15 กรกฎาคม 2563

จะเลี้ยงความคิดของเราด้วยอะไรดี?

ในขณะที่เราใส่ใจเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และหาโอกาสในการออกกำลังกายที่เหมาะสมเพื่อจะมีร่างกายที่แข็งแรง ถึงแม้จะมิได้ใส่ใจ 100% ทุกครั้งเสมอไป แต่โดยภาพรวมแล้วคนส่วนมากใส่ใจเรื่องสุขภาพของตน แต่ในเวลาเดียวกัน เรากลับไม่ค่อยให้ความใส่ใจว่าจะเลี้ยงดูความคิดของเราด้วยอะไรและอย่างไรที่จะทำให้เรามีความนึกคิด จิตใจ มุมมองที่แข็งแรง และความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณ

สิ่งที่เราป้อนเข้าไปในความนึกคิดของเรา คือสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดความคิด และวิธีการคิด ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคลิกและพฤติกรรมชีวิตของเรา  

ถ้าคริสตชนรับเอาฐานเชื่อ-กรอบคิด ที่มาจากพระวจนะของพระเจ้า มุมมอง การตัดสินใจ พฤติกรรมชีวิต และบุคลิกภาพย่อมส่อสื่อออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมในทางความคิด คำพูด และ พฤติกรรมชีวิตด้านต่าง ๆ ที่เป็นไปตามพระวจนะของพระเจ้า เราสามารถกล่าวได้ว่า เรากำลังเลี้ยงดู บ่มเพาะ ฟูมฟัก และ หล่อหลอมความนึกคิดของเราด้วยพระวจนะของพระเจ้า

ความคิดเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยน

ในวัฒนธรรมสังคมที่เรามีชีวิตอยู่ “ความดี  มีศีลธรรม และ หลักการที่ได้รับการยอมรับ” ดูจะแตกต่างห่างไกลไปจากสัจจะความจริงในพระวจนะของพระเจ้า แต่เมื่อใครก็ตามที่อ่าน ศึกษา ค้นหา และ นำชีวิตของตนเข้าไปในแนวทางชีวิตตามสัจจะความจริงของพระเจ้าในพระวจนะ ความนึกคิดของคน ๆ นั้นเริ่มซึมซับเอาสัจจะความจริงจากพระวจนะ และสัจจะจากพระวจนะนั้นได้แผ่ซ่านแทรกซึมเข้าในความนึกคิด ความนึกคิดของคน ๆ นั้นเริ่มรับอิทธิพลหรือพลังสัจจะของพระวจนะเข้าไปเปลี่ยนแปลงฐานเชื่อกรอบคิด กระบวนการคิดของเขา ย่อมทำให้มุมมองโลกทัศน์ และ บุคลิกภาพของคนๆนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง กระบวนการคิด และ การตัดสินใจดำเนินไปตามแนวทางใหม่ตามอิทธิพลของสัจจะความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า และพฤติกรรมชีวิตคนๆนั้นจะเปลี่ยนแปลงตามมาอย่างเป็นรูปธรรม จนคนรอบข้างสังเกตเห็นได้ชัดเจน

พระวจนะของพระเจ้าได้แสดงวิถีทางที่มีความสัมพันธ์ระหว่าง “วิถีคิดของเรา” และ “โลกทัศน์ของเรา” กับ สุขภาวะทางจิตวิญญาณ หรือ ความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของเรา 

เปาโลกล่าวว่า  “[2] อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม (สมบูรณ์พร้อม)”  (โรม 12:2 มตฐ. ในวงเล็บสำนวน อมธ.)

ภาษากรีกคำว่า “เปลี่ยนแปลง” ที่ใช้ในพระธรรมข้อนี้ มีความหมายว่า “การปรับเปลี่ยนความคิดทางศีลธรรมและวิสัยทัศน์ทางจิตวิญญาณ และ ความคิดให้เป็นไปตามความคิดในพระวจนะของพระเจ้า  ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิตทั้งชีวิต”  

เมื่อเราศึกษาพระวจนะของพระเจ้า อิทธิพลสัจจะความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าจะปรับเปลี่ยนวิถีและวิธีการคิดของเราใหม่ให้มีวิถีและวิธีคิดไปในแนวทางเดียวที่สอดคล้องกับสัจจะแห่งพระวจนะพระเจ้า เมื่อเราได้รับการปรับเปลี่ยนวิถีและวิธีการคิดแล้ว พระวิญญาณของพระเจ้าจะปรับเปลี่ยนทัศนะมุมมองของเรา แรงจูงใจในชีวิต  และพฤติกรรมชีวิตของเราให้สอดคล้องตามแบบอย่างในชีวิตของพระคริสต์

แล้วเราเอาอะไรเลี้ยงดูความคิดของเรา?

พระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของเรา (ทิตัส 3:5) และเราสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ด้วยการ “เลี้ยงดู” ความนึกคิดของเราด้วยสัจจะความจริงจากพระวจนะของพระเจ้า ให้เราทูลขอพระเจ้าโปรดสำแดงให้เราเห็นว่า ความนึกคิดของเราได้หลงเจิ่นออกนอกวิถีทางแห่งสัจจะความจริงของพระองค์อย่างไร ทูลขอให้พระองค์โปรดพลิกฟื้นความนึกคิดของเราขึ้นใหม่ และฟื้นฟูความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณของเรา และให้เราร่วมในพระราชกิจการทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราในครั้งนี้ ด้วย “การเปลี่ยนแปลงชีวิตเชิงปฏิบัติ” ของเรา

พระวจนะของพระเจ้าบอกเราให้คิด...ในสิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่น่านับถือ สิ่งที่ยุติธรรม สิ่งที่บริสุทธิ์ สิ่งที่น่ารัก สิ่งที่ควรแก่การสรรเสริญ รวมทั้งถ้ามีสิ่งใดที่ยอดเยี่ยม สิ่งใดที่น่ายกย่อง (ฟีลิปปี 4:8 มตฐ.) และนี่คือ คุณลักษณะต่าง ๆ ที่พระวจนะของพระเจ้าบ่งชี้ชัดว่า เมื่อเรานึกคิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเราควรมีการคิดที่มีคุณลักษณะอย่างไรบ้าง

เลี้ยงความคิดของเราด้วยอาหารสุขภาพทางจิตวิญญาณ

ให้เราเริ่ม “พลิกฟื้นความนึกคิดจิตวิญญาณของเรา” บางท่านบอกว่าแล้วจะให้เริ่มต้นอย่างไร? มีหนทาง วิธีในการเลี้ยงดู ฟื้นฟูความนึกคิดจิตวิญญาณของเรามากมายด้วยสัจจะความจริงในพระวจนะของพระเจ้า ในที่นี้ขอประมวลวิธีการเป็นภาพรวมภาพใหญ่ ดังนี้

[#1] “อ่าน” พระวจนะของพระเจ้าเป็นประจำ

[#2] “ฟัง”  พระวจนะของพระเจ้า (ฟังเทศนา รายการพระวจนะพระเจ้าทางวิทยุ/โทรทัศน์/รายการออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต หรือ ฟังเทปเกี่ยวกับพระวจนะของพระเจ้า)

[#3] “จำ” พระวจนะของพระเจ้า จดจำ ท่องจำ สะสมพระวจนะของพระเจ้าในความนึกคิดจิตใจของเรา

[#4] “ภาวนา-ไต่ตรอง” พระวจนะของพระเจ้า ใคร่ครวญพระวจนะแสวงหาการทรงสำแดงจากพระเจ้าผ่านการไตร่ตรองพระวจนะของพระองค์

[#5] “ร่วม” ในกลุ่มศึกษาพระวจนะ ทั้งกลุ่มที่พบกันหน้าต่อหน้า หรือ กลุ่มศึกษาพระวจนะพระเจ้าทางออนไลน์ร่วมกัน

[#6] “ฟังเพลง” เปิดเพลงนมัสการ หรือ เพลงสรรเสริญจากเทป/ออนไลน์ฟังขณะทำงาน พักผ่อน หรือ กำลังขับรถยนต์

ในการปรับเปลี่ยน พลิกฟื้น ความนึกคิดของเราใหม่ให้สอดคล้องกับสัจจะความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องใช้เวลา ความอดทนกับตนเอง ถึงแม้การเปลี่ยนแปลง-พัฒนาทางร่างกายยังต้องออกกำลัง  การทุ่มเท ความอดทน และเวลา การเปลี่ยนแปลงพลิกฟื้นความนึกคิดและจิตวิญญาณของเราไม่สามารถทำได้ให้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงนี้เราไม่สามารถกระทำได้ด้วยตนเองเท่านั้น แต่เราต้องพึ่งในพระกำลังของพระเจ้า และการทำพระราชกิจของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา และ การที่พระเจ้าทรงใช้คริสตชนบางคนเข้ามาช่วยเสริมหนุนเราให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟื้นในความนึกคิดและจิตวิญญาณ

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.emmaus@gmail.com; 081-2894499



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น