20 เมษายน 2553

พระราชกิจแห่งการเตรียม...

1ข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้าเริ่มต้นตรงนี้ 2ในพระธรรมอิสยาห์ผู้เผยพระวจนะมีเขียนไว้ว่า “เราใช้ทูตของเราไปข้างหน้าท่าน ผู้นั้นจะเตรียมมรรคาของท่านไว้ 3เสียงผู้ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียมมรรคาแห่งพระเป็นเจ้า จงกระทำหนทางของพระองค์ให้ตรงไป” (มาระโก 1:1-3)

พระเจ้าทรงมีแผนการในพระราชกิจของพระองค์
ในแผนงานของพระองค์ทรงมีเวลาที่กำหนดของพระองค์เอง
พระองค์ทรงเลือกและใช้คนที่จะเตรียมสำหรับแผนการใหม่ในพระราชกิจของพระองค์
ทุกวันนี้ พระเจ้าทรงเลือกและใช้ผู้ที่เชื่อศรัทธาในพระองค์

ให้เตรียมความพร้อมสำหรับ “การงอก” ขึ้น และ “การเติบโตขึ้น”
ของเมล็ดแห่งชีวิตของพระเยซูคริสต์ ในชีวิตของผู้คนหลากหลาย

วันนี้ พระองค์ทรงเรียกท่านให้ทำหน้าที่ “ผู้เตรียม...”
ในสังคมล้อมรอบตัวท่านไม่ว่าจะเป็น...
ในครอบครัว
ในที่ทำงาน
ในชุมชน
ในกลุ่มเพื่อนฝูง หรือแม้แต่
ในคริสตจักร และ
ในทุกที่ที่ท่านไปและท่านอยู่...

ยอห์นผู้ให้บัพติศมา
ได้ใช้ทั้งชีวิตของท่าน ทำหน้าที่ผู้เตรียมพระมรรคาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ท่านเตรียมชีวิตคนเหล่านั้น
ให้สำรวจการดำเนินชีวิตตนเอง
ให้หันกลับมาหาพระเจ้า
ให้รับการทรงยกโทษความผิดบาปจากพระองค์
ให้รับบัพติศมา
ให้สำแดงผลของการกลับใจใหม่ออกมาในการดำเนินชีวิตประจำวัน

ทั้งสิ้นนี้ ยอห์น กระทำเพื่อเป็นการเตรียมประชาชนในเวลานั้นที่จะรับชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสต์

ยอห์นผู้ให้บัพติศมาเตรียมชีวิตประชาชน
ท่านเตรียมด้วยการกระตุ้น ปลุกความคิด จิตสำนึกของประชาชน
ท่านกระตุ้นให้แต่ละคนต้องกลับมาสำรวจพิจารณาชีวิตของตนเอง
จนประชาชนหลายกลุ่มต่างถามท่านว่าเขาควรทำอย่างไร?
ท่านเปิดโอกาสให้ประชาชนต้องตัดสินใจเลือก
ท่านให้บัพติศมา เพื่อเป็นเครื่องหมายถึงการมีชีวิตที่ยอมและพึ่งพิงในพระเจ้า

ท่าทีของยอห์นผู้ให้บัพติศมาในการเป็นผู้เตรียมทางชีวิตประชาชน...

ยอห์น...เป็นเสียงร้องในถิ่นทุรกันดาร
เป็นสียงท่ามกลางชีวิตที่แห้งแล้ง เปล่าเปลี่ยว โดดเดี่ยว
ที่ประชาชนคนธรรมดา คนยากจน คนสิ้นหวังได้คำตอบ
แต่ก็เป็นเสียงที่คนอยู่ในที่อุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ความสะดวกสบายกลับให้ความสนใจ
เป็นเสียงที่ผู้มีอำนาจ มีตำแหน่ง มีชื่อเสียง ต้องให้ความสนใจ
เป็นเสียงที่กระเทือนอำนาจทางการเมืองในเวลานั้น

ยอห์น...ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย
เรียบง่ายที่สอดคล้องกับสภาพชีวิตในถิ่นทุรกันดาร
เรียบง่ายในการแต่งกาย
เรียบง่ายในอาหารการกิน
เรียบง่ายในที่พักหลับนอน
เรียบง่ายในภาษาที่ใช้
เรียบง่ายในความสัมพันธ์
เรียบง่ายในการรับใช้

ยอห์น...ทำงานรับใช้โดยไม่อาศัยตำแหน่ง, หน้าตา, อำนาจ, ความทันสมัย, พลังเงินทอง, และพรรคพวกลิ่วล้อ
แต่ท่านทำงานผ่านชีวิตประจำวันของท่าน
สิ่งที่ท่านเป็นและท่านทำเป็นการกระตุกต่อมสนใจของผู้คน
สิ่งที่ท่านพูด กระตุ้นให้ผู้ได้ยินได้ฟังต้องฉุกคิดใหม่
สิ่งที่ท่านอธิบายเข้าใจง่ายเกิดความกระจ่างในความเข้าใจ และ พิจารณาตรวจสอบตนเอง
สิ่งที่ท่านถามทำให้ผู้คนต้องตัดสินใจ

ยอห์น...รับใช้ด้วยความศรัทธา สัตย์ซื่อ และสัจจะ
ท่านตอบคำถามของผู้มีอำนาจ มีเงินมีทอง มีตำแหน่ง
ด้วยศรัทธา ด้วยสัจจะ และด้วยใจสัตย์ซื่อ
ผู้นำทางศาสนาออกมาหาท่านในถิ่นทุรกันดาร
ผู้นำการเมืองมาขอคำแนะนำจากท่าน
ผู้นำทหารมาขอหลักปฏิบัติในชีวิตของตน
ท่านคัดค้านการกระทำของกษัตริย์เฮโรด
เพราะความศรัทธา สัตย์ซื่อ และถือสัจจะของยอห์น
เฮโรดจึงนับถือท่าน แม้ต้องจำจองท่านในคุก

ยอห์น...สำนึกเสมอว่า ตนคือผู้เตรียมทางชีวิตของประชาชนเพื่อพระคริสต์
ยอห์นสำนึกเสมอว่า ตนมิใช่ผู้ที่จะให้ความรอดได้ มีแต่พระคริสต์เท่านั้น
ยอห์นเตรียมสาวกเพื่อส่งต่อให้เขาเหล่านั้นติดตามพระคริสต์
ยอห์นสำนึกชัดเจนว่า ตนจะไม่ “ฉกฉวย” “กล่าวอ้าง” ว่าตนเป็นผู้ทำให้สำเร็จ
ไม่สร้างอำนาจ ความยิ่งใหญ่ ความมั่นคง ชื่อเสียงเกียรติยศ
พรรคพวก และผลประโยชน์แห่งตน
บนความสำเร็จในพระราชกิจแห่งการเตรียม...

เมื่อพระเยซูทำพระราชกิจของพระองค์ มีคนจำนวนมากติดตามพระองค์ และรับบัพติศมาจากพระองค์ ถึงขนาดสมาชิกสภาผู้ปกครองแห่งชาติของยิวคนหนึ่งในตอนนั้นเข้ามาพบพระเยซูเป็นการลับ(ในเวลากลางคืน) ทำให้เกิดการถกเถียงกันระหว่างกลุ่มสาวกของยอห์นกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะในเวลานั้น ยอห์นผู้ให้บัพติศมาก็กำลังให้บัพติศมาแก่ผู้คนจำนวนมาก เพียงแต่อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ (ยอห์น 3:1-36)

กลุ่มสาวกของยอห์นนำเรื่องนี้มาเล่าให้ยอห์นฟัง เพราะกำลังรู้สึกว่า กลุ่มของพระเยซูกำลังเป็น “คู่แข่ง” สำคัญของยอห์น ถึงขนาดมีการพบกันเป็นการลับระหว่างพระเยซูกับสมาชิกสภาผู้ปกครองแห่งชาติของยิว แต่คำตอบของยอห์นกลับให้ความกระจ่างชัดเจนว่า “พระองค์จะต้องยิ่งใหญ่ขึ้น ส่วนเราต้องด้อยลง” (ยอห์น 3:30, IBS) “พระองค์ผู้เสด็จมากจากเบื้องบนทรงเป็นใหญ่เหนือทุกสิ่ง” (ข้อ 31) ยอห์นสำนึกเสมอว่าตนคือผู้ที่ร่วมในพระราชกิจแห่งการเตรียมชีวิตประชาชนสำหรับพระคริสต์ ตนเองไม่มีความยิ่งใหญ่ใดๆ แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นที่ทำร่วมในพระราชกิจแห่งการเตรียม...นี้

เป็นการทรงเรียกให้ทำในชีวิตประจำวันของตนเพื่อพระคริสต์

ในวันนี้ ขอภาวนาอธิษฐาน ให้การดำเนินชีวิตของเรา...
ช่วยให้ผู้คนรอบข้างที่เราพบปะ สัมผัส สัมพันธ์
ได้เห็นท่าทีของเรา
ได้ยินน้ำเสียงของเรา
ได้สัมผัสกับสัมพันธภาพของเรา
ได้รู้สึกถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ จริงใจ และศรัทธาของเรา
ที่คนเหล่านั้นจะเกิดความพร้อมยิ่งขึ้นที่จะรับเอาเมล็ดแห่งชีวิตของพระคริสต์เข้าในชีวิตของตน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น