20 พฤษภาคม 2553

...ปลอบโยน

ชีวิตของเราพักพิงในความรักมั่นคงของพระเจ้า

ในภาวะวิกฤติแห่งชีวิต มนุษย์แสวงหาการปลอบโยน
การปลอบโยนสามารถแสดงออกในหลายลีลาท่าทีของชีวิต
คุณแม่ปลอบโยนลูกน้อยที่กำลังกลัวและรู้สึกถูกคุกคาม
พ่อแม่กำลังหุงหาอาหารในครอบครัวที่ผู้คนหิวโหย
เพื่อนที่ฟังเพื่อนที่ประสบกับความทุกข์ยากและต้องการการหนุนช่วยอย่างตั้งใจและจริงใจ
ที่สำแดงออกมาทั้งสิ้นนี้ก็เพราะความรักเมตตาของพระคริสต์ที่ไร้เงื่อนไข ที่ไม่ทำให้เจ็บช้ำซ้ำซาก

ในวันนี้เรามิได้เผชิญหน้ากับความทุกข์โศกและบาดเจ็บของทั้งเราและเพื่อนอย่างโดดเดี่ยวว้าเหว่
เพราะเรามิได้เผชิญความเลวร้ายเหล่านั้นด้วยตัวของเราเอง
เพราะเราเผชิญสิ่งเหล่านี้ด้วยกำลังจากพระคริสต์ที่เสริมหนุนเรามากกว่ากำลังที่มีอยู่ในตัวเรา
เพราะเมื่อเรายอมตนให้พระคริสต์ทรงใช้เราในยามวิกฤติชีวิตในวันนี้
เรากำลังเปิดชีวิตของเราให้พระคริสต์สร้างเสริมภายในชีวิตของเราขึ้นใหม่ ...
เราเรียนรู้ชีวิตใหม่

เพราะเมื่อเราเอนชีวิตของเราพิงพักในพระคริสต์ยามที่หมดแรงสิ้นกำลัง ...
ชีวิตเราพบศานติและความสงบผ่อนพัก
ในเวลาเช่นนั้น เราได้รับการห่มด้วย “ผ้าห่มแห่งความรักเมตตา” ของพระองค์
ชีวิตได้รับการปกคลุม ซุกซ่อน อบอุ่น สงบ หลับอย่างผ่อนพัก
ชีวิตที่จะตื่นขึ้นด้วยกำลังใหม่ ความเบิกบานภายใน ความรู้สึกมั่นคง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูยังไม่เปลี่ยนแปลง

ด้วยประสบการณ์เช่นนี้ เราได้เรียนรู้บทเรียนชีวิต
บทเรียนชีวิตนี้... พระคริสต์กำลังบ่มเพาะ ฟูมฟักให้เราเติบโตขึ้นในพระองค์
บทเรียนชีวิตนี้...พระคริสต์ทำให้เราได้ใกล้ชิด และ ไว้วางใจพระองค์มากยิ่งขึ้น
บทเรียนชีวิตนี้...เราได้เรียนรู้ว่า มิใช่สถานการณ์แวดล้อมที่เป็นตัวกำหนดชีวิตเรา... แต่พระคริสต์ต่างหาก
บทเรียนชีวิตนี้...เสริมกำลังความมั่นใจของเรา นำไปสู่การเติบโตเป็นความกล้าหาญในความรักเมตตา
บทเรียนชีวิตนี้...ทำให้เรารู้ซึ้งว่า ท่ามกลางวิกฤติชีวิต พระคริสต์ใช้เราให้เป็นทูตของพระองค์...
สำแดงความรักของพระองค์
บทเรียนชีวิตนี้...เราจึงเติบโตขึ้นในการเรียนรู้ถึงน้ำพระทัยแบบพระคริสต์ และพระประสงค์ของพระองค์

ด้วยบทเรียนชีวิตดังกล่าว เราจึงพบกับพระคริสต์ทุกวัน “ในชีวิต”
ทั้งในชีวิตของเราเอง และ ในชีวิตของผู้คนที่เราพบและสัมผัสสัมพันธ์
การพบพระคริสต์เช่นนี้เอง ที่เราได้รับพลังแห่งชีวิต พลังแห่งความรักเมตตาแบบพระองค์

“พระหัตถ์ของพระองค์ได้สร้างและปั้นแต่งข้าพระองค์ขึ้น
โปรดให้ข้าพระองค์มีความเข้าใจ เพื่อจะเรียนรู้ถึงพระบัญชาของพระองค์...
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้ว่าบทบัญญัติของพระองค์นั้นชอบธรรม
และรู้ว่าพระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นทุกข์นั้นก็เพราะพระองค์ทรงสัตย์ซื่อ
ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์ปลอบประโลมข้าพระองค์
ตามที่ทรงทรงสัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์...”
(สดุดี 119:73, 75-76 ตามสำนวนอมตธรรมร่วมสมัย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น