต

[3] ผู้อภิบาลเกษียณอายุต้องการความสัมพันธ์

เมื่อศิษยาภิบาลเกษียณยังมีคู่ชีวิต ลูกหลาน หรือ พี่น้องล้อมหน้าล้อมหลัง ดูเหมือนว่าเขามีความอบอุ่นและมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่ถ้าเป็นศิษยาภิบาลเกษียณอายุที่คู่ชีวิตจากไป ลูกหลานอยู่ไกล หรือ ไม่มีลูกหลาน ตัวศิษยาภิบาลเกษียณต้องอยู่ตัวคนเดียวในกรณีนี้ คริสตจักร หรือ สมาชิกคริสตจักรจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ทำอย่างไรที่จะช่วยไม่ให้รู้สึกว่าต้องอยู่โดดเดี่ยวตัวคนเดียว ยังมีสมาชิกคริสตจักรไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนอยู่สม่ำเสมอ และเอาใจใส่สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของศิษยาภิบาลเกษียณอายุ และมีผู้คอยช่วยพาศิษยาภิบาลเกษียณอายุไปร่วมงานพันธกิจต่าง ๆ ของคริสตจักรเท่าที่ตัวท่านเองจะสะดวก และ ไปร่วมได้

ให้เราใส่ใจที่จะอภิบาลชีวิตผู้รับใช้ที่เคยอภิบาลผู้อื่นมาตลอดชีวิตด้วยครับ

คริสตจักรของท่าน เอาใจใส่ อภิบาลศิษยาภิบาลเกษียณอย่างไรบ้างครับ? เชิญแบ่งปันประสบการณ์กันหน่อยครับ

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น