แต่ไม่มีใคร
“กักกัน”พระกิตติคุณได้?
อย่าสูญเสียโอกาสช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด
19 อย่างน่ากลัว ในการแผ่อิทธิพลของพระกิตติคุณเข้าในชีวิตผู้คน-สังคมชุมชนรอบข้างเรา
คงไม่เป็นการกล่าวเกินเลยว่า
ชีวิตที่ผ่านมาไม่มีช่วงเวลาใดที่มีโอกาสในการประกาศพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้อย่างน่าอัศจรรย์เท่ากับวิกฤติชีวิตของผู้คนในช่วงเวลานี้
เราพบว่าช่วงเวลาวิกฤติชีวิตเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนแสวงหาความช่วยเหลือ แสวงหาที่พึ่ง
แสวงหาที่ยึดที่เกาะในชีวิตของเขา และเราพบว่า
ผู้คนเหล่านี้ยอมรับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เป็นสรณะ
เป็นรากฐานในชีวิตของพวกเขา
ขอตั้งข้อสังเกตว่า
น่าอัศจรรย์ประหลาดใจแค่ไหน ที่ผู้คนต้อง “รักษาระยะห่างทั้งทางกาย และ
สังคม” และรวมไปถึงคนที่ต้อง
“เก็บกักตนเองอยู่ในบ้านหรือในห้อง” แต่พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์กลับแผ่อิทธิพลเข้าในชีวิตของผู้คนเหล่านี้ได้อย่างมากกว่าโอกาสอื่นใดที่ผ่านมาอย่างน่าแปลกใจ?
แต่ที่แน่ชัดต้องบอกก่อนว่า
นี่มิใช่สิ่งดี (หรือ ความดี) ที่เกิดจากเจ้าเชื้อโควิด ละนี่ก็มิใช่ “โอกาสดี” ที่เจ้าเชื้อร้ายโควิด
19 หยิบยื่นให้เรา แต่นี่เป็นพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ที่ทรงชี้นำและกระทำผ่านชีวิตประจำวันในช่วงวิกฤตินี้ของเราท่ามกลางการถล่มทลายทำลายชีวิตของผู้คนโดยเจ้าเชื้อวายร้ายตัวนี้
เปาโลมีประสบการณ์กับสถานการณ์คล้ายที่เราประสบในเวลานี้มาก่อน
เมื่อเปาโลถูกคุมตัวไปถึงโรม ท่านถูกจำจองในบ้านเช่าที่มีทหารคอยคุมตัวตลอดเวลา
(กิจการ 28:16) เพื่อรอเวลาที่จะถูกส่งตัวเข้าเฝ้ากษัตริย์เนโรห์ แต่เปาโลก็ได้พบแนวทางที่ทำให้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์แพร่ออกไป
ใน ฟีลิปปี 1:12-13 เขียนไว้ว่า
“[12] พี่น้องทั้งหลาย
บัดนี้ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เกิดกับข้าพเจ้ากลับทำให้ข่าวประเสริฐแพร่ออกไป [13]จนทหารทั้งปวงที่รักษาวัง (หรือคนทั้งวัง)
และคนอื่น ๆ ทุกคนประจักษ์ทั่วกันว่าข้าพเจ้าถูกจองจำเพื่อพระคริสต์” (ฟีลิปปี
1:12-13 อมธ.) ตามข้อมูลในประวัติศาสตร์พบว่า
ทหารหลายคนที่คอยควบคุมดูแลเปาโลได้กลับใจเชื่อในพระเยซูคริสต์
มีคำถามว่า
แล้วในวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในขณะนี้
พระกิตติคุณจะเข้าถึงชีวิตของผู้คนในชุมชนได้อย่างไร?
มีอยู่
3 ประการที่คริสตชนจะต้องทำร่วมกันในพระราชกิจของพระเจ้า ถ้าต้องการให้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์แผ่อิทธิพลเข้าไปในชีวิตจิตใจของผู้คนที่ถูกครอบงำด้วยภัยร้ายจากผลกระทบของโควิด
19 คริสตชนต้อง อธิษฐาน ใส่ใจเพื่อนบ้าน แบ่งปันทุ่มเทชีวิต
อธิษฐาน
การอธิษฐานคือเคล็ดลับความสำเร็จของเปาโลในการประกาศพระกิตติคุณ
เปาโลอธิษฐานเพื่อผู้คนอย่างไม่ย่อท้อหยุดหย่อนทั้งชีวิต เพื่อให้คนเหล่านั้นได้รับความรอด
“[1]
พี่น้องทั้งหลาย ความปรารถนาในใจและคำอธิษฐานของข้าพเจ้าต่อพระเจ้าเพื่อชนชาติอิสราเอลคือ
ขอให้เขาทั้งหลายได้รับความรอด” (โรม 10:1 อมธ.) และเราพบว่าพระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเปาโลเสมอ
แล้วเราในสถานการณ์เช่นนี้เราจะทำได้อย่างไร?
ในสถานการณ์วิกฤติโควิด
19 คริสตชนแต่ละคนสามารถทำได้ด้วยการเขียนชื่อของคนที่ยังไม่ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์
ที่ตนรู้จัก และมีความสัมพันธ์สัก 2-3 ชื่อ แล้วอธิษฐานเผื่อเขาทุกวันเป็นประจำให้เขาได้รับการสัมผัสและรู้จักกับพระคริสต์ในที่สุด
การใส่ใจเพื่อนบ้านอย่างเป็นรูปธรรม
เปาโลใส่ใจในชีวิตของผู้คนอย่างจริงใจด้วยความรักเมตตาและทุ่มเททั้งชีวิต
เปาโลเขียนไว้ว่า “[1] ข้าพเจ้าพูดความจริงในพระคริสต์ ข้าพเจ้าไม่ได้กำลังมุสา
จิตสำนึกของข้าพเจ้ายืนยันโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า [2]
ข้าพเจ้าทุกข์โศกยิ่งนักและปวดร้าวใจไม่หยุดหย่อน [3]
เพราะข้าพเจ้าปรารถนาว่าถ้าเป็นไปได้ให้ข้าพเจ้าเองถูกสาปแช่งและถูกตัดขาดจากพระคริสต์เพื่อพี่น้องของข้าพเจ้าผู้เป็นคนเชื้อชาติเดียวกับข้าพเจ้า”
(โรม 9:1-3 อมธ.)
เปาโลเป็นคนที่ใส่ใจอย่างลึกซึ้งในชีวิตของผู้คน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้คนที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ยากในด้านต่าง ๆ แล้วท่านจะหาทางที่จะช่วยให้คนเหล่านี้ได้รับคำตอบในสิ่งที่เขาจำเป็นต้องการเสมอ
เปาโลเป็นผู้ที่ใส่ใจดูแลคนที่ต่ำต้อยด้อยค่าในสังคม “[10] เขาทั้งสาม (ยากอบ
เปโตร และ ยอห์น) ขอแต่เพียงให้เราคิดถึงคนจนเสมอ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้ากระตือรือร้นที่จะทำอยู่แล้ว” (กาลาเทีย 2:10 อมธ.) นี่เป็นคำกล่าวในจดหมายที่เปาโลเขียนถึงคริสตจักรในเมืองกาลาเทีย
จำนวนผู้คนมากมายในสังคมชุมชนขณะนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
19 ทั้งด้านสุขภาพ ความสัมพันธ์ เศรษฐกิจ การงานอาชีพ และความมั่นคงในชีวิต หน้าที่ของคริสต์ชนคือการที่เราจะใส่ใจทั้งด้านร่างกายสุขภาพ
อาหารความอยู่รอดในแต่ละวัน ทั้งด้านอารมณ์ความรู้สึก ความต้องการเพื่อน ของทั้งเพื่อนบ้านข้างเคียง
เพื่อนร่วมงาน ที่คริสตชนจะสำแดงความรักที่เสียสละแบบพระคริสต์ที่เป็นรูปธรรม ใส่ใจถามถึงความรู้สึกและอารมณ์
และมีอะไรบ้างไหมที่จำเป็นต้องการในขณะนี้ที่เราสามารถแบ่งปันได้ และนี่คือการที่เราเอาใจใส่ด้วยจริงใจอย่างแท้จริง
การสื่อสารแบ่งปันพระกิตติคุณ
ให้เรากล้าที่จะสื่อสาร
แบ่งปันพระกิตติคุณด้วยวาจา และดำเนินแบบอย่างชีวิตที่เป็นรูปธรรม สำหรับเปาโลไม่ละอายที่จะแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยคำพูดวาจาของตน
“[16] ข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่องข่าวประเสริฐ
เพราะว่าข่าวประเสริฐนั้นเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า
เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกกรีกด้วย” (โรม 1:16 อมธ.) คริสตชนปัจจุบันก็ไม่ละอายในการพูดถึงข่าวประเสริฐ เพราะข่าวประเสริฐมิใช่วาทศิลป์ หรือการใช้เหตุผลตรรกะโต้เถียง แต่ข่าวประเสริฐเป็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าที่ทำงานในชีวิตของผู้คนต่าง
ๆ
คริสตจักรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างให้สมาชิกแต่ละคนที่จะกล้า
รู้จัก และสามารถที่จะแบ่งปันพระกิตติคุณอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คริสตจักรต้องเสริมสร้างตั้งแต่วันแรกที่คน
ๆ นั้นตัดสินใจรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ จากวิกฤติครั้งนี้ชี้ชัดว่า นี่คือสิ่งที่คริสตจักรต้องเสริมสร้างสมาชิกทุกคนของตนในการประกาศแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ในชีวิตประจำวัน
แต่อย่างไรก็ตาม ศิษยาภิบาล และ ผู้นำคริสตจักรอาจจะเสริมสร้างสมาชิกแบบตัวต่อตัวในการประกาศสื่อสารพระกิตติคุณในสถานการณ์จริงในขณะนี้ได้ด้วย
ให้เราตระหนักชัดว่า
ในช่วงเวลาวิกฤติชีวิต ผู้คนไขว่คว้า ยึดหาที่มั่นในชีวิต เป็นช่วงเวลาที่คริสตชนสามารถเข้าถึง
แบ่งปัน และหนุนเสริมจิตวิญญาณของผู้คนรอบข้างในสังคมชุมชน เป็นโอกาสที่จะประกาศแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ให้เป็นคำตอบชีวิตของเพื่อนบ้านแต่ละคนที่เราเข้าไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์
อย่าปล่อยให้
“โอกาสแห่งการทำพระราชกิจของพระคริสต์” ผ่านเลยไป
อย่าให้การกักเก็บตัวเองของเรากลายเป็นคนที่
“กักเก็บพระกิตติคุณไว้ในตนเองเท่านั้น” ในเวลาที่พระคริสต์ชี้นำ และ
ประสงค์ที่ต้องการทำพระราชกิจร่วมกับเรา
ประสิทธิ์
แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย
เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น