ในนิมิตฉันได้เห็น...
หลายคน หลายทีม ที่ถวายตัวแด่พระเจ้า สำหรับการรับใช้ในตำแหน่ง
“ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”
แต่ละคนกระตือรือร้นที่ต้องการมอบชีวิตของตนแด่พระเจ้า เพื่อสานต่อพระราชกิจแห่งการทรงกอบกู้ พลิกฟื้น
และสร้างใหม่ของพระเยซูคริสต์ในสังคมประเทศไทย
แต่ละคนมุ่งมั่น เต็มใจ “ให้”
โดยไม่ได้คิดถึงความเหน็ดเหนื่อย ทุกข์ยาก ลำบาก
หรือ รางวัล ค่าตอบแทน
และผลประโยชน์ แต่พร้อมที่จะ “ทุ่มและเท”
ทั้งชีวิตให้เป็นเครื่องบูชาแด่พระคริสต์
เพียงขอให้มั่นใจว่า สิ่งที่ทำนั้นเป็นน้ำพระทัยและพระประสงค์ของพระองค์ก็พอใจแล้ว
ในนิมิตฉันเห็นภาพประหลาด...
ทั้งคนที่ได้รับเลือกจากสมัชชาฯ ให้เป็น
“ผู้บริหาร” และคนที่ไม่ได้รับเลือกต่างหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือกัน “สานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์”
ในสังคมประเทศไทย ด้วยความรักซึ่งกันและกันตามพระทัยของพระคริสต์
ในนิมิตฉันเห็นผู้เสนอตัวรับเลือกเป็น
“ผู้บริหารสภาฯ” เปลี่ยนไป...
พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เสนอ “นโยบาย”
ที่พวกเขาคิด ปรารถนา ที่มีภาพสวยหรู และ สัญญาว่าจะทำ...?
แต่ฉันกลับเห็นพวกเขาเสนอว่า...
พวกเขาจะเอื้ออำนวยหนุนเสริมให้คริสตจักรท้องถิ่นสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ในสังคมประเทศไทยอย่างไรบ้าง
ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ จะกระตุ้นและให้ความมั่นใจแก่...
โรงพยาบาลภายใต้สภาคริสตจักรฯ ให้ดำเนินพันธกิจอย่างสัตย์ซื่อ
ทุ่มเท ที่สานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ด้านคุณภาพชีวิต สุขภาพ
และจิตวิญญาณอย่างไร ด้วยความเมตตาและเข้าอกเข้าใจ และ
การรับใช้ผู้คนที่มารับบริการในพระนามของพระเยซูคริสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใส่ใจรับใช้คนยากไร้ ขาดโอกาส
คนชายขอบและคนนอกกรอบสังคมตามกฎหมาย
พวกเขารับใช้ผู้คนโดยมิใช่คำนึงถึง “ค่าบริการ” แต่เขาคำนึงถึง พระฉายาของพระเจ้าในคนเหล่านั้น และคุณค่าในความเป็นคนที่พระเจ้าทรงประทานให้
พวกเขารู้ว่าที่เขากระทำเช่นนี้มิใช่เพื่อที่จะแสดงว่าเขาทำรายได้ให้สภาฯ ปีละเท่าไหร่!
แต่เขากำลังแสดงถึงสำนึกชัดเจนว่า
เขากำลังกระทำต่อชีวิตของผู้เล็กน้อยที่พระคริสต์กำลังใส่ใจอยู่
ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ ให้ความชัดเจนและมุ่งส่งเสริมให้...
โรงเรียน และ
มหาวิทยาลัยภายใต้สภาคริสตจักรฯ ให้การทุ่มเท
ใส่ใจในการสร้างเยาวชนคนรุ่นใหม่
ตามคุณธรรม จริยธรรมบนรากฐานพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เสริมสร้างทุกคนในสถาบันการศึกษาให้มี
“ภาวะผู้นำที่เป็นคนรับใช้ผู้คนและสังคม”
โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นแบบอย่าง
ให้มีความคิดจิตสำนึกอย่างพระคริสต์
พร้อมที่จะทนทุกข์ยาก
มีความหวังและรอคอย
เพื่อที่จะทำให้เกิดศานติสุขในแผ่นดินและสังคมประเทศไทย
แต่ฉันยังแปลกใจอยู่ไม่หาย เพราะฉันพบว่า...
“ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ” ไม่มุ่งสนใจการหารายได้จากสถาบันเหล่านี้
แต่กลับให้ใช้รายได้เพื่อการสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์แห่งการกอบกู้ พลิกฟื้น
และ สร้างชีวิตใหม่” ในสถาบันแห่งนั้น ๆ
และยังเรียกร้องให้คริสตจักรท้องถิ่นเข้ามาช่วยสถาบันเหล่านี้ในการสานต่อพระราชกิจของพระคริสต์อีกด้วย
ในนิมิตฉันเห็น “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”
เอาจริงเอาจังกับ...
หน่วยงานต่าง ๆ
ที่ทำงานด้านการเสริมพันธกิจคริสตจักรด้วยการลงไป “คลุก” อยู่กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรของหน่วยงานเหล่านั้น เขาลงไปรับฟัง ปรึกษา
ค้นหา คิดด้วยกัน ตัดสินใจด้วยกัน วางแผนร่วมกัน...กับหน่วยงานเหล่านั้น (เขามิได้ลงไปเพื่อให้นโยบายเท่านั้น!)
ทั้งนี้เพื่อให้ทุกหน่วยงานมีนิมิต เป้าหมาย
แผนงาน วิธีการ และกระบวนการทำงานที่เอื้ออำนวยและเสริมหนุนให้คริสตจักรท้องถิ่นมีพลัง และ
ชัดเจนที่จะ “ร่วมและสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์” ในพื้นที่
บริบท และวัฒนธรรมของแต่ละคริสตจักร
ในนิมิต
ฉันตื่นเต้นที่ได้เห็นพระเยซูคริสต์ทรงเคียงข้าง และ จาริกไปทุกที่กับ
“ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ” พวกเขาปรึกษา
ขอการทรงนำ และการทรงชี้แนะจากพระองค์ในทุกเรื่องทุกสถานการณ์
ในนิมิต
ฉันอึ้งและน้ำตาไหล
เพราะเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาเหนือ “ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ” พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ “คนเดิม” ต่อไป แต่พวกเขากลับกายเป็น “คนใหม่” ที่มี...
- ศักยภาพมากกว่าเดิม
- มีชีวิตที่ทุ่มเทด้วยความกล้าหาญ
- มีท่าทีและการกระทำที่ถ่อมลงด้วยความรักที่เสียสละของพระคริสต์
- พวกเขามิได้คิดถึงแต่ตนเอง แต่มุ่งทำทุกอย่างตามพระประสงค์และน้ำพระทัยของพระคริสต์
- พวกเขาเปี่ยมด้วยพลังแห่งการหนุนเสริมเพิ่มพลังแก่ทุกคนทุกฝ่าย ให้มุ่งมั่นใส่ใจและทุ่มเทในการ “ร่วมและสานต่อพระราชกิจของพระเยซูคริสต์ฯ” ในสังคมประเทศไทย
ฉันเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพลังแห่งชีวิตจิตวิญญาณของ
“ผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ”
ในการขับเคลื่อนทุกงาน
ทุกเรื่องในชีวิตของพวกเขา
นิมิตในที่สุด...ที่ฉันเห็น ไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้งผู้บริหารสภาคริสตจักรฯ ด้วย “ระบบการเลือกตั้ง” แบบการเมืองตามกระแสสังคมไทยในยุคนี้”
ต่อไป
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น