09 มิถุนายน 2563

เมื่อความแปลกใหม่ผ่านเลยไป...

คนเข้าร่วมการนมัสการออนไลน์เริ่มลดลง

หลายคริสตจักรตื่นเต้นกับการทำรายการนมัสการออนไลน์ที่มีทั้งสมาชิก และ ผู้สนใจเข้าชมรายการจำนวนไม่น้อยเลย จนทำให้ศิษยาภิบาลหลายท่านทำรายการอื่น ๆ ออนไลน์เพิ่มในวันอื่น ๆ ระหว่างสัปดาห์มากขึ้น แต่ถ้าสังเกตให้ดี ในขณะนี้หลายคริสตจักรกำลังเห็นว่ามีจำนวนคนเข้าร่วมรายการออนไลน์ลดลง ทำให้ผมถามตนเองว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้?  

เพื่อนผมบอกว่า “เพราะการตลาดของคริสตจักรไม่เจ๋งพอ” ผมงงครับ!!!!!

ผมยังคงถามตนเองว่า แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้เข้าร่วมเข้าชมหรือการเข้าร่วมนมัสการออนไลน์ลดลง?   สาเหตุหนึ่งคือ...

(1) ความรู้สึกแปลกใหม่กำลังผ่านเลยไป

ไม่ว่าคริสตจักรของท่านจะเคยมีการถ่ายทอดสดการนมัสการผ่านออนไลน์ก่อนวิกฤตโควิด 19 หรือไม่ก็ตาม คงต้องพบกับการตอบรับตื่นเต้นกับการนมัสการออนไลน์ไประยะหนึ่ง เกิดความตื่นเต้นสนใจเพราะเป็น “สิ่งแปลกใหม่” ที่กำลังเกิดขึ้น และนี่มิใช่เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจ และเมื่อทำไปสักระยะเวลาหนึ่งแล้วความรู้สึกตื่นเต้นสนใจในความแปลกใหม่ก็ผ่านเลยไป จำนวนคนที่เข้าชม/ร่วมในการนมัสการออนไลน์เริ่มลดน้อยลง

(2) ประกอบกับในช่วงการรักษาระยะห่างทั้งระหว่างบุคคล และ สังคม หรือช่วงการเก็บกักตัวในบ้านหรือห้องพักได้ผ่านเลยไป และยิ่งคลายล็อคในระยะต่อมา โอกาสออกไปแสวงหาการผ่อนคลาย ความรื่นรมย์ การพบปะกันเริ่มทำกันมากขึ้น มีทางเลือกมากมายกว่าการที่ต้องเข้าชม/เข้าร่วมการนมัสการออนไลน์ นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้ผู้เข้าร่วมในการนมัสการออนไลน์น้อยลง

(3) ในเวลาเดียวกัน เราคงต้องยอมรับว่า จะมีสมาชิกส่วนหนึ่งที่ยังนิยมคุ้นชินกับการนมัสการแบบการพบปะตัวกัน ซึ่งส่วนมากจะมีอายุวัยกลางคนค่อนไปสู่วัยสูงอายุ ส่วนนี้เมื่อเปิดให้มีการนมัสการที่อาคารคริสตจักร สมาชิกกลุ่มนี้จะมาที่คริสตจักรโดยไม่ต้องพึ่งการนมัสการออนไลน์ต่อไป จำนวนคนส่วนนี้ที่เคยเข้าร่วมในการนมัสการออนไลน์ก็จะลดลงด้วย

แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นเราต้องลงถึงรากแก้วของการนมัสการพระเจ้าว่า การที่เรามีการนมัสการพระเจ้าจะเป็นการมาร่วมพบปะกัน หรือ การนมัสการพระเจ้าออนไลน์นั้นเป้าหมาย/จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่? อย่าเน้นความสำคัญโดยการวัดที่จำนวนผู้เข้าชมเข้าร่วมเท่านั้น

ประการแรก การนมัสการพระเจ้าไม่ใช่การบริโภคสินค้าและการบริการ ที่ลูกค้ามักถูกกระตุ้นการบริโภคด้วยความแปลกใหม่ในลักษณะต่าง ๆ การนมัสการพระเจ้าเป็นกระบวนการในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่องไปตลอดช่วงชีวิตของเรา โดยมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันที่จะหนุนเสริมความเชื่อและการดำเนินชีวิตให้เจริญเติบโตขึ้น เข้มแข็ง และเกิดผล

ประการที่สอง เป้าหมายปลายทางของการนมัสการพระเจ้าไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตามก็เพื่อที่จะสร้างเสริมให้แต่ละคนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น และความสัมพันธ์ที่ถูกต้องเหมาะสม และใกล้ชิดกับพระเจ้านี้เองที่นำคน ๆ นั้นให้มีสัมพันธภาพที่ดีและสร้างสรรค์กับคนอื่นรอบข้างที่ตนสัมผัสและสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน

ประการที่สาม การนมัสการพระเจ้าแท้จริงแล้วมีในทุกวันของชีวิต มิใช่มีแต่เช้าวันอาทิตย์เท่านั้น การนมัสการพระเจ้าเป็นเวลาของการฟังคำสอน เรียนรู้ ย้ำเตือน ตักเตือนตนเองเสมอว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่สูงสุดสำคัญสุดในชีวิตประจำวันของเรา ดังนั้น เราจะต้องมีชีวิตประจำวันที่เชื่อฟังดำเนินชีวิตประจำวันตามพระประสงค์ของพระเจ้า   ในทุกด้านทุกมิติของชีวิต

อย่าให้ “ความแปลกใหม่” “ความตื่นเต้นเร้าใจ” “ความเจ๋ง” “ความน่าสนใจ” หรือ “ความสนุก”   อันเป็นเทคนิค วิธีการ มาเป็นตัวล่อตัวฉุด ตัวเร้าใจในการนมัสการพระเจ้า แต่ให้เรานมัสการพระเจ้าด้วยชีวิต จิตใจ ด้วยจิตวิญญาณและความจริงในชีวิตประจำวันของเรา อันเป็นความสดใหม่ในเนื้อแท้แห่งชีวิตของเราแต่ละคน

ความแปลกใหม่ที่เราต้องได้รับจากเบื้องบนคือ ความแปลกใหม่ในเนื้อหาสาระแห่งความเชื่อศรัทธาของเราต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่เป็นตัวชี้นำ บ่มเพาะความเชื่อและการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้เข้าร่วมในการนมัสการแต่ละคน
ถ้าเช่นนั้น ความแปลกใหม่ในชีวิตจะไม่ผ่านเลยไปแม้แต่วันเดียวเพราะ...

[22] ความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง
และพระกรุณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด

[23] เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า
ความเที่ยงตรงของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก

(บทเพลงคร่ำครวญ 3:22-23 มตฐ.)

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น