เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับคนที่กำลังสร้างแต่ความยุ่งยากลำบาก หรือตกในสถานการณ์ที่ไม่เห็นทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ ในเวลาเช่นนั้น เราคงต้องยอมรับความจริงว่า
ความสามารถของเรามีความจำกัด แม้ว่าเราพยายามที่จะให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
แต่เราก็ต้องพบกับคนบางคนบางกลุ่มที่ยืนกรานที่จะปัดข้อเสนอและความคิดของเราในการที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
และกระทำในทางที่เสริมสร้างสันติสุขร่วมกัน
ในสถานการณ์เช่นนี้ผมเห็นด้วยกับคำสอนของเปาโลที่ว่า
“ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน
จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน” (โรม 12:18 มตฐ.)
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในสถานการณ์ที่มีแต่จะเอาแพ้เอาชนะ หรือแก่งแย่งชิงผลประโยชน์ให้เป็นของตนอย่างร้อนแรง
ทำอย่างไรที่เราจะอยู่กับคนเหล่านั้นในสถานการณ์เช่นนี้ ที่ยังรักษาความสัมพันธ์โดยไม่ยอมกระโดดลงไปในโคลนตมที่สร้างความขัดแย้ง ถึงแม้คนเหล่านั้นจะเป็นคนละขั้วทางความคิดเห็นกับเราก็ตาม
เราคงต้องยอมรับความจริงว่า
เราไม่สามารถที่จะไปบังคับกดดันให้คนอื่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้เราจะทุ่มเทพยายามในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทั้งทางความคิดและการกระทำ และสำนึกว่านั่นเป็นความรับผิดชอบต่อพระเจ้าก็ตาม
เราก็ยังไม่สามารถที่จะไปบังคับขู่เข็ญให้คนอื่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ถ้าเรายอมที่จะสงบในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ อีกทั้งยังรักษาสัมพันธภาพเท่าที่เหลือไว้ แล้วรอเวลาและโอกาสที่จะสร้างการคืนดีทางความคิดและการกระทำในอนาคต
เราก็จะมีโอกาสชักชวนเสริมสร้างทำสิ่งที่ถูกต้องในอนาคต โดยไม่รีบด่วนร้อนใจปิดกั้นทำลายความสัมพันธ์
และ โอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตดังกล่าว
ในกรณีเช่นนี้เราต้องไม่คิดว่าวิธีนี้เป็นการเสียเวลา เป็นการทำที่ไม่ชาญฉลาด แต่ให้เรามองมุมใหม่ว่า นี่เป็นการ “ใช้เวลา” เพื่อเปิดพื้นที่ของโอกาสใหม่ในอนาคตที่ให้เกิดการทำในสิ่งที่ถูกต้อง
การสร้างสันติและชอบธรรมในสังคมโลกต้องการความสุขุม รอบคอบ อดทน
รอคอยเพื่อสร้างพื้นที่ที่จะสร้างสัมพันธ์
ที่จะมีโอกาสสำแดงสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมในเวลาอันควร
แต่เราไม่สามารถสร้างโอกาสและพื้นที่ของการทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมด้วย
“ความดื้อรั้นหัวชนฝา”
ด้วยความรุนแรง
และด้วยการทำลายความสัมพันธ์
วันนี้เรากำลังอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ของความขัดแย้งที่เราต้องทำให้เกิด
“สันติอย่างชอบธรรม” หรือไม่?
อย่าให้เราท้อแท้สิ้นหวัง
แต่ให้เราใช้เวลาที่เราไม่รู้และไม่สามารถจะจัดการเช่นไรกับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กับการกระทำที่ไม่ชอบธรรม กับการกระทำที่ทำลายองค์กร ทำลายสังคม และทำลายคนอื่น
...ให้เราใช้เวลาที่เรามีอยู่ “ขอเวลานอก” ดีไหมครับ?...
ในการแข่งขันกีฬาหลาย ๆ ประเภท ในบางโอกาสโค้ช “ขอเวลานอก”
เพื่อที่จะให้นักกีฬาของตนมีโอกาสพบกัน
และโค้ชบอกถึงสิ่งที่เขาเห็นในเกมที่ผ่านมา แล้วแนะนำกลยุทธที่จะเล่นต่อไปในอนาคต นี่เป็นการใช้เวลาน้อยนิดที่เหลืออยู่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ท่ามกลางวิกฤติความเข้มข้นในการขับเคี่ยว เพื่อใช้เวลาสร้างการรู้เท่าทันเกมและวางแผนที่แหลมคมที่จะเล่นในช่วงเวลาเท่าที่เหลืออยู่
ท่ามกลางวิกฤติขัดแย้งในการกระทำที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม เราใช้เวลาเช่นนี้เป็นเวลานอกของเรา เพื่อจะรู้เท่าทันว่า เราจะสร้างพื้นที่และโอกาสที่จะให้เกิดการกระทำที่ถูกต้องชอบธรรมอย่างไรในอนาคต เราไม่วิ่งหนีออกจากสนาม หรือ ประท้วงหยุดเล่นกลางคัน เกมการแข่งขันที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมยังดำเนินต่อไปอยู่
แต่เราจะไม่ลดละที่จะใช้เวลาเช่นนี้ที่จะเรียนรู้เท่าทัน และมองหาพื้นที่และโอกาสที่เราจะหนุนเสริมให้เกิดการกระทำอย่างถูกต้องชอบธรรมต่อไป
เราสามารถใช้วิกฤติวันนี้เป็นโอกาสขอ “เวลานอก”
แล้วแสวงหาและเตรียมกระบวนการเสริมสร้าง การกระทำที่ถูกต้องยุติธรรม
ตามการทรงนำของพระเจ้า
ด้วยพระปัญญาที่ประทานให้
และด้วยพลังหนุนเสริมจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ และ ด้วยการรอคอยเวลาของพระเจ้า ครับ
ประสิทธิ์ แซ่ตั้ง
บ้านแม่แก้ดน้อย สันทราย เชียงใหม่
E-mail: prasit.barnabus@gmail.com
081-2894499
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น