ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิต
เรียกร้องให้เราไว้วางใจในพระเจ้าด้วยสุดจิตสุดใจของเรา (สุภาษิต 3:5) ถามกันแบบตรง ๆ
นะครับ
ไม่ทราบว่าท่านผู้อ่านเคยมีเวลาที่ไม่ได้ไว้วางใจพระเจ้าอย่างที่เราควรจะเป็นบ้างหรือไม่? แต่ผมมีครับ
และต่อไปนี้เป็นตัวชี้วัดว่าผมไม่ได้ไว้วางใจพระเจ้าอย่างที่ควรจะเป็น
1. ในบางคืนเวลาผมล้มตัวลงนอนแต่นอนไม่หลับ ที่ผมเป็นเช่นนี้เพราะผมยังต้องเรียนรู้ว่า
ผมจะนำทุกสิ่งในชีวิตจิตใจวางไว้แทบพระบาทของพระเยซูคริสต์อย่างไร
2. ผมด่วนที่จะผิดหวัง
หรือ ท้อแท้ใจต่อพระเจ้าเร็วเกินไป
เมื่อรู้สึกว่าการตอบสนองของพระเจ้าต่อคำอธิษฐานของผมช้าเกินไป เมื่อผมคาดหวังให้พระเจ้าทำตามแผนการของผม
ผมไม่ได้ไว้วางใจพระองค์อย่างที่ผมควรจะไว้วางใจ
3. ผมลงมือทำก่อนแล้วค่อยตามด้วยการอธิษฐานทีหลัง...เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ผมไม่ค่อยคิดมากเกี่ยวกับการไว้วางใจในพระเจ้าเมื่อผมยังรับมือกับทุกอย่างได้
4. ผมวิตกกังวล บางครั้งผมมีจิตใจว้าวุ่นวอกแวกจากการไว้วางใจในพระเจ้า แล้วพยายามที่จะหาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง อีกประการหนึ่ง
เกิดความวิตกกังวลในบางเรื่องบางสิ่งที่ผมเองไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้
5. ผมเกิดความกลัว ผมอาจจะไม่ยอมรับว่าผมกลัว แต่จริง ๆ แล้วผมกลัว
เมื่อความกลัวหยุดยั้งผมที่จะก้าวเดินไปด้วยความเชื่อ ผมไม่ได้ไว้วางใจในพระเจ้า
6. ผมมองดูด้านลบมากกว่าด้านบวก แก้วน้ำชีวิตของผมจะมีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว และจะว่างเปล่า(พร่อง)อยู่ครึ่งแก้ว ผมสนใจแต่ส่วนที่พร่องไป ดังนั้น
ผมจึงพลาดจากพระราชกิจของพระเจ้าที่กระทำรอบตัวผม
และในที่สุดผมก็ไม่ได้ไว้วางใจในพระองค์
7. ผมไม่ได้ฟังพระเจ้าผ่านพระวจนะของพระองค์ ผมอาจจะอ่านพระวจนะของพระเจ้า แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมได้ยินได้ฟัง และไว้วางใจพระองค์เสมอไป
8. ผมเพิ่งมารู้ตัวว่า
ผมไม่ได้ไว้วางใจพระเจ้าเหมือนอย่างที่ผมบอกคนอื่น ๆ ให้ไว้วางใจในพระองค์ พระวิญญาณของพระเจ้ามีวิธีที่สอนเราเกี่ยวกับตัวเรา...แม้ว่าบางครั้งเราไม่ชอบในสิ่งที่เราเรียนรู้จากพระวิญญาณ
ผมเชื่อว่าผมยังต้องเรียนรู้ที่จะไว้วางใจพระเจ้าต่อไป
แต่ผมภาวนาและตั้งใจว่า จะยังเติบโตขึ้นในสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ แล้วท่านล่ะ
ท่านรู้ได้อย่างไร หรือ เมื่อใดบ้างที่ท่านยังไม่ได้ไว้วางใจในพระเจ้าตามที่ท่านควรจะเป็น?
ท่านอาจจะลองใช้ตัวชี้วัดข้างบนนี้วัดความไว้วางใจพระเจ้าของท่านบ้างก็ได้ครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น