17 ตุลาคม 2555

พระเจ้าอยู่ไหนในวันนี้!


อ่านเอเฟซัส 3:20-21

ขอให้พระเกียรติมีแด่พระองค์
ผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่งได้มากยิ่งกว่าที่เราทูลขอหรือคิด
โดยฤทธานุภาพที่ทรงกระทำกิจอยู่ภายในเรา
(เอเฟซัส 3:20 ฉบับมาตรฐาน)

บ่อยครั้ง  เมื่อเราอธิษฐาน หรือ ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติเรามักทูลขอให้พระองค์ทำในสิ่งที่เราต้องการ   โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามักทูลขอต่อพระเจ้าให้ทำการช่วยเหลือเราและเปลี่ยนแปลงคนนั้น สิ่งนี้  สถานการณ์ที่กำลังไม่น่าพอใจหรือพึงประสงค์

เราเคยหยุดแล้วคิดไหมว่า ทำไมเราถึงทูลขอพระเจ้าเช่นนั้น? นั่นเพราะเรามักคิดว่า ถ้าพระเจ้าทรงเปลี่ยนคนนั้นที่เราเห็นว่าแย่  ทำไม่ได้   ทำไม่ดี   ทำไม่ถูกใจเรา หรือเปลี่ยนสถานการณ์รอบข้างที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ได้ ปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นจะได้รับการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เสียหายจะได้รับการแก้ไข แต่เราต้องตระหนักชัดว่า ความคิดที่เราทูลขอให้พระเจ้าช่วยทำนี้   นี่มันเป็นความคิดของเรา!  เปาโล แนะนำในจดหมายถึงคริสตชนในเอเฟซัสและถึงเราจากประสบการณ์ชีวิตของท่านว่า  เราอาจจะคิดผิด  เราอาจจะคิดเล็กเกินไป ที่เราคิดจะให้พระเจ้าเปลี่ยนสถานการณ์และคนรอบข้าง  

แต่พระองค์ทรงประสงค์เปลี่ยนแปลงและสร้างชีวิตของเราเองขึ้นใหม่!

ใช่ครับ!   บ่อยครั้ง เรามักขอให้พระเจ้าทำตามสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเห็นว่าต้องทำ แต่เราเคยถามพระองค์สักนิดไหมว่า ในสถานการณ์ชีวิตอย่างที่เราประสบพบเจออยู่นี้   พระองค์คิด  พระองค์มีแผนการแนวทางในการเปลี่ยนแปลงเสริมสร้างสิ่งดีให้เกิดขึ้นหรือไม่?  อย่างไร?

ทั้งนี้  เพื่อเราจะได้เปลี่ยนจากอธิษฐานให้ พระเจ้าช่วยและทำตามความคิดของฉัน  ไปเป็นขอพระเจ้าทรงเปลี่ยนแปลง แก้ไข และเสริมสร้างเราตามพระประสงค์และแผนการของพระองค์   การที่ใครคนใดคนหนึ่งอธิษฐานได้เช่นนี้  ก็ต่อเมื่อ...

ประการแรก     คนๆ นั้นต้องเชื่อวางใจว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงมีฤทธานุภาพและพลังอำนาจมากเกินความเข้าใจของเรา  ที่พระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงชีวิตทุกมิติของเราแต่ละคนจากข้างในและก่อเกิดพลังการเปลี่ยนแปลงสู่ภายนอกรอบข้างชีวิตของคนๆ นั้น
ประการที่สอง  คนๆ นั้น ต้องยอมรับว่าการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระทำตามแผนการและเวลาที่เหมาะสมของพระองค์   ดังนั้น  คนๆ นั้นพร้อมและเต็มใจที่จะ “รอคอย” การกระทำกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยความเชื่อและไว้วางใจ
                             ดังนั้น  เราจะทำตัวเป็น “เด็กหนุ่มใจร้อน” ไม่ได้   แม้กระบวนการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์จะดูเชื่องช้าเช่นใดในสายตาของเรา   แต่เราต้องเรียนรู้ว่า ในกระบวนการการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์  เป็นกระบวนการพระราชกิจของพระเจ้าที่กำลังทำกับชีวิตของตัวเราเองทั้งชีวิต   จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องเชื่อและวางใจในการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเราแต่ละวันด้วยความอดทน   ถึงแม้เราจะไม่เห็นการเกิดผลที่รวดเร็วตามใจปรารถนาของเราก็ตาม
                             แต่เราต้องมั่นใจว่า  พระเจ้าจะไม่เร่งรีบตามคำเรียกร้องของมนุษย์  แต่พระองค์ก็จะไม่ยอมแพ้  หรือ บอกเลิกในสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ!
ประการที่สาม  คนๆ นั้นต้องเชื่อและไว้วางใจว่า พระเจ้าทรงมีแผนการของพระองค์ในชีวิตของเราแต่ละคน   เราต้องวางใจและพร้อมที่จะเดินตามแผนการนั้นในฐานะบุตรที่เชื่อและยอมทำตามแผนการของพระเจ้า   แม้เราจะไม่เห็นแผนการทั้งหมดของพระองค์อย่างชัดเจนก็ตาม   แต่ “พร้อมและยอม” ที่ทำตามแผนการนั้นของพระองค์วันต่อวัน   ด้วยเพียงมั่นใจว่า ในกระบวนการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเราพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงและเสริมสร้างเราขึ้นใหม่ให้เป็นเหมือนพระคริสต์มากยิ่งขึ้นทุกวัน  และเป็นผู้ใหญ่ในพระองค์ยิ่งๆ ขึ้น
ประการที่สี่       เวลาเราอธิษฐานทูลขอ   เรามักทูลขอในสิ่งที่เราห่วงกังวล   เรามักคิดถึงสิ่งที่เราทำเราสร้างจะไม่สำเร็จ   จึงทูลขอให้พระเจ้าทำในสิ่งที่เรากำลังทำ กำลังเกี่ยวข้องให้สำเร็จ   ไม่ว่าจะเป็นฐานะ ความเป็นอยู่ บุคลิกภาพของเรา  ลูกหลานของเรา  หรือสถาบันที่เราทำงาน   ชุมชนที่เราเกี่ยวข้อง   ผลงานในบริษัทที่เราทำงาน ฯลฯ   แต่เราต้องตระหนักชัดว่าพระเจ้าทรงประสงค์เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้เป็นไปตามแผนการของพระองค์ก่อน   เพื่อชีวิตของเราจะสามารถร่วมในพระราชกิจของพระเจ้า   เพื่อนำการเปลี่ยน แปลงสู่คนรอบข้าง  สถานการณ์แวดล้อม  องค์กร หน่วยงาน และที่ทำงานของเรา
ประการสุดท้าย   ในกระบวนการการทรงทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในชีวิตของเรา   บ่อยครั้งเราต้องประสบความความทุกข์ยากลำบาก   การไม่เห็นด้วยจากเพื่อนร่วมงาน   การขัดแข้งขัดขาเพราะการเสียประโยชน์ส่วนตัวของเพื่อนร่วมงาน   การถูกบีบคั้นเพราะแรงกดดันกระแสการเมืองในองค์กรที่ทำงาน   ความทุกข์ความลำบากสารพัดอาจเกิดขึ้นกับเรา   เราต้องยิ่งใกล้ชิดกับพระเจ้า   และขอพลังความเข้าใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าในสถานการณ์เช่นนั้น  พระองค์มีพระประสงค์จะทำอะไรในชีวิตของเรา  
        ในการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในชีวิต   นั่นอาจจะเป็นกระบวนการที่พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา  บุคลิกเดิมๆ  นิสัยเก่าๆ  ให้เราเป็น “คนใหม่” ในพระคริสต์   แต่ในเวลานั้นเราอาจจะรู้สึกว่า  “ทำไมพระเจ้าต้องทำเช่นนี้กับฉัน   ทำไมพระเจ้าถึงอนุญาตให้เหตุการณ์ที่แสนขมขื่นเกิดขึ้นกับฉัน?”  ในเวลานั้นเราอาจจะไม่เข้าใจในพระประสงค์และแผนงานของพระองค์   แต่เราเชื่อและมั่นใจว่า  พระเจ้าทรงรู้ว่าพระองค์กำลังทำอะไรในชีวิตของเรา

พระเจ้ามีพระประสงค์ทำงานภายในชีวิตของเราแต่ละคน   เพื่อจะเปลี่ยนแปลง แก้ไข และเสริมสร้างให้เราเป็นคนที่พระองค์สามารถใช้ได้ตามพระประสงค์   เพื่อนำการเปลี่ยนแปลง แก้ไข และการเสริมสร้างใหม่ไปสู่คริสตจักร  ครอบครัว  ชุมชน  ในที่ทำงาน  ประเทศ  และในโลกที่ทันสมัยในปัจจุบัน

ทั้งนี้   เราต้อง “ใจกว้าง” พอสำหรับพระเจ้าครับ   เพราะ  พระเจ้าทรงกระทำทุกสิ่งกว้างใหญ่เกินกว่าที่เราทูลขอและที่เราคิดครับ   และเมื่อพระเจ้าทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์   พระองค์ไม่ได้เริ่มต้นที่ไหนครับ   พระองค์เริ่มกระทำกิจในชีวิตของเราแต่ละคน   แต่มีคำถามว่า เราจะยอมรับวิธีการเช่นนี้ของพระองค์หรือไม่เท่านั้น?

ประเด็นเพื่อการใคร่ครวญ

1. ที่ผ่านมา   ท่านเคยทูลขอให้พระเจ้าช่วยสิ่งต่างๆ ตามความคิดความรู้สึกของท่านหรือไม่?   ผลเป็นอย่างไรบ้าง?
2. ท่านเคยมีประสบการณ์หรือไม่ว่า  การทูลขอต่อพระเจ้าแล้วพระองค์ไม่ตอบสักที?   แล้วท่านทำเช่นไรในเวลาเช่นนั้น?
3. ท่านเคยมีประสบการณ์หรือไม่ว่า  พระเจ้าตอบคำอธิษฐานของท่านไม่เป็นไปตามที่ท่านทูลขอ คาดคิด?   ตอนนั้นท่านรู้สึกอย่างไร และ มีความคิดเห็นอย่างไร?   ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
4. ท่านคิดเห็นอย่างไรต่อความเชื่อที่ว่า   พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ทำงาน “ในชีวิตของท่าน” ?  ท่านเคยมีประสบการณ์ในเรื่องนี้หรือไม่?   เกิดผลอย่างไรบ้าง?
5. ถ้าท่านจะอธิษฐานทูลขอต่อพระเจ้าจากก้นบึ้งแห่งชีวิตจิตใจของท่านในวันนี้   ท่านจะทูลขอต่อพระเจ้าในเรื่องอะไร และทูลขอว่าเช่นไร?

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น