16 ตุลาคม 2557

ศิษยาภิบาลคือใคร? ใครคือศิษยาภิบาล?

ศิษยาภิบาลคือผู้ที่ตอบสนองการทรงเรียกของพระเยซูคริสต์   ให้นำชุมชนคนที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์   ให้มีเป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่จะสานต่อพระราชกิจแห่งการกอบกู้  พลิกฟื้น  และการทรงสร้างใหม่ของพระองค์ให้ไปสู่การปกป้องคุ้มครองของพระเจ้า ในแผ่นดินของพระองค์

ศิษยาภิบาลจึงมิใช่ “ตำแหน่ง” ที่ให้สิทธิอำนาจแก่ศิษยาภิบาลเป็นผู้ที่มีสถานภาพเหนือกว่าผู้เชื่อคนอื่น ๆ ตรงกันข้าม  ศิษยาภิบาลคือคนรับใช้พระคริสต์ท่ามกลางชีวิตของผู้คนในสังคม  เฉกเช่นที่พระองค์มาเพื่อรับใช้มวลชนด้วยชีวิต   และประทานชีวิตของพระองค์เพื่อผู้คนเป็นอันมาก  

ดังนั้น  บทบาทของศิษยาภิบาลก็คือคนใช้ของพระเยซูคริสต์ ที่รับใช้ด้วย “สิทธิอำนาจ” ที่พระคริสต์ประทานให้ แต่ต้องตระหนักชัดในที่นี้ว่า สิทธิอำนาจนี้พระคริสต์ประทานให้เพื่อกอบกู้ พลิกฟื้น และทรงสร้างสังคมโลกนี้ขึ้นใหม่ ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์และพระบิดา คือการสานต่อพระราชกิจแห่งการนำ “แผ่นดินของพระเจ้า”  คือน้ำพระทัยของพระบิดาให้สำเร็จเป็นรูปธรรมในสังคมบนแผ่นดินโลกนี้

กล่าวคือ ให้ศิษยาภิบาลรับใช้ด้วยสิทธิอำนาจจากพระคริสต์เพื่อให้บรรลุตามพระประสงค์ของพระองค์และพระบิดา   มิใช่ สนองตอบความต้องการตามความปรารถนาของตนเอง  กลุ่มพรรคพวก  หรือ องค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น   และก็มิใช่เพื่อผลประโยชน์ ค่าจ้างรางวัล เพราะค่าจ้างรางวัลพระเจ้าจะประทานให้เอง แต่ศิษยาภิบาลต้องรับใช้พระคริสต์ท่ามกลางชีวิตของมวลชน เพื่อให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ น้ำพระทัยของพระบิดาเป็นอย่างไรในสวรรค์ ให้เป็นเช่นนั้นในแผ่นดินโลกด้วย

พันธะความรับผิดชอบของศิษยาภิบาลที่มีต่อพระคริสต์เจ้าคือ
  1. วางรากฐาน และ เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของผู้เชื่อร่วมกับผู้เชื่อให้หยั่งรากลงในพระวจนะของพระเจ้า (ทั้งกายภาพ  จิตวิญญาณ อารมณ์  ความคิด  ความรู้สึก  และความสัมพันธ์)
  2. ฟูมฟักและเลี้ยงดูให้ผู้เชื่อเติบโตขึ้นให้มีวุฒิภาวะ(เป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์)ทั้งในความเชื่อ  ความคิด  และการดำเนินชีวิตประจำวัน   ผ่านกระบวนการบ่มเพาะด้านต่าง ๆ ของชุมชนคริสตจักร
  3. สรรสร้างให้ผู้เชื่อหรือสมาชิกคริสตจักรเติบโตเข้มแข็งขึ้นเป็นสาวกพระคริสต์ และได้รับการพัฒนาไปสู่การเป็นคนรับใช้พระคริสต์ตามของประทาน ศักยภาพ ที่พระเจ้าทรงประทานให้
  4. เอื้ออำนวยให้ผู้เชื่อแต่ละคนได้เรียนรู้ และ มีประสบการณ์ตรงถึงพระราชกิจของพระคริสต์ในชีวิตของตน ผ่านชีวิตชุมชนคริสตจักร ชีวิตประจำวัน และชีวิตในการรับใช้พระองค์
  5. พัฒนาเสริมหนุนให้ผู้ปกครอง  คณะธรรมกิจคริสตจักร  แกนนำคริสตจักรให้เป็นผู้อภิบาล  และร่วมเป็นทีมอภิบาลของคริสตจักรทำงานรับใช้ร่วมกับศิษยาภิบาล   และนำไปสู่การพัฒนาให้ชุมชนคริสตจักรเป็นชุมชนของการอภิบาล  เยียวยารักษาชีวิต  และเป็นชุมชนที่สร้างโอกาสใหม่  ชีวิตใหม่แก่ทุกคนที่เข้ามาสัมผัสกับชุมชนคริสตจักร   และในพื้นที่ที่ผู้เชื่อของคริสตจักรออกไปรับใช้พระคริสต์
  6. เกื้อหนุนให้เกิดการบริหารจัดการชีวิตและการทำพันธกิจคริสตจักรอย่างมีส่วนร่วม   โดยสำนึกอย่างชัดเจนว่า   ชีวิตและการทำพันธกิจคริสตจักรขับเคลื่อนไปได้อย่างเข้มแข็งด้วยการขับเคลื่อนของมวลสมาชิกที่เป็นผู้รับใช้พระคริสต์ทุกคน ภายใต้การทรงนำและพระกำลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
  7. ศิษยาภิบาลคือผู้ที่ทุ่มเทชีวิตในการอธิษฐานด้วยสุดชีวิตจิตใจ   ที่ใส่ใจอธิษฐานเจาะจงถึงชีวิตและการรับใช้ของสมาชิกแต่ละคน   เพื่อแต่ละคนจะมีชีวิตและการรับใช้ในแต่ละวันตามพระประสงค์  และมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าในชีวิตแต่ละวัน


ศิษยาภิบาลคงไม่ “ติดหล่ม” ในการทำพันธกิจประจำของคริสตจักร  การใช้สิทธิอำนาจจากตำแหน่งในการประกอบศาสนพิธี  และฐานะพิเศษที่แยกต่างหากจากคนธรรมดาสามัญ   จนหมดแรงที่จะกระทำการตอบสนองการทรงเรียกของพระคริสต์ให้สานต่อพระราชกิจแห่งการกอบกู้ พลิกฟื้น และการทรงสร้างใหม่ของพระองค์   ให้ผู้คนมีชีวิตที่อยู่ใต้ร่มพระคุณ  ภายใต้การปกป้องคุ้มครอง  เป็นโอกาสใหม่ ชีวิตใหม่ในแผ่นดินของพระเจ้าในสังคมประเทศไทยและโลกนี้

ให้เราเดินร่วมกับพระคริสต์ในวันนี้   เพื่อรับใช้พระองค์ให้สังคมโลกนี้   ให้เราพาเพื่อมนุษย์เดินเข้าไปสู่แผ่นดินของพระเจ้า   ด้วยพระกำลังหนุนเสริมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น