ศิษยาภิบาลคือผู้ที่ตอบสนองการทรงเรียกของพระเยซูคริสต์
ให้นำชุมชนคนที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์
ให้มีเป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่จะสานต่อพระราชกิจแห่งการกอบกู้ พลิกฟื้น
และการทรงสร้างใหม่ของพระองค์ให้ไปสู่การปกป้องคุ้มครองของพระเจ้า ในแผ่นดินของพระองค์
ศิษยาภิบาลจึงมิใช่ “ตำแหน่ง”
ที่ให้สิทธิอำนาจแก่ศิษยาภิบาลเป็นผู้ที่มีสถานภาพเหนือกว่าผู้เชื่อคนอื่น ๆ ตรงกันข้าม
ศิษยาภิบาลคือคนรับใช้พระคริสต์ท่ามกลางชีวิตของผู้คนในสังคม เฉกเช่นที่พระองค์มาเพื่อรับใช้มวลชนด้วยชีวิต
และประทานชีวิตของพระองค์เพื่อผู้คนเป็นอันมาก
ดังนั้น
บทบาทของศิษยาภิบาลก็คือคนใช้ของพระเยซูคริสต์ ที่รับใช้ด้วย “สิทธิอำนาจ”
ที่พระคริสต์ประทานให้ แต่ต้องตระหนักชัดในที่นี้ว่า สิทธิอำนาจนี้พระคริสต์ประทานให้เพื่อกอบกู้
พลิกฟื้น และทรงสร้างสังคมโลกนี้ขึ้นใหม่ ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์และพระบิดา
คือการสานต่อพระราชกิจแห่งการนำ “แผ่นดินของพระเจ้า”
คือน้ำพระทัยของพระบิดาให้สำเร็จเป็นรูปธรรมในสังคมบนแผ่นดินโลกนี้
กล่าวคือ ให้ศิษยาภิบาลรับใช้ด้วยสิทธิอำนาจจากพระคริสต์เพื่อให้บรรลุตามพระประสงค์ของพระองค์และพระบิดา มิใช่
สนองตอบความต้องการตามความปรารถนาของตนเอง
กลุ่มพรรคพวก หรือ องค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น และก็มิใช่เพื่อผลประโยชน์ ค่าจ้างรางวัล เพราะค่าจ้างรางวัลพระเจ้าจะประทานให้เอง
แต่ศิษยาภิบาลต้องรับใช้พระคริสต์ท่ามกลางชีวิตของมวลชน เพื่อให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่
น้ำพระทัยของพระบิดาเป็นอย่างไรในสวรรค์ ให้เป็นเช่นนั้นในแผ่นดินโลกด้วย
พันธะความรับผิดชอบของศิษยาภิบาลที่มีต่อพระคริสต์เจ้าคือ
- วางรากฐาน และ เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของผู้เชื่อร่วมกับผู้เชื่อให้หยั่งรากลงในพระวจนะของพระเจ้า (ทั้งกายภาพ จิตวิญญาณ อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก และความสัมพันธ์)
- ฟูมฟักและเลี้ยงดูให้ผู้เชื่อเติบโตขึ้นให้มีวุฒิภาวะ(เป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์)ทั้งในความเชื่อ ความคิด และการดำเนินชีวิตประจำวัน ผ่านกระบวนการบ่มเพาะด้านต่าง ๆ ของชุมชนคริสตจักร
- สรรสร้างให้ผู้เชื่อหรือสมาชิกคริสตจักรเติบโตเข้มแข็งขึ้นเป็นสาวกพระคริสต์ และได้รับการพัฒนาไปสู่การเป็นคนรับใช้พระคริสต์ตามของประทาน ศักยภาพ ที่พระเจ้าทรงประทานให้
- เอื้ออำนวยให้ผู้เชื่อแต่ละคนได้เรียนรู้ และ มีประสบการณ์ตรงถึงพระราชกิจของพระคริสต์ในชีวิตของตน ผ่านชีวิตชุมชนคริสตจักร ชีวิตประจำวัน และชีวิตในการรับใช้พระองค์
- พัฒนาเสริมหนุนให้ผู้ปกครอง คณะธรรมกิจคริสตจักร แกนนำคริสตจักรให้เป็นผู้อภิบาล และร่วมเป็นทีมอภิบาลของคริสตจักรทำงานรับใช้ร่วมกับศิษยาภิบาล และนำไปสู่การพัฒนาให้ชุมชนคริสตจักรเป็นชุมชนของการอภิบาล เยียวยารักษาชีวิต และเป็นชุมชนที่สร้างโอกาสใหม่ ชีวิตใหม่แก่ทุกคนที่เข้ามาสัมผัสกับชุมชนคริสตจักร และในพื้นที่ที่ผู้เชื่อของคริสตจักรออกไปรับใช้พระคริสต์
- เกื้อหนุนให้เกิดการบริหารจัดการชีวิตและการทำพันธกิจคริสตจักรอย่างมีส่วนร่วม โดยสำนึกอย่างชัดเจนว่า ชีวิตและการทำพันธกิจคริสตจักรขับเคลื่อนไปได้อย่างเข้มแข็งด้วยการขับเคลื่อนของมวลสมาชิกที่เป็นผู้รับใช้พระคริสต์ทุกคน ภายใต้การทรงนำและพระกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
- ศิษยาภิบาลคือผู้ที่ทุ่มเทชีวิตในการอธิษฐานด้วยสุดชีวิตจิตใจ ที่ใส่ใจอธิษฐานเจาะจงถึงชีวิตและการรับใช้ของสมาชิกแต่ละคน เพื่อแต่ละคนจะมีชีวิตและการรับใช้ในแต่ละวันตามพระประสงค์ และมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าในชีวิตแต่ละวัน
ศิษยาภิบาลคงไม่ “ติดหล่ม” ในการทำพันธกิจประจำของคริสตจักร การใช้สิทธิอำนาจจากตำแหน่งในการประกอบศาสนพิธี และฐานะพิเศษที่แยกต่างหากจากคนธรรมดาสามัญ
จนหมดแรงที่จะกระทำการตอบสนองการทรงเรียกของพระคริสต์ให้สานต่อพระราชกิจแห่งการกอบกู้
พลิกฟื้น และการทรงสร้างใหม่ของพระองค์
ให้ผู้คนมีชีวิตที่อยู่ใต้ร่มพระคุณ
ภายใต้การปกป้องคุ้มครอง
เป็นโอกาสใหม่ ชีวิตใหม่ในแผ่นดินของพระเจ้าในสังคมประเทศไทยและโลกนี้
ให้เราเดินร่วมกับพระคริสต์ในวันนี้ เพื่อรับใช้พระองค์ให้สังคมโลกนี้ ให้เราพาเพื่อมนุษย์เดินเข้าไปสู่แผ่นดินของพระเจ้า ด้วยพระกำลังหนุนเสริมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น