คุณเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ หรือ
เพื่อนของคุณเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ไหมครับ?...ว่า งานที่กำลังทำ หรือ
ได้รับงานใหม่ด้วยความตื่นเต้น
และคาดหวังถึงสิ่งดี ๆ และความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น ท่านรู้สึกได้ว่าพระเจ้าสถิตกับคุณในงานที่กำลังทำ
คุณรู้สึกขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการทรงนำของพระองค์ แต่ไม่เท่าไหร่จู่ ๆ ก็เห็นว่างานที่ทำงานใหม่ที่ได้มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตนคาดหวังและรู้สึก บางท่านอาจจะพบว่าต้องขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน หรือ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
หรือไม่ท่านก็พบว่าเกิดช่องว่างกว้างลึกระหว่างความคิดของท่านกับความจริงในงานที่ท่านต้องรับผิดชอบ
ทันใด
ความรู้สึกที่ตื่นเต้นกับงานที่ทำพลันอันตรธานหายไป
แต่ความรู้สึกสับสนซับซ้อนซ่อนเงื่อนเกิดมาแทนที่ ความท้อแท้หมดกำลังใจประดังเข้ามาในความรู้สึกของท่าน ความสิ้นหวังอยู่ข้างหน้าแค่เอื้อม คุณเริ่มฉงนสงสัยว่า
พระเจ้าอยู่ที่ไหนกันนี่? หรือท่านกำลังพลาดคลาดไปจากการทรงนำของพระเจ้า? ยิ่งสงสัยว่า
แล้วพระเจ้าจะทรงช่วยฉุดดึงท่านออกจาก “บ่อทรายดูด” ในที่ทำงานนี้หรือไม่?
ในเวลาที่เราจะต้องปล้ำสู้กับสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิดเช่นนี้นำเราให้ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น ทำให้เราต้องมุ่งมองหาพระปัญญาของพระเจ้า มองหาไขว่คว้าการทรงนำของพระองค์ และเราต้องการการปลอบและกำลังใจ
ในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตการทำงานเช่นนี้เป็นโอกาสที่ปรับความนึกคิดจิตใจของเรา ทั้งนี้
เพื่อเราจะสามารถรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าได้อย่างเต็มกำลัง และ
เกิดผลอย่างมากมายในเวลาของพระองค์
ในมาระโก 1:12-13
หลังจากพระเยซูคริสต์รับบัพติสมาในแม่น้ำจอร์แดนจากยอห์นผู้ให้บัพติสมา เกิดเหตุการณ์สำคัญสองประการคือ พระวิญญาณที่มีสัณฐานเหมือนนกพิราบลงมาที่พระเยซู
(1:10)
จากนั้นมีเสียงจากเบื้องบนว่า
“ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา
เราชอบใจท่านมาก” (1:11) เหตุการณ์ทั้งสองนี้ย่อมนำมาซึ่งความรู้สึกตื้นตันและภูมิใจในชีวิตของพระเยซูคริสต์ ยิ่งกว่านั้น พระเยซูเข้าใจว่า นี่เป็นการทรงเรียกจากพระเจ้าให้ทำพันธกิจของพระเจ้า
ซึ่งมิใช่พันธกิจที่ร่วมกิจกรรมการสรรเสริญนมัสการพระเจ้าในพระวิหารเท่านั้น
แต่เป็นการทรงเรียกให้พระองค์ทำพันธกิจของพระเมสสิยาห์ที่จะต้องกระทำ เป็นพันธกิจแห่งแผ่นดินของพระเจ้า
ถ้าคนที่ไม่รู้เรื่องพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ก็จะทึกทักเข้าใจว่า
จากนี้พระเยซูคริสต์ก็จะทำสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ทันที เทศนาอย่างจับจิตเจาะใจ รักษาคนเจ็บคนป่วย ขับวิญญาณชั่วออกจากผู้คน และสิ่งอื่นอีกมากมาย
แต่ก่อนที่เหตุการณ์ที่กล่าวข้างต้นจะเกิดขึ้น มาระโกกลับบันทึกไว้ว่า “...ทันที
พระวิญญาณก็ทรงเร่งเร้าพระองค์ให้เสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และประทับอยู่ที่นั่นถึงสี่สิบวัน
ทรงถูกซาตานทดลอง และประทับอยู่กับสัตว์ป่า
และมีพวกทูตสวรรค์มาปรนนิบัติพระองค์” (มาระโก 1:12-13 มตฐ.)
พระวิญญาณของพระเจ้าเร่งเร้าพระเยซูให้เข้าไปในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งเป็นที่ที่ผู้เผยพระวจนะทั้งหลายได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า
เป็นที่ที่อิสราเอลปล้ำสู้กับน้ำพระทัยของพระเจ้า ตามการบันทึกของมาระโก พระเยซูคริสต์ต้องเผชิญการท้ายทายในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นพระองค์ถูกมารร้ายอำนาจชั่วทดลอง และต้องต่อสู้กับเหล่าสัตว์ร้ายทำให้พระเยซูอ่อนจิตอ่อนใจอ่อนกำลังชีวิต แต่ในสถานการณ์เลวร้ายเช่นนั้น
พระเยซูได้รับการเสริมกำลังชีวิตจากพระเจ้า
พระองค์ได้รับการเสริมกำลังด้วยการปรนนิบัติจากทูตสวรรค์จากเบื้องบน
มาระโกไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดในการทดลองอย่างปรากฏในมัทธิว
และ ลูกา
แต่ท่านต้องการบอกผู้อ่านว่า
พระเยซูคริสต์ถูกเร่งเร้าให้เข้าไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อถูกการทดลองโดยอำนาจแห่งความชั่วร้าย
การทดลองดังกล่าวไม่ได้เป็นการเกิดขึ้นโดยบังเอิญ
และก็ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่พระเจ้ามิได้ทรงคาดหวัง
แต่มาระโกต้องการบอกกับเราว่าพระหัตถ์ของพระเจ้าอยู่เหนือพระเยซูแม้จะต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตรายต่อชีวิต และกล่าวอย่างชัดเจนว่า
พระวิญญาณของพระเจ้าเร่งเร้าพระเยซูให้มีประสบการณ์ในเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้
ในที่นี้ไม่ได้หมายว่า ในทุกครั้งที่เรามีงานใหม่ หรือ
เราจะรับผิดชอบงานหนึ่งงานใด
แล้วพระวิญญาณของพระเจ้าทรงอยู่เบื้องหลังเร่งเร้าให้เกิดสถานการณ์เลวร้ายเหล่านั้น ความยุ่งยากซับซ้อนตลอดจนความสับสนที่เกิดขึ้นในการทำงานอาจจะเกิดขึ้นจากคนในที่ทำงาน
หรือ อาจจะเกิดขึ้นจากตัวเราเองก็ได้ แต่ในมาระโก 1:12-13
กล่าวถึงข่าวดีแห่งแผ่นดินของพระเจ้าว่า
พระเจ้าทรงสถิตท่ามกลางชีวิตที่ยุ่งเหยิงซับซ้อนและสับสนของเรา มากยิ่งกว่านั้น ในขณะที่เรากำลังต้องปล้ำสู้และเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากและการทดลอง พระเจ้าจะทรงหนุนเสริมชูช่วยเราผ่าน “ทูตสวรรค์”
ของพระองค์
แน่นอนว่าผ่านการทรงช่วยเหลือหนุนเสริมของพระวิญญาณของพระเจ้า
ในเวลาที่เราถูกการทดลอง
การปล้ำสู้กับเหตุร้ายอันตรายต่าง ๆ เป็นเวลาที่ทรงนำเราให้เชื่อฟังและพึ่งในพระองค์ แสวงหาพระปัญญา มองหาการทรงนำ และการประเล้าประโลมให้กำลังชีวิตจากพระองค์ เป็นเวลาที่ความนึกคิดจิตใจของเราจะได้รับการปรับและทำให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อว่า
เราจะสามารถรับใช้พระองค์เต็มกำลัง และ เกิดผลมากยิ่งขึ้น ในพระนามของพระองค์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น