31 มีนาคม 2564

เมื่อชีวิตไม่เป็นไปตามแผนการที่วางไว้!

ครั้งเมื่อผมอายุใกล้เข้าวัยเกษียณ (ตามที่คนอื่นกำหนดให้ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ทำงานประจำมาเป็นสิบปีแล้ว) ผมเริ่มกำหนดแผนงานชีวิตว่าจะทำอะไรบ้าง วางแผนตามใจปรารถนาที่อยากจะเป็นอยากจะทำ ตามกำลังศักยภาพที่ตนมีอยู่ และคิดว่าตนจะสามารถทำให้สำเร็จได้

แต่ในแผนงานเหล่านั้น ผมไม่ได้คิดเลยว่า ผมจะต้องป่วยหนักกะทันหัน ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉิน เรียกว่าเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ต้องขอบพระคุณพระเจ้า พระองค์ยังเปิดโอกาสที่ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีก แต่ผมเห็นแล้วว่า ตอนนี้ไม่สามารถที่จะดำเนินตามแผนงานชีวิตที่วางไว้ สภาพชีวิตที่จะวิ่งเต้นไปยังที่ต่าง ๆ ถูกจำกัดลงให้เหลือแค่ “เดินอย่างระมัดระวังไม่ให้ล้ม” อยู่กับบ้าน ปักหลักอยู่กับที่ มีเวลาอยู่กับตนเองและอยู่กับพระเจ้ามากขึ้น แต่ก็ยังมีโอกาสติดต่อสื่อสารกับผู้คนภายนอกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด

เรียกว่า แผนงานชีวิตที่เตรียมไว้ “พับเก็บ” ไว้บนหิ้ง เพราะมันเป็นจริงไม่ได้ในตอนนี้

ผมเกิดฉุกคิดและถามตนเองว่า แล้วพระเจ้าทำไมยังให้โอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีก? ผมได้แต่ก้มหัวลงอธิษฐานกับพระองค์ว่า ช่วงเวลาชีวิตที่เหลืออยู่นี้ พระองค์มีเป้าประสงค์อะไรในชีวิตที่มีในขณะนี้? ผมปรารถนาทำตามพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตที่ผมได้รับ

เสียงจากข้อพระคัมภีร์ที่คุ้นชินเพราะใช้เป็นประจำเมื่อต้องเขียนบทความ หรือ ใช้ในการฝึกอบรมเกี่ยวกับการวางแผนงานของคริสตชน  แว่วขึ้นมาว่า

“มนุษย์วางแผนงานอยู่ในใจ 

แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดแต่ละย่างก้าวของเขา”

(สุภาษิต 16:9 อมธ.)

ใช่... เราวางแผนชีวิตตามใจปรารถนาของเราเองเสียจนสวยหรู แต่เราไม่สามารถกำหนดย่างก้าวที่จะก้าวไปทีละก้าวอย่างชัดเจนแม่นยำได้ แต่พระเจ้ากลับเป็นผู้ที่ช่วยกำหนดแต่ละย่างก้าวในชีวิตประจำวันของเรา เป็นย่างก้าวที่ก้าวย่างบนความเป็นจริงและเป็นไปได้ตามพระประสงค์ของพระองค์ และที่สำคัญคือ พระเจ้าจะทรงเปิดเผย “ทีละย่างก้าว” ในแต่ละวันให้เรารู้และเดินตามด้วยการเชื่อฟังและไว้วางใจในการทรงนำของพระองค์ เสรีภาพของผมก็คือ ผมสามารถเลือกได้ว่าจะก้าวเดินตามที่พระองค์เปิดเผยแก่ผมในวันนี้หรือไม่ก็ได้

ที่กล่าวมาทั้งสิ้นนี้ไม่ได้หมายความว่าผมเปลี่ยนมุมมองว่า การวางแผนไม่ใช่เรื่องสำคัญ การวางแผนเป็นเรื่องที่สำคัญครับ การที่เราสามารถกำหนดเส้นทางเดินในชีวิตของเราไปสู่อนาคตเป็นความสามารถที่พระเจ้าประทานแก่เรา เรากำหนดเป้าหมายและยึดมั่นในความฝันที่มี และหวังว่าวันหนึ่งเราคงสามารถไปถึงเป้าหมายที่วางนั้น แต่ในหลายครั้งหลายหนที่พระเจ้า “ทรงเปลี่ยน” ทิศทางชีวิตของเราให้ไปในแนวทางใหม่ เป็นเป้าหมายชีวิตที่เราไม่เคยคาดหวัง แต่กลับเป็นแผนการที่ดีเยี่ยมที่พระองค์วางไว้เพื่อเรา

ก้าวย่างที่พระองค์ได้กำหนดให้เรา อาจจะเป็นก้าวย่างที่นำเราไปในทิศทางที่เราเองตั้งใจจะไป  หรืออาจจะนำเราไปยังที่ที่เราไม่ต้องการจะไปก็ได้ แต่เรามั่นใจได้เลยว่า พระพรของพระเจ้าจะไม่หยุดชะงักเพียงเพราะสถานการณ์แวดล้อมของเราเปลี่ยนไป

เราสามารถที่จะดำเนินไปด้วยความมั่นใจในพระสัญญาของพระองค์ ถึงแม้จะดูไม่เหมือนอย่างที่เราได้วางแผนไว้ก็ตาม ในช่วงที่พบว่าตนเองสุ่มเสียงต่อการตาย จนกระทั่งค่อย ๆ ดีขึ้น และกลับมาสู่สุขภาพที่จะต้องเอาใจใส่อยู่แต่ที่บ้าน เป็นช่วงเวลาที่เรียกว่ายากลำบากสำหรับตนเอง  การที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวันในสถานการณ์ใหม่  

แน่นอนครับแผนการชีวิตต่าง ๆ ที่เคยวางไว้ถูกลบขจัดออกไปจากความนึกคิด แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้ผมเองกลับมีเวลาส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากยิ่งขึ้น มีสิ่งสำคัญก่อนหลังในชีวิตที่เปลี่ยนลำดับไปจากเดิม ทรงเข้ามาพลิกฟื้นย่างก้าวในชีวิตของผม และเมื่อผมยอมที่จะก้าวย่างไปตามที่พระเจ้าได้เปลี่ยนแปลง ชี้นำใหม่ ผมเลิกคิดที่จะกลับไปก้าวเดิมตามแผนเดิมที่ผมได้กำหนดไว้

ดังนั้น วันนี้ผมใคร่บอกกับทุกท่านว่า ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าเมื่อสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตของเราไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราได้วางแผนการไว้ เราไว้วางใจพระเจ้าองค์นี้ได้อย่างมั่นใจ และเราสามารถเชื่อมั่นได้ว่าทุกย่างก้าวที่พระองค์กำหนดให้เราดำเนินไปนั้นเป็นย่างก้าวที่พระองค์กำหนดเพื่อสิ่งดีดีที่จะเข้ามาในชีวิตขอเรา

พระเจ้าพระบิดาของลูก

ขอบพระคุณสำหรับการทรงนำและทิศทางชีวิตที่พระองค์ชี้นำ เพราะพระองค์คือผู้ที่กำหนดวิถีชีวิตอนาคตของลูก ลูกจึงไม่ต้องกลัวอะไรเลย ลูกชอบที่จะกำหนดเป้าหมายและฝันสำหรับอนาคต แต่พระองค์รู้ว่าอะไรคือสิ่งดีที่สุดสำหรับลูก พระองค์คือผู้ประพันธ์ทักทอชีวิตของลูก

พระวจนะของพระองค์บอกลูกว่า พระองค์ “วางทุกย่างก้าวของลูก” แม้เมื่อลูกคิดวางแผนชีวิตสำหรับตนเอง ลูกอาจจะกำหนดสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำในปฏิทิน แต่ลูกจะเปิดช่องทางสำหรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่วางแผนไว้ โปรดช่วยลูกให้สามารถที่จะรับวิถีทางของพระองค์สำหรับลูก ถึงแม้มันไม่เหมือนกับแผนการที่ลูกได้คิดวางไว้แล้วก็ตาม หรือ พระองค์กำลังนำลูกไปในที่ลูกไม่อยากจะไป ทางของพระองค์ไม่ใช่ทางของลูก แต่ลูกไว้วางใจทางทั้งสิ้นแผนการทั้งหมดที่พระองค์ชี้นำให้ลูกไป

พระเจ้าพระบิดา วันนี้ขอโปรดให้ดวงตาของลูกมองเห็นพระราชกิจของพระองค์บนเส้นทางที่พระองค์ได้ประทานให้แก่ลูก ช่วยให้ลูกมองเห็นถึงสัจจะความจริงในพระสัญญาของพระองค์   ลูกมั่นใจว่า พระองค์จะไม่ละทิ้งลูกไป พระองค์มีแผนการเยี่ยมยอดในอนาคตสำหรับลูก ในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น