16 ตุลาคม 2557

ฉันฝันถึง “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”

ในนิมิตฉันได้เห็น...                                                         
หลายคน  หลายทีม ที่ถวายตัวแด่พระเจ้า   สำหรับการรับใช้ในตำแหน่ง “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”

แต่ละคนกระตือรือร้นที่ต้องการมอบชีวิตของตนแด่พระเจ้า   เพื่อสานต่อพระราชกิจแห่งการทรงกอบกู้  พลิกฟื้น  และสร้างใหม่ของพระเยซูคริสต์ในสังคมประเทศไทย

แต่ละคนมุ่งมั่น เต็มใจ “ให้” โดยไม่ได้คิดถึงความเหน็ดเหนื่อย ทุกข์ยาก ลำบาก  หรือ  รางวัล ค่าตอบแทน และผลประโยชน์   แต่พร้อมที่จะ “ทุ่มและเท” ทั้งชีวิตให้เป็นเครื่องบูชาแด่พระคริสต์   เพียงขอให้มั่นใจว่า  สิ่งที่ทำนั้นเป็นน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์ก็พอใจแล้ว

ในนิมิตฉันเห็นภาพประหลาด...
ทั้งคนที่ได้รับเลือกจากสมัชชาฯ ให้เป็น “ผู้บริหาร”  และคนที่ไม่ได้รับเลือกต่างหันหน้าเข้าหากัน  ร่วมมือกัน “สานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์” ในสังคมประเทศไทย   ด้วยความรักซึ่งกันและกันตามพระทัยของพระคริสต์
ในนิมิตฉันเห็นผู้เสนอตัวรับเลือกเป็น “ผู้บริหารสภาฯ” เปลี่ยนไป...

พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เสนอ “นโยบาย” ที่พวกเขาคิด ปรารถนา ที่มีภาพสวยหรู และ สัญญาว่าจะทำ...?
แต่ฉันกลับเห็นพวกเขาเสนอว่า...
พวกเขาจะเอื้ออำนวยหนุนเสริมให้คริสตจักรท้องถิ่นสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ในสังคมประเทศไทยอย่างไรบ้าง

ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ จะกระตุ้นและให้ความมั่นใจแก่...
โรงพยาบาลภายใต้สภาคริสตจักรฯ ให้ดำเนินพันธกิจอย่างสัตย์ซื่อ ทุ่มเท ที่สานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ด้านคุณภาพชีวิต  สุขภาพ  และจิตวิญญาณอย่างไร ด้วยความเมตตาและเข้าอกเข้าใจ และ การรับใช้ผู้คนที่มารับบริการในพระนามของพระเยซูคริสต์   โดยเฉพาะอย่างยิ่งใส่ใจรับใช้คนยากไร้  ขาดโอกาส  คนชายขอบและคนนอกกรอบสังคมตามกฎหมาย   พวกเขารับใช้ผู้คนโดยมิใช่คำนึงถึง “ค่าบริการ”  แต่เขาคำนึงถึง พระฉายาของพระเจ้าในคนเหล่านั้น   และคุณค่าในความเป็นคนที่พระเจ้าทรงประทานให้   พวกเขารู้ว่าที่เขากระทำเช่นนี้มิใช่เพื่อที่จะแสดงว่าเขาทำรายได้ให้สภาฯ ปีละเท่าไหร่!   แต่เขากำลังแสดงถึงสำนึกชัดเจนว่า เขากำลังกระทำต่อชีวิตของผู้เล็กน้อยที่พระคริสต์กำลังใส่ใจอยู่

ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ  ให้ความชัดเจนและมุ่งส่งเสริมให้...
โรงเรียน และ มหาวิทยาลัยภายใต้สภาคริสตจักรฯ  ให้การทุ่มเท ใส่ใจในการสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่  ตามคุณธรรม จริยธรรมบนรากฐานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์   เสริมสร้างทุกคนในสถาบันการศึกษาให้มี “ภาวะผู้นำที่เป็นคนรับใช้ผู้คนและสังคม”   โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นแบบอย่าง   ให้มีความคิดจิตสำนึกอย่างพระคริสต์   พร้อมที่จะทนทุกข์ยาก   มีความหวังและรอคอย   เพื่อที่จะทำให้เกิดศานติสุขในแผ่นดินและสังคมประเทศไทย

แต่ฉันยังแปลกใจอยู่ไม่หาย   เพราะฉันพบว่า...
“ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”   ไม่มุ่งสนใจการหารายได้จากสถาบันเหล่านี้   แต่กลับให้ใช้รายได้เพื่อการสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์แห่งการกอบกู้  พลิกฟื้น  และ สร้างชีวิตใหม่” ในสถาบันแห่งนั้น ๆ   และยังเรียกร้องให้คริสตจักรท้องถิ่นเข้ามาช่วยสถาบันเหล่านี้ในการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์อีกด้วย

ในนิมิตฉันเห็น “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ” เอาจริงเอาจังกับ...
หน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำงานด้านการเสริมพันธกิจคริสตจักรด้วยการลงไป “คลุก” อยู่กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรของหน่วยงานเหล่านั้น   เขาลงไปรับฟัง  ปรึกษา  ค้นหา  คิดด้วยกัน  ตัดสินใจด้วยกัน  วางแผนร่วมกัน...กับหน่วยงานเหล่านั้น   (เขามิได้ลงไปเพื่อให้นโยบายเท่านั้น!)

ทั้งนี้เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีนิมิต  เป้าหมาย  แผนงาน  วิธีการ  และกระบวนการทำงานที่เอื้ออำนวยและเสริมหนุนให้คริสตจักรท้องถิ่นมีพลัง  และ  ชัดเจนที่จะ “ร่วมและสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์”  ในพื้นที่  บริบท  และวัฒนธรรมของแต่ละคริสตจักร

ในนิมิต   ฉันตื่นเต้นที่ได้เห็นพระเยซูคริสต์ทรงเคียงข้าง และ จาริกไปทุกที่กับ “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”   พวกเขาปรึกษา ขอการทรงนำ  และการทรงชี้แนะจากพระองค์ในทุกเรื่องทุกสถานการณ์

ในนิมิต   ฉันอึ้งและน้ำตาไหล   เพราะเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาเหนือ “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”   พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ “คนเดิม” ต่อไป   แต่พวกเขากลับกายเป็น “คนใหม่”   ที่มี...
  • ศักยภาพมากกว่าเดิม
  • มีชีวิตที่ทุ่มเทด้วยความกล้าหาญ
  • มีท่าทีและการกระทำที่ถ่อมลงด้วยความรักที่เสียสละของพระคริสต์
  • พวกเขามิได้คิดถึงแต่ตนเอง   แต่มุ่งทำทุกอย่างตามพระประสงค์และน้ำพระทัยของพระคริสต์
  • พวกเขาเปี่ยมด้วยพลังแห่งการหนุนเสริมเพิ่มพลังแก่ทุกคนทุกฝ่าย   ให้มุ่งมั่นใส่ใจและทุ่มเทในการ “ร่วมและสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ฯ”  ในสังคมประเทศไทย


ฉันเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพลังแห่งชีวิตจิตวิญญาณของ “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”   ในการขับเคลื่อนทุกงาน   ทุกเรื่องในชีวิตของพวกเขา

นิมิตในที่สุด...ที่ฉันเห็น   ไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ  ด้วย “ระบบการเลือกตั้ง” แบบการเมืองตามกระแสสังคมไทยในยุคนี้” ต่อไป

ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย  สันทราย  เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น